สสปน.ปรับแผนรับเทรนด์ตลาดยุโรป ชูกลยุทธ์ LUXURY MICE ขยายฐานสู่กลุ่มไฮ-เอนด์ มั่นใจสิ้นปีเติบโตสูงถึง 26%

ข่าวทั่วไป Wednesday May 18, 2011 16:37 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 พ.ค.--สสปน. สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. ปรับแผนรับเทรนด์ตลาดไมซ์ยุโรปในปี 2554 ชูกลยุทธ์“Luxury MICE” ยกระดับภาพลักษณ์อุตสาหกรรมการจัดประชุมและท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลของไทย ขยายผลสู่กลุ่มลูกค้าไฮ-เอนด์ กระตุ้นยอดใช้จ่ายต่อหัว ประเดิมโรดโชว์เจาะตลาดเบลเยี่ยม อังกฤษ พร้อมยกทัพผู้ประกอบการไมซ์ไทยร่วมงาน IMEX 2011 ที่เยอรมัน มั่นใจสิ้นปีส่วนแบ่งภูมิภาคยุโรปเติบโต 26% นายอรรคพล สรสุชาติ ผู้อำนวยการ สสปน. เปิดเผยว่า “ตลาดยุโรปเป็นตลาดที่มีความสำคัญสำหรับธุรกิจไมซ์ของประเทศไทย และมีอัตราการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง โดยตลาดยุโรปมีส่วนแบ่งทางการตลาด 13% ของตลาดไมซ์ทั้งหมด แต่เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าตลาดยุโรปได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่มั่นคงทางการเมืองและการอ่อนตัวของอัตราเงินยูโร ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเติบโตของธุรกิจไมซ์ โดยในปี 2553 มีจำนวนผู้เดินทางกลุ่มไมซ์จากยุโรปมายังประเทศไทยเป็นจำนวนกว่า 79,000 คน สร้างรายได้แก่ประเทศ 4.98 ล้านบาท โดย สสปน. ได้กระตุ้นตลาดไมซ์ยุโรปด้วยการประกาศแค มเปญ Believe in Thailand มั่นใจเมืองไทยพร้อมเพื่อสร้างความเชื่อมั่น พร้อมจัดกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2554 นี้ สสปน. ปรับกลยุทธ์การตลาดขยายฐานสู่ลูกค้าไมซ์ในตลาดระดับบน พร้อมดันแผน Luxury MICE เพื่อยกระดับภาพลักษณ์ของอุตสาหกรรมไมซ์ไทยให้สอดคล้องกับพฤติกรรมในปัจจุบันของกลุ่มลูกค้ายุโรป ที่เน้นกลุ่มประชุมที่มีขนาดเล็กลง แต่สรรหาความหรูหรา มีระดับ และมีความพิเศษเป็นเอกลักษณ์มากยิ่งขึ้น ซึ่งประเทศไทยมีความพร้อมในทุกด้าน พร้อมได้คัดสรร 5 เมืองที่มีเสน่ห์และเป็นสุดยอดแห่งปลายทางในฝันของนักเดินทางทั่วโลก เสริมศักยภาพ “มหานครแห่งไมซ์” อันได้แก่ กรุงเทพฯ หัวหิน เชียงใหม่ ภูเก็ต และสมุย พร้อมเติมเสน่ห์สีสันภายใต้แนวคิด “Chic & Charm” เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าระดับบนโดยเฉพาะ โดยแต่ละพื้นที่มีศักยภาพสูงและมีความพร้อมทั้งด้านสถาน ที่พักระดับไฮเอนด์อันหลากหลาย สถานที่จัดประชุมมาตรฐานโลก สถานที่ท่องเที่ยวสวยงามเป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งยังสามารถนำเสนอการจัดกิจกรรมที่มีความพิเศษเหมาะกับลูกค้าไมซ์ระดับสูง สำหรับการเดินทางเยือนยุโรปของ สสปน. ครั้งนี้ นับเป็นการบูรณาการกิจกรรมการตลาดอย่างครบถ้วน เริ่มจากการเข้าพบเลขาธิการมหกรรมโลก (BIE) เพื่อยื่นหนังสือของนายกรัฐมนตรีเพื่อแสดงความจำนงยื่นประมูลสิทธิการเป็นเจ้าภาพการจัดงานมหกรรมโลกเวิล์ดเอ็กซ์โป 2020 ในวันที่ 16 พฤษภาคม ณ กรุงปารืส ประเทศฝรั่งเศส ต่อด้วยการดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการตลาดเพื่อสานต่อโครงการ Believe in Thailand มั่นใจเมืองไทยพร้อม โดยใช้แนวคิด “เมืองไทย….สร้างแรงบันดาลใจ เพื่อความสำเร็จของธุรกิจ”และเน้นการทำการตลาดกับลูกค้าไมซ์กลุ่ม Luxury ด้วยการจัดกิจกรรมโรดโชว์ในตลาดยุโรป ณ กรุงบรัสเซล ประเทศเบลเยี่ยม ในวันที่ 17 พฤษภาคม กรุงลอ นดอน ในวันที่ 19 พฤษภาคม และ เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ในวันที่ 20 พฤษภาคม โดยจะมุ่งเน้นการสร้างความเข้าใจร่วมกับกลุ่มองค์กรผู้บริหารและสื่อมวลชนกลุ่มย่อยและกิจกรรมผู้ซื้อพบผู้ขาย เพื่อเจาะกลุ่มกระตุ้นการตลาด นอกจากนี้ที่กรุงลอนดอน สสปน.ยังได้จัดงานสัมมนา “Business Opportunity in ASEAN through Exhibition in Thailand” สำหรับผู้จัดงานแสดงสินค้าในประเทศอังกฤษ (organizer) เพื่อเปิดตลาดงานแสดงสินค้าในตลาดประเทศอังกฤษเป็นครั้งแรก โดยทุกกิจกรรมจะเน้นการสร้างภาพลักษณ์เชิงบวกไปยังกลุ่มหน่วยงาน องค์กรเป้าหมายให้เข้าใจถึงความพร้อมของประเทศไทยในการจัดงานไมซ์แบบครบวงจร" และในวันที่ 20 — 21 พฤษภาคม สสปน. ในฐานะประธาน AACVB (Asian Association of Convention and Visitors Bureaus) ยังได้เข้าร่วมประชุม Joint Meeting Industry Council หรือ JMIC ร่วมกับสมาคมนานาชาติด้านการจัดประชุม เพื่อประเมินถึงสถานการณ์ อนาคต ตลอดจนมาตรฐานในการพัฒนาอุตสาหกรรมการจัดประชุมของโลกร่วมกัน หลังจากนั้น ระหว่างวันที่ 24-26 พฤษภาคม ยังจะเดินทางเข้าร่วมงานเทรดโชว์ IMEX 2011 ซึ่งถือเป็นงานแสดงสินค้าในอุตสาหกรรมไมซ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดงานหนึ่งของสหภาพยุโรป ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี จึงใช้โอกาสการเข้าร่วมงานครั้งนี้ เป็นเวทีสร้างความเชื่อมั่นและแสดงศักยภาพและความพร้อมของการจัดงานไมซ์ไทยนำเสน อแพคเกจการตลาด พร้อมสร้างโอกาสทางธุรกิจให้ผู้ประกอบการไทย มีโอกาสพบปะผู้ซื้อจากนานาชาติ เพื่อนำเสนอธุรกิจและขยายตลาดไมซ์ไทยในเวทีเทรดโชว์ระดับโลก ครั้งนี้ นายอรรคพล กล่าวเสริมว่า “งาน IMEX 2011 ที่ผ่านมา มีจำนวนผู้เข้าร่วมแสดง (Exhibitors) ในงานทั้งสิ้น 3,500 บริษัทจาก 157 ประเทศ และมีผู้เข้าร่วมงาน (Trade Visitors) จำนวน 14,000 รายจาก 90 ประเทศ ซึ่งในปีนี้ งาน IMEX 2011 จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 24-26 พฤษภาคม 2554 โดย สสปน. จะนำผู้ประกอบการภาคเอกชนในอุตสาหกรรมไมซ์ไทยเดินทางเข้าร่วมงานทั้งสิ้น 26 หน่วยงาน และคาดว่าจะมีจำนวนนัดหมายเจรจาธุรกิจทั้งสิ้นกว่า 675 นัดหมาย นอกจากนี้ ยั งจัดให้มีกิจกรรมพิเศษ คือการจัดเลี้ยงรับรองสื่อมวลชนเพื่อร่วมแลกเปลี่ยนและพูดคุยกับผู้บริหาร ถึงศักยภาพและความพร้อมของประเทศไทยในการต้อนรับผู้เดินทางกลุ่มไมซ์ ซึ่งการเข้าร่วมงานในครั้งนี้ สสปน. คาดว่าจะสามารถดึงผู้เดินทางกลุ่มไมซ์ชาวยุโรปให้เดินทางเข้ามายังประเทศไทยได้ประมาณ 7,000 คน สร้างรายได้เข้าสู่ประเทศกว่า 437.5 ล้านบาทจากการเข้าร่วมงานในครั้งนี้ สสปน. ยังจะได้เข้าร่วมประชุมกับ นายเฉลิม อยู่วิทยา ประธานบริษัท เรดบูล คอมปานี ลิมิเต็ด ณ กรุงลอนดอน ถึงแนวทางและความเป็นไปได้ในการที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันรถ Formula 1 Grand Prix โดยการประชุมจะจัดให้มีขึ้นในวันที่ 28 พฤษภาคม ณ ประเทศโมนาโค “สำหรับผู้เดินทางไมซ์กลุ่ม LUXURY MICE เป็นกลุ่มที่มีสัดส่วนร้อยละ 15 ของผู้เดินทางกลุ่มไมซ์ และมีอัตราการใช้จ่ายสูงกว่าผู้เดินทางกลุ่มไมซ์ทั่วไป ร้อยละ 30 โดยผู้เดินทางกลุ่มไมซ์ ทั่วไปมีค่าใช้จ่ายต่อหัว 62,500 บาท ในขณะที่กลุ่ม LUXURY มีค่าใช้จ่ายต่อหัว 81,250 บาท โดยเฉพาะกลุ่มนี้ สามารถสร้างรายได้แก่เข้าประเทศสูงถึง 4 พันล้านบาท โดย สสปน. คาดการณ์ว่าจากกิจกรรมกระตุ้นการขายน่าจะทำให้ใ นปีนี้อุตสาหกรรมไมซ์ยุโรปมีการฟื้นตัว โดยประมาณการณ์ ผู้เดินทางกลุ่มไมซ์ยุโรปเข้ามาในประเทศไทย 100,800 คน สร้างรายได้ประมาณ 6,300 ล้านบาทซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้น จากปีที่ผ่านมา 26 %” นายอรรคพล กล่าวสรุป สำหรับในปีนี้ สสปน. ได้จัดงานโรดโชว์ในตลาดยุโรปเพื่อโปรโมทแคมเปญ Believe in Thailand ไปแล้วเมื่อเดือนมีนาคมที่ประเทศรัสเซีย และยังได้จัดกิจกรรม Luxury Familiarization ขึ้นเพื่อให้กลุ่มลูกค้าได้สัมผัสกับอุตสาหกรรมไมซ์ในบริการที่หรูหราและเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร โดยจะเริ่มในเดือนมิถุนายนนี้กับกลุ่มไมซ์จากประเทศรัสเซีย และยังมีแผนที่จะจัดงานประจำปี ภายใต้ชื่อ “Connections Plus” เพื่อเป็นการพบปะผู้ซื้อ และผู้ขาย ที่เป็นกลุ่มลูกค้าของ สสปน. ที่ต้องการจะเข้ามาใช้บริการอุตสาหกรรมไมซ์ของไทย โดยในปีนี้จะตั้งเป้าการดำเนินงานในการเพิ่มระดับชื่อเสียงของหัวหิน ในด้านความพร้อมสำหรับอุตสาหกรรมไมซ์ในเดือนกรกฎาคม นอกจากนี้ยังได้เตรียมแผนการดำเนินงานเปิดตลาด Luxury MICE กับกลุ่มไมซ์ในยุโรป กับ กิจกรรม European Luxury Familiarization ในเดือนพฤศจิกายนนี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ