TTA ชี้เรือบรรทุกสินค้าเทกองแนวโน้มดีตลอดปี 50 มั่นใจค่าระวางดี-ตลาดประเทศจีนแข็งแกร่ง

ข่าวทั่วไป Thursday May 24, 2007 15:26 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 พ.ค.--โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์
โทรีเซนไทยฯ มั่นใจธุรกิจขนส่งสินค้าแห้งเทกองครึ่งปีหลังเติบโตดีต่อเนื่อง เหตุค่าระวางในตลาดโลกแข็งแกร่ง อีกทั้งการเติบโตของเศรษฐกิจของจีนซึ่งยังคงเป็นตลาดหลัก ชี้ปีนี้ทำสัญญาเช่าเรือระยะยาว และสัญญารับขนส่งสินค้าล่วงหน้าไว้แล้ว 42% คาดค่าระวางดีตลอดทั้งปี
ม.ล. จันทรจุฑา จันทรทัต กรรมการผู้จัดการ บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการปีบัญชี 2550 คาดว่า จะเติบโตดีขึ้นกว่าปีก่อน เนื่องจากอัตราค่าระวางเรือยังคงปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อน อีกทั้งมีการคาดการณ์ว่าในปี 2550 ความต้องการขนส่งสินค้าแห้งเทกองทั่วโลกจะขยายตัวเกินร้อยละ 6.7 จากปีที่แล้ว ในขณะที่การเติบโตของกองเรือบรรทุกสินค้าแห้งเทกองโลกขยายตัวประมาณร้อยละ 6.6
สำหรับตลาดหลักของบริษัทฯ ได้แก่ จีน อินเดีย และตะวันออกกลาง มีการเติบโตไปในทิศทางเดียวกับความต้องการขนส่งสินค้าแห้งเทกองทั่วโลก อาทิ เช่น ประเทศจีน มีการนำเข้า แร่เหล็ก ถ่านหิน และธัญพืช ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง นอกจากการนำเข้าสินค้าดังกล่าวแล้ว ประเทศจีนยังส่งออกเหล็กเพิ่มขึ้นเท่าตัว จากจำนวน 29.5 ล้านตัน ในปี 2548 เป็นจำนวน 54.5 ล้านตัน ในปี 2549 จากปัจจัยดังกล่าวจะทำให้ธุรกิจเรือบรรทุกสินค้าแห้งเทกองของบริษัทฯ มีทิศทางที่สดใส
“ณ เวลานี้ TTA มีสัญญาเช่าระยะยาวแบบเช่าเหมาลำเป็นระยะเวลา (time charter) ประมาณร้อยละ 31 สัญญารับขนส่งสินค้าล่วงหน้า (contract of affreightment) ร้อยละ 11 ที่เหลืออีกร้อยละ 58 เป็นการให้เช่าในตลาดระยะสั้น (spot) และให้บริการขนส่งสินค้าประจำเส้นทาง ร้อยละ 21 และร้อยละ 37 ตามลำดับ การกระจายสัดส่วนการให้เช่าเรือในลักษณะนี้นับว่าเป็นผลดีกับบริษัทฯ เพราะบริษัทฯ จะมีรายรับจากสัญญาให้เช่าเรือระยะยาวและสัญญารับขนส่งสินค้าล่วงหน้าที่มีการตกลงค่าเช่าเรือไว้แล้ว และยังมีการรับขนส่งสินค้าประจำเส้นทาง ซึ่งมีอัตราค่าระวางเรือไม่ผันผวนเหมือนค่าเช่าเรือในตลาดให้เช่าเรือระยะสั้น ดังนั้น เมื่อใดก็ตามที่ค่าเช่าเรือในตลาดให้เช่าเรือระยะสั้นลดต่ำลง ก็จะไม่มีผลกระทบต่อบริษัทมาก” ม.ล. จันทรจุฑากล่าว
ด้านงานธุรกิจบริการนอกชายฝั่งเชื่อว่ามีผลประกอบการที่ดีต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยในส่วนงานเรือขุดเจาะ (drilling segment) สามารถสร้างรายได้และผลกำไรให้แก่กลุ่มบริษัท เมอร์เมด ประมาณร้อยละ 45.76 และ 69.51 ตามลำดับ ของรายได้และผลกำไรทั้งหมดของกลุ่มบริษัท เมอร์เมด ตลาดเรือขุดเจาะยังคงมีความแข็งแกร่งทุกประเภทและทุกชนิดที่เป็นเรือขุดเจาะที่เคลื่อนย้ายได้ (mobile offshore drilling units)
ม.ล. จันทรจุฑา กล่าวต่อว่า ตลาดธุรกิจนอกชายฝั่งในอนาคตจะยังคงดีอยู่อย่างต่อเนื่องและมีกิจกรรมทางธุรกิจในระดับสูงในปี 2550 - 2551 ขณะเดียวกันคาดว่าอุปสงค์ของเรือสำรวจและสนับสนุนงานเทคนิคใต้น้ำ (supply vessels) จะสูงขึ้นด้วยเช่นกัน เนื่องจากกิจกรรมการพัฒนาธุรกิจนอกชายฝั่งที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น
“ในปีที่ผ่านมาถือเป็นปีที่ดีสำหรับธุรกิจบริการนอกชายฝั่งและกิจกรรมทางธุรกิจนอกชายฝั่งทั่วโลก ยังคงอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่องมาถึงปี 2550 ซึ่งการสำรวจ การพัฒนา การบำรุงรักษาและปรับปรุงสภาพของโครงสร้างต่างๆ กลางทะเลมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการใช้งานได้ดี ทำให้เรือสำรวจและสนับสนุนงานเทคนิคใต้น้ำทั่วภูมิภาคต่างๆ ของโลกมีอัตราการใช้อย่างหนาแน่นมาก ซึ่งรวมถึงภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งในฤดูหนาวที่ผ่านมาเป็นช่วงที่ดีที่สุดในการใช้เรือสำรวจและสนับสนุนงานเทคนิคใต้น้ำของกลุ่มบริษัทเมอร์เมด และอัตราการใช้ประโยชน์จากเรือสำรวจและสนับสนุนงานเทคนิคใต้น้ำในไตรมาสที่ 2 ของปี 2550 ค่อนข้างสูง” ม.ล. จันทรจุฑากล่าว
ส่วนธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับการเดินเรือนั้น TTA ได้รับส่วนแบ่งกำไรสุทธิจากบริษัทโทรีเซน ชิปปิ้ง เอฟแซดอี สูงสุด รองลงมาได้แก่ บริษัท เฟิร์นเล่ย์ (ประเทศไทย) จำกัด
จากผลดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 ของรอบปีบัญชี 2550 นี้ บริษัทฯ สามารถสร้างผลกำไรสุทธิสูงขึ้นจากเดิมติดต่อกันสี่ไตรมาสแล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประโยชน์จากกลยุทธ์การกระจายส่วนงานธุรกิจของบริษัทฯ (diversification strategy) และความแข็งแกร่งของทั้งธุรกิจเรือบรรทุกสินค้าแห้งเทกองและธุรกิจงานบริการนอกชายฝั่ง
ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
คุณบังอร แก้วบวร โทรศัพท์ 02 6633226-9 ต่อ 68
มือถือ 081 9047907

แท็ก ประเทศจีน  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ