กรุงเทพฯ--19 พ.ค.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ขอสรุปผลการดำเนินการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐประจำเดือนเมษายน 2554 พร้อมทั้งรายงานสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2554 ดังนี้
ผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ1. การกู้เงินภาครัฐ
1.1 ผลการกู้เงินในประเทศของรัฐบาล
การกู้เงินในประเทศของรัฐบาลในเดือนเมษายน 2554
ในเดือนเมษายน 2554 กระทรวงการคลังได้กู้เงินเพื่อชดเชย การขาดดุลงบประมาณ โดยการออกพันธบัตรรัฐบาลจำนวน 16,000 ล้านบาท
ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมารัฐบาลได้ทำการกู้เงินรวม 242,544.67 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น
1. การกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ 129,604.58 ล้านบาท
2. การเบิกจ่ายเงินกู้ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 เพื่อดำเนินการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 จำนวน 112,940.09 ล้านบาท
1.2 ผลการกู้เงินในประเทศของรัฐวิสาหกิจ
การกู้เงินในประเทศของรัฐวิสาหกิจในเดือนเมษายน 2554
ในเดือนเมษายน 2554 รัฐวิสาหกิจได้กู้เงินในประเทศ รวมกันทั้งสิ้น 3,029.56 ล้านบาท ลดลงจากเดือนก่อน 1,093.46 ล้านบาท ซึ่งส่งผลให้การกู้เงินในประเทศของรัฐวิสาหกิจในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมามีจำนวนรวม 17,355.15 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดปรากฏตามตารางที่ 2 และแผนภาพที่ 2 ตามลำดับ
2. การปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศ
2.1 การปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐบาล
การปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐบาลในเดือนเมษายน 2554
ในเดือนเมษายน 2554 กระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ ดังนี้
2.1.1 การปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรที่ออกภายใต้ พ.ร.ก. ช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูระยะที่สอง (FIDF 3) โดย การออกพันธบัตรรัฐบาล 10,000 ล้านบาท เพื่อนำไปคืนเงินกู้ระยะสั้นจากสถาบันการเงิน ซึ่งการปรับโครงสร้างหนี้จำนวนดังกล่าวจะไม่ปรากฏในตารางที่ 3 เนื่องจากจะเป็นการนับซ้ำกับการปรับโครงสร้างหนี้ที่ได้รายงานไปแล้วเมื่อเดือนมกราคม 2554
2.1.2 เงินกู้ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 เพื่อดำเนินการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 จำนวน 8,000 ล้านบาท
2.1.3 การชำระคืนก่อนกำหนดของตั๋วสัญญาใช้เงิน 5,000 ล้านบาท
การปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐบาลในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา
ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2554 กระทรวงการคลังดำเนินการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศเป็นวงเงินรวมทั้งสิ้น 142,821 ล้านบาท โดยเป็นการกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างเงินกู้ชดใช้ความเสียหายให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ FIDF 3 จำนวน 75,221 ล้านบาท เงินกู้โครงการไทยเข้มแข็ง 2555 จำนวน 62,600 ล้านบาท และดำเนินการชำระคืนก่อนกำหนดตั๋วสัญญาใช้เงินจำนวน 5,000 ล้านบาท
2.2 การปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจ
การปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจในเดือนเมษายน 2554
ในเดือนเมษายน 2554 รัฐวิสาหกิจไม่มีการปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศ ซึ่งส่งผลให้การปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมามีจำนวนรวม 19,912.77 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดปรากฏตามแผนภาพที่ 4
3. การชำระหนี้ของรัฐบาล
ในเดือนเมษายน 2554 กระทรวงการคลังได้ดำเนินการชำระหนี้โดยใช้เงินงบประมาณ รวม 9,479.69 ล้านบาท ดังนี้
- ชำระหนี้ในประเทศ 8,771.28 ล้านบาท โดยเป็นการชำระต้นเงิน 5,462.21 ล้านบาท ดอกเบี้ย 3,309.07 ล้านบาท
- ชำระหนี้ต่างประเทศ 708.41 ล้านบาท โดยเป็นการชำระต้นเงิน 502.44 ล้านบาท ดอกเบี้ย 205.97 ล้านบาท
ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา กระทรวงการคลังได้ชำระคืนต้นเงินกู้ ดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมรวม 79,391.88 ล้านบาท ดังรายละเอียดตามแผนภาพที่ 5 และ 6
*หมายเหตุ:
1. ประมาณการ GDP ปี 2553 และ 2554 เท่ากับ 10,103.00 พันล้านบาท และ 10,840.50 พันล้านบาท ตามลำดับ (สศช. ณ 21 ก.พ. 2554)
2. สบน. ได้ปรับวิธีการคำนวณ GDP ในแต่ละเดือน เพื่อให้สัดส่วน Debt/GDP สะท้อนค่าที่ใกล้เคียงความเป็นจริงที่สุด โดยได้คำนวณ GDP ของเดือนกุมภาพันธ์ 2554 ดังนี้ [(GDP ปี 53/12)*10]+[(GDP ปี 54/12)*2] เท่ากับ 10,225.92 พันล้านบาท และ GDP ของเดือนมีนาคม เท่ากับ 10,287.38 พันล้านบาท
3. อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นอัตราเฉลี่ยระหว่างอัตราซื้อและขาย ณ วันทำการสุดท้ายของเดือน
4. ตัวเลขในตารางเป็นตัวเลขเบื้องต้น (Preliminary) และไม่รวมหนี้ของ SPV จำนวน 23,999.90 ล้านบาท ที่รัฐบาลมีภาระผูกพันต้องจ่ายภายใต้สัญญาเช่าพื้นที่อาคารสัญญาบริการจัดหาเฟอร์นิเจอร์ และสัญญาโอนสิทธิเรียกร้องของโครงการศูนย์ราชการกรุงเทพมหานคร ถ. แจ้งวัฒนะ
5. สบน. ได้ทำการปรับปรุงตัวเลขหนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินในส่วนรัฐบาลค้ำประกันและไม่ค้ำประกันภายในประเทศทำให้สุทธิแล้ว หนี้ในเดือน ก.พ. 54 ปรับจาก 4,257,383.08 ลบ. เป็น 4,257,409.81 ลบ.
ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 มีนาคม 2554 มีจำนวน 4,246,114.68 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 41.28 ของ GDP โดยเป็นหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 2,988,845.39 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1,065,872.13 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน 160,340.27 ล้านบาท และหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 31,056.89 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า หนี้สาธารณะลดลงสุทธิ 11,295.13 ล้านบาท โดยหนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน และหนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน ลดลง 12,133.92 ล้านบาท และ 308.81 ล้านบาท ตามลำดับ ในขณะที่หนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง และหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ เพิ่มขึ้น 673.22 ล้านบาท และ 474.38 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนหน่วยงานอื่นของรัฐนั้นไม่มีหนี้คงค้าง รายละเอียดปรากฏตามตารางที่ 5 โดยรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงของหนี้สาธารณะ มีดังนี้
1. หนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง
1.1 หนี้ในประเทศ
หนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 1,884.49 ล้านบาท โดยที่สำคัญเกิดจาก
- การกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ 24,500 ล้านบาท
- การไถ่ถอนตั๋วเงินคลัง 21,000 ล้านบาท
1.2 หนี้ต่างประเทศ
หนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงลดลงจากเดือนก่อน 1,211.27 ล้านบาท และเมื่อคิดในรูปเงินเหรียญสหรัฐ ลดลง 21.30 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจาก
- ผลจากอัตราแลกเปลี่ยนทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินเหรียญสหรัฐ ลดลง 19.62 ล้านเหรียญสหรัฐ
- สกุลเงินเหรียญแคนาดาได้มีการชำระคืนประมาณ 0.42 ล้านเหรียญแคนาดา หรือคิดเป็น 0.44 ล้านเหรียญสหรัฐ
- สกุลเงินเยนได้มีการชำระคืนประมาณ 49.83 ล้านเยน หรือคิดเป็น 0.60 ล้านเหรียญสหรัฐ
- สกุลเงินเหรียญสหรัฐได้มีการชำระคืนประมาณ 0.64 ล้านเหรียญสหรัฐ
โดยมีรายละเอียดหนี้ต่างประเทศที่รัฐบาลกู้โดยตรงในสกุลเงินต่างๆ ปรากฏตามตารางที่ 6
ทั้งนี้ หากพิจารณาในรูปเงินเหรียญสหรัฐ หนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงจำแนกเป็นสกุลเงินต่างๆ ปรากฏตามแผนภาพที่ 7
2. หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน
2.1 หนี้ในประเทศ
2.1.1 หนี้ที่รัฐบาลค้ำประกัน เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าลดลง 4,462.86 ล้านบาท โดยเกิดจาก
- บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย และการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ไถ่ถอนพันธบัตร 5,000 ล้านบาท 2,000 ล้านบาท และ 1,000 ล้านบาท ตามลำดับ ทั้งนี้ การประปาส่วนภูมิภาคได้มีการออกพันธบัตร 800 ล้านบาท
- รัฐวิสาหกิจที่รัฐบาลค้ำประกันมีการเบิกจ่ายจากแหล่งเงินกู้ต่างๆ มากกว่า ชำระคืนต้นเงินกู้ 2,737.14 ล้านบาท
2.1.2 หนี้ที่รัฐบาลไม่ค้ำประกัน เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าลดลง 644.65 ล้านบาท โดยเกิดจาก
- การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ไถ่ถอนพันธบัตร 75 ล้านบาท
- รัฐวิสาหกิจที่รัฐบาลไม่ค้ำประกันมีการเบิกจ่ายจากแหล่งเงินกู้ต่างๆ น้อยกว่า ชำระคืนต้นเงินกู้ 569.65 ล้านบาท
2.2 หนี้ต่างประเทศ
2.2.1 หนี้ที่รัฐบาลค้ำประกันลดลงจากเดือนก่อน 5,561.42 ล้านบาท และเมื่อคิดในรูปเงินเหรียญสหรัฐ ลดลง 126.94 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจาก
- ผลจากอัตราแลกเปลี่ยนทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินเหรียญสหรัฐ ลดลง 67.40 ล้านเหรียญสหรัฐ
- สกุลเงินเยนได้มีการเบิกจ่ายน้อยกว่าการชำระคืนประมาณ 4,801.97 ล้านเยน หรือคิดเป็น 58.89 ล้านเหรียญสหรัฐ
- สกุลเงินเหรียญสหรัฐได้มีการชำระคืนประมาณ 0.65 ล้านเหรียญสหรัฐ
โดยรายละเอียดหนี้ต่างประเทศรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาล ค้ำประกัน) ในสกุลเงินต่างๆ ปรากฏตามตารางที่ 7
2.2.2 หนี้ที่รัฐบาลไม่ค้ำประกันลดลงจากเดือนก่อน 1,464.99 ล้านบาท และเมื่อคิดในรูปเงินเหรียญสหรัฐ ลดลง 3 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจาก
- ผลจากอัตราแลกเปลี่ยนทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 38.34 ล้านเหรียญสหรัฐ
- สกุลเงินยูโรได้มีการชำระคืนประมาณ 23.18 ล้านยูโร หรือคิดเป็น 32.79 ล้านเหรียญสหรัฐ
- สกุลเงินเยนได้มีการชำระคืนประมาณ 711.30 ล้านเยน หรือคิดเป็น 8.55 ล้านเหรียญสหรัฐ
โดยรายละเอียดหนี้ต่างประเทศรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลไม่ค้ำประกัน) ในสกุลเงินต่างๆ ปรากฏตามตารางที่ 8
3. หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน)
3.1 หนี้ในประเทศ
หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าไม่มีการเปลี่ยนแปลง
3.2 หนี้ต่างประเทศ
หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) ลดลงจากเดือนก่อน 308.81 ล้านบาท และเมื่อคิดในรูปเงินเหรียญสหรัฐ ลดลง 7.88 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจาก
- ผลจากอัตราแลกเปลี่ยนทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินเหรียญสหรัฐ ลดลง 0.37 ล้านเหรียญสหรัฐ
- สกุลเงินเยนได้มีการชำระคืนประมาณ 555.97 ล้านเยน หรือคิดเป็น 6.77 ล้านเหรียญสหรัฐ
- สกุลเงินเหรียญสหรัฐได้มีการชำระคืนประมาณ 0.74 ล้านเหรียญสหรัฐ
โดยรายละเอียดหนี้ต่างประเทศรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน)ในสกุลเงินต่างๆ ปรากฏตามตารางที่ 9
4. หนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ
หนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 474.38 ล้านบาท เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของหนี้สินหมุนเวียน
หนี้สาธารณะ จำนวน 4,246,114.68 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหนี้ต่างประเทศ 350,331.88 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.25 และหนี้ในประเทศ 3,895,782.8 ล้านบาท หรือร้อยละ 91.75 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง และเป็น หนี้ระยะยาว 4,212,107.98 ล้านบาท หรือร้อยละ 99.20 และหนี้ระยะสั้น 34,006.70 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.80 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง รายละเอียดปรากฏตามตารางที่ 10 และ 11 ตามลำดับ
หมายเหตุ: การนำข้อมูลและ/หรือบทวิเคราะห์ของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะไปใช้และ/หรือเผยแพร่ต่อ ขอความร่วมมืออ้างแหล่งที่มาของข้อมูลด้วย
ส่วนวิจัยนโยบายหนี้สาธารณะ สำนักนโยบายและแผน สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ โทร. 0 2265 8050 ต่อ 5512