กรุงเทพฯ--18 พ.ค.--rippleeffect
GIA หรือ สถาบันอัญมณีศาสตร์แห่งสหรัฐอเมริกา ที่เป็นผู้ให้กำเนิดมาตรฐานการตรวจสอบคุณลักษณะอัญมณี 4 Cs และมีสาขากระจายอยู่ทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย ได้จัดงานฉลองครบรอบ 80 ปี ครั้งยิ่งใหญ่พร้อมกัน เพื่อตอกย้ำความเป็นสถาบันฯ ที่ทำการศึกษา ค้นคว้า วิจัย และพัฒนา พร้อมทั้งให้ความรู้ด้านอัญมณีศาสตร์ ด้านวิชาการอัญมณีมาอย่างยาวนานจนได้รับการยอมรับและความไว้วางใจว่ามีความเชี่ยวชาญด้านอัญมณีมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
“GIA 80’s anniversary: Unveil the Journey to the Ultimate Success” ถูกจัดขึ้น โดยมี ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่การนำเครื่องประดับและอัญมณี “ต้นแบบ” กว่า 20 ชิ้น ส่งตรงจากพิพิธภัณฑ์จีไอเอ สหรัฐอเมริกามาจัดแสดง ร่วมกับ “อัญมณีที่ได้รับแรงบันดาลใจ” เกือบ 100 ชิ้น จาก 7 ผู้ค้าอัญมณีชั้นนำของไทยและต่างประเทศ ประกอบด้วย Beauty Gems, Fadamas, Faidee Gems, Pannarai, SETTE, S.T. Diamond และ Jewelmer จากประเทศฟิลิปปินส์ นำเสนอ ในเชิงศิลปะ ทั้งละครเพลง และ อาร์ต แกลอรี่ 3 มิติ พร้อมทั้ง การเล่าประสบการณ์ของ มร. เคนเนธ สคาร์แรทท์ กรรมการผู้อำนวยการ จีไอเอ ภาคพื้นเอเชียอาคเนย์ และผู้อำนวยการ ศูนย์วิจัยและตรวจวิเคราะห์อัญมณี จีไอเอ ประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในนักอัญมณีศาสตร์ ชั้นนำระดับโลก
ภายในงานซึ่งจัดขึ้น ณ ห้องแกรนด์ บอลรูม โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ถ.เพลินจิต ที่ถูกเนรมิตให้กลายเป็นโรงละครเพลงอันหรูหรา เริ่มจากการปรากฏตัวของ มร. เคนเนธ พร้อมสื่อ Live Presentation ถ่ายทอดความรู้สึก ประสบการณ์มุมมองที่ส่งผลต่อ การถ่ายทอด “เบื้องหลัง ความหลงใหล ในอัญมณีของนักอัญมณีศาสตร์ GIA” จากรุ่นสู่รุ่นตลอด 80 ปีที่ผ่านมา
“ตลอดเวลา 80 ปีที่ผ่านมาสำนักงาน GIAทุกแห่งทั่วโลกได้มุ่งมั่นศึกษาหาความรู้ด้านวิชาการ อัญมณีอย่างต่อเนื่อง และลึกซึ้ง ที่ไม่เพียงเป็นการมุ่งหวังศึกษาเชิงวิชาการ แต่ด้วยความรู้สึกผูกพัน และหลงใหลในความงดงาม รวมทั้งความหัศจรรย์ของโลกที่สร้างสรรค์อัญมณีแต่ละชนิดขึ้นมาได้อย่างสวยงามในรูปแบบที่แตกต่างกัน ซึ่งก้าวต่อไปของ GIA จะยังคงให้ความสำคัญกับองค์ความรู้ ที่เข้มแข็งด้านอัญมณี และการให้บริการด้านการตรวจสอบ อัญมณีให้กับผู้รักอัญมณี และยังพร้อม ที่จะแสวงหาความร่วมมือในด้านต่างๆ กับผู้ค้าอัญมณีในประเทศไทย เพื่อพัฒนาวงการอัญมณี และเผยแพร่ความรู้ด้านนี้ให้กว้างขวางมากขึ้นอีกด้วย” มร. เคนเนธกล่าว
?
สำหรับการแสดงช่วง ไฮไลท์ นั้น แพนเค้ก -เขมนิจ จามิกรณ์ ดาราสาวชื่อดัง ร่วมนำเสนอความงดงามของเพชรเครื่องประดับเพชรโดยสวมชุด Old Diamond แห่งยุค Art Deco นำแสดงในรูปแบบละครเพลง ประกอบคณะบัลเลต์ ซึ่งมีนักร้องเสียงดี รัดเกล้า อมระดิษ เป็นผู้ถ่ายทอดบทเพลง You raise me up และ All I ask you ผ่านการบรรเลงของออร์เครสตร้า กว่า 30 ชิ้น ส่วนอัญมณีต้นแบบชุดอื่น พร้อมอัญมณีที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก 7 ผู้ค้าอัญมณีชั้นนำทั้ง ของไทยและต่างประเทศ ถูกจัดแสดงโดยแบ่งออกเป็น 8 องก์ภายใต้แนวคิด “A Tale Story” ที่ผสานศิลปะผ่านพื้นผิว หลากรูปแบบเพื่อให้เกิดมิติสูงสุด อย่างไรก็ตามอัญมณีต้นแบบส่งตรงจาก GIA Museum ที่โดดเด่นของงาน ประกอบด้วย
Gold snake bracelet กำไลข้อมือสมัยวิกตอเรียน อายุกว่า 100 ปี ที่กล่าวได้ว่า เป็นต้นแบบสู่แรงบันดาลใจให้กับงานออกแบบที่เป็น Icon ของแบรนด์ชั้นนำอย่าง Bulgari ทั้ง Eliazbeth Taylor ได้ใส่กำไลรูปแบบนี้ ในภาพยนตร์เรื่องคลีโอพัตรา
Aquarium Brooch เข็มกลัดเพชร 3 มิติ ที่เป็นต้นแบบของการออกแบบเข็มกลัดยุคใหม่ที่นำ เพชรดิบผสานกับเพชรเจียระไน
The Star of the 21st Century ได้รับรางวัลการออกแบบยอดเยี่ยมแห่งศตวรรษที่ 21 จาก De Beers Diamond 2000 awards โดยถูกนำไปแสดงในงานแฟชั่นชั้นนำของโลกหลายเวทีทั้ง Sarah Jessica ใช้เป็น เครื่องประดับในซีรีส์ Sex and The City อีกด้วย
GIA ก่อตั้งขึ้นเมื่อเมื่อ พ.ศ. 2474 โดย มร. โรเบิร์ต ชิปลี่ย์ อดีตนักค้าอัญมณีชาวอเมริกัน เพื่อให้พ่อค้าอัญมณี ได้มีความรู้อย่างลึกซึ้งในอัญมณีที่พวกเขาซื้อขาย จนต่อมากลายเป็นกระแสตื่นตัวในวงการทำให้เกิดการศึกษาเรื่องราวของอัญมณีชนิดต่างๆ มากขึ้น ซึ่ง GIA เองก็ได้รับการยอมรับว่าเป็นสถาบันวิชาการด้านอัญมณีที่มีความเชี่ยวชาญที่สุดแห่งหนึ่งของโลกและดำเนินการในรูปแบบของ องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรอีกด้วย ปัจจุบันจีไอเอ มีสาขาทั่วโลกแบ่งเป็นส่วนการศึกษา 12 แห่ง และส่วน การวิจัยและตรวจวิเคราะห์ 7 แห่ง รวมทั้งในประเทศไทยซึ่งเป็นสำนักงานแห่งแรกและเพียงแห่งเดียวนอกสหรัฐอเมริกาที่ให้บริการแบบครบวงจรที่สุดทั้งในส่วนของการตรวจวิเคราะห์เพชร พลอยสี และมุก รวมทั้งการวิจัย และในส่วนของสถาบันการศึกษา
?
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : คุณโศภิน หรือ คุณชุลีพร หมายเลขติดต่อ 02-932-8668, sopin.n@rippleeffect.co.th, chuleeporn.b@rippleeffect.co.th