กรุงเทพฯ--19 พ.ค.--ก.ไอซีที
นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยถึงการแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ ว่า หลังจากที่ สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สรอ.ได้จัดตั้งขึ้นตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) พ.ศ. 2554 ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2554 ที่ผ่านมา โดยพระราชกฤษฎีกามาตรา 13 ได้กำหนดให้มี “คณะกรรมการบริหารสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์” ที่ประกอบด้วยประธานกรรมการ และกรรมการ ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งขึ้นจากผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์สูง ทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ด้านการบริหารจัดการหรือด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องและเป็นประโยชน์ต่อสำนักงาน ทั้งด้านทรัพยากรบุคคล ด้านการเงิน การบัญชี และงบประมาณ การตรวจสอบประเมินผล และการบริหารความเสี่ยง ด้านกฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารหรือธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
“จากการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2554 ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของคณะกรรมการบริหารสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ ตามที่กระทรวงฯ เสนอ ได้แก่ นายวรากรณ์ สามโกเศศประธานกรรมการ นายเข็มชัย ชุติวงศ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร นายจเรรัฐ ปิงคลาศัย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านบริหารจัดการและทรัพยากรบุคคล และด้านอื่นที่เกี่ยวข้องและเป็นประโยชน์ต่อกิจการของสำนักงาน นางจารุพร ไวยนันท์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเงิน การบัญชี และงบประมาณ การตรวจสอบประเมินผลและ การบริหารความเสี่ยง พ.อ. เจียรนัย วงศ์สอาด กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และนายไชยเจริญ อติแพทย์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร” นายจุติ กล่าว
สำหรับประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทั้ง 6 คนนี้ ได้ผ่านกระบวนการสรรหาตามระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2554 ที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีและได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2554 ซึ่งกระบวนการสรรหานั้นดำเนินการโดยคณะกรรมการผู้ทำหน้าที่สรรหาประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้วยวิธีการทาบทามตามที่กำหนดไว้ในระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาฯ หลังจากนั้น คณะกรรมการสรรหาได้เสนอรายชื่อบุคคลผู้ที่เข้าข่ายจะเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 10 คน และมอบหมายให้เลขานุการคณะกรรมการฯ ไปตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้นให้เรียบร้อย เพื่อให้คณะกรรมการสรรหาตรวจสอบกลั่นกรองข้อมูลตามที่เสนอภายใต้หลักเกณฑ์ที่กำหนดในมาตรา 13 และมาตรา 14 แห่งพระราชกฤษฎีกา แล้วจึงดำเนินการพิจารณาคัดเลือกเหลือจำนวน 6 คน พร้อมทั้งเลือกประธานกรรมการ จำนวน 1 คน ด้วยวิธีการลงคะแนนเสียงแบบลับ ตามบทบัญญัติหมวด 5 ของกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง ซึ่งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทั้ง 6 คนนี้
จะมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 4 ปี ซึ่งหากพ้นจากตำแหน่งแล้วอาจได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอีกแต่ต้องไม่ติดต่อกันเกินสองวาระ
?
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 021416747 MICT