คอนติเนนทอลเน้นระบบวัดแรงดันลมยางอัติโนมัติ

ข่าวยานยนต์ Thursday May 19, 2011 16:06 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 พ.ค.--พีอาร์ แอนด์ แอสโซซิเอส การวัดการขยายตัวของยางแบบอัติโนมัติ หรือแบบไดเรกต์เป็นเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์กับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ ผู้ขับขี่ และต่อสิ่งแวดล้อม บริษัทคอนติเนนทอลจึงให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีตรวจวัดแรงดันลมยางอัติโนมัติ คอนติเนนทอล ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ระดับโลกแนะนำให้บริษัทผู้ผลิตยานยนต์ทั่วโลกเลือกใช้เทคโนโลยีวัดแรงดันลมยางกับรถยนต์รุ่นใหม่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่ายางรถยนต์มีแรงดันในระดับที่เหมาะสมสูงสุดตลอดเวลา ข้อแนะนำเรื่องแรงดันลมยางมีความจำเป็นมากขึ้นอันเป็นผลจากการเพิ่มความเข้มงวดของข้อกำหนดเรื่องการวัดแรงดันลมยาง และยังเป็นข้อบ่งชี้ถึงศักยภาพของเทคโนโลยีตรวจวัดลมยางอัติโนมัติในการส่งเสริมการลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ เฮลมุต์ มัตสคิ กรรมการบริหารของคอนติเนนทอล เอจี และหัวหน้าฝ่ายอินทีเรีย ดิวิชั่น กล่าวถึงประโยชน์โดยรวมของเทคโนโลยีในระบบวัดแรงดันลมยางอัติโนมัติ หรือทีพีเอ็มเอสว่า “การวัดแรงดันลมยางแบบอัติโนมัติมีคุณประโยชน์หลายๆประการทั้งกับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์และผู้ขับขี่ ต้องคำนึงถึงเมื่อพิจารณาเลือกใช้เทคโนโลยีประเภทเดียวกันนี้ เทคโนโลยีตรวจวัดแบบอัติโนมัติมีการแสดงผลที่รวดเร็วและแม่นยำกว่าเมื่อพิจารณาถึงการใช้งาน ณ เวลาจริง และหากมองที่ปัจจัยเรื่องความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการขับขี่ที่เพิ่มขึ้นเมื่อมีการใช้งานทั้งระบบโดยการติดตั้งเซนเซอร์ตรวจจับภายในยางรถยนต์ เรายิ่งจะเห็นว่าการวัดแรงดันลมแบบอัติโนมัติมีความเหนือชั้นกว่า” ระบบวัดแรงดันลมยางแบบ “ไดเรกต์” หรืออัติโนมัติทำงานด้วยเซนเซอร์ตรวจจับที่ติดตั้งภายในยางแต่ละเส้นเพื่อรวบรวมข้อมูลแรงดันอากาศและอุณหภูมิที่สามารถอ่านค่าได้โดยตรง รวดเร็วและแม่นยำ ในทุกช่วงเวลา ทุกสภาพถนน และทุกย่านความเร็ว ส่วนระบบ “อินไดเรกต์” จะไม่ใช่วิธีวัดค่าแรงดันอากาศโดยตรง แต่จะคำนวนโดยอาศัยข้อมูลจากตัวเซนเซอร์ตรวจวัดความเร็วที่ล้อ ซึ่งข้อมูลของคอนติเนนทอลระบุว่า การวัดแบบอินไดเรกต์ไม่สามารถใช้เป็นหลักประกันว่าจะสามารถประหยัดเชื้อเพลิงได้ตามที่คาดหวัง จึงไม่เหมาะสมที่จะเอามาใช้เป็นเครื่องมือในการช่วยลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ตามมาตรฐานสหภาพยุโรปได้ ระบบตรวจวัดแรงดันลมยางมีการบังคับใช้ในหลายประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ นอกจากสหรัฐอเมริกาที่ปัจจุบันมีกฎหมายบังคับใช้กับรถยนต์ส่วนตัว สหภาพยุโรปเตรียมจะประกาศใช้ระบบวัดแรงดันลมยาง ระยะที่ 1 ในปี 2555 ขณะที่เกาหลีใต้ จะเริ่มบังคับใช้ในปี 2556 ระยะที่ 1 เป็นก้าวแรกที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่ลดปริมาณการใช้เชื้อเพลิง ส่วนระยะที่ 2 ของยุโรปได้วางแผนไว้เพื่อเป็นหลักประกันเพิ่มเติมว่าแผนแม่บทในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่จะได้รับการปฏิบัติตามมาตรการที่เหมาะสมทั้งหมดที่มี แรงผลักดันในการการออกกฎหมายทั้ง 2 ระยะ คือ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการแสดงสถานะของยางวรถยนต์ที่มีระดับแรงดันเหมาะสม ซึ่งหมายถึงความปลอดภัยในการขับขี่ อัตราการใช้เชื้อเพลิงและการปล่อยไอเสียที่ลดลง ซึ่งเป็นข่าวดี แต่ประโยชน์ที่จะตกเป็นของผู้ขับขี่หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้เทคโนโลยีการตรวจวัดแรงดันลมยางที่ใช้ ที่เป็นเช่นนี้เพราะสถิติระบุว่า สาเหตุของการที่ยางระเบิดส่วนใหญ่แล้วเป็นผลจากการที่ลมยางอ่อนลงอย่างช้าๆ ทีละน้อยโดยที่ไม่สามารถสังเกตเห็นได้โดยง่าย แต่สำหรับระบบตรวจับแบบอัติโนมัติจะสามารถตรวจจับแรงดันลมที่ค่อยๆอ่อนลงได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ มาก การวัดแรงดันลมยางแบบนี้จะแสดงผลอย่างรวดเร็วเนื่องจากใช้เกณฑ์ที่แคบกว่ามาก การแสดงผลที่แม่นยำของแรงดันลมยางในช่วงเวลาวิกฤติทำให้ผู้ขับขี่ตัดสินใจได้อย่างทันท่วงที การตัดสินใจอย่างรวดเร็วเพื่อแก้ไขสถานการณ์ถูกต้องหมายถึงความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นด้วยเมื่อยางจะพองตัวจนถึงระดับที่เหมาะสมทำให้สามารถควบคุมรถยนต์และลดแรงต้านทานการหมุนของยางให้อยู่ในระดับต่ำ นั่นแปลความหมายได้อย่างตรงตัวว่า เป็นการลดปริมาณการใช้เชื้อเพลิงและยืดอายุการใช้งานของยางได้สูงสุด การวัดแรงดันลมยางแบบอัติโนมัติไดเรกต์เพิ่มศักยภาพให้กับระบบผู้ช่วยคนขับ ระบบวัดแรงดันลมยางของคอนติเนนทอลเพิ่มคุณภาพของข้อมูลสำหรับผู้ขับขี่ นอกจากนี้ยังสามารถนำมาใช้เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ และความสะดวกสบายที่มากกว่าเป็น “เพียง” การควบคุมแรงดันลมให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เมื่อยางแต่ละเส้นติดตั้งตัวเซนเซอร์แล้ว ข้อมูลการขยายตัวของลมยางจะถูกป้อนผ่านเครือข่ายเข้าสู่ระบบผู้ช่วยคนขับ ตัวเซนเซอร์ในยางจะทำงานร่วมกับแอพพลิเคชั่นของคอนติเนนทอลที่เรียกว่า “ฟิลลิง แอสซิสแตนท์” และตัวเซ็นเซอร์สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนของผู้ขับขี่เพื่อรายงานระดับแรงดันลมยางในขณะนั้น โดยไม่ต้องคำนึงถึงความแม่ยนำของอุปกรณ์วัดลมยางของสถานีบริการน้ำมันเลย นอกจากนี้ ยางรถยนต์อัจฉริยะรุ่นใหม่ของคอนติเนนทอลยังก้าวล้ำหน้าด้วยการรายงานข้อมูลการบิดเบี้ยวกระทันหันของยางที่กำลังหมุน การทำงานร่วมกันของตัวเซนเซอร์ทำให้สามารถตรวจจับอาการเหินน้ำได้ตั้งแต่ระยะแรก คอนติเนนทอลมีความพร้อมที่จะพัฒนาเทคโนโลยีนี้ให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น เพราะบริษัทสามารถผสมผสานความเชี่ยวชาญในฐานะผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ที่ใช้ในรถยนต์ชั้นนำ และผู้ผลิตยางรถยนต์ระดับแถวหน้า “ทุกวันนี้ยางรถยนต์เป็นผลิตภัฑณ์ไฮเทค และมีสมรรถนะสูงอยู่แล้ว” ดร.เบิร์กฮาร์ด วีส์ รองประธานฝ่ายพัฒนายางประจำแผนกรถส่วนตัวและรถบรรทุกเล็กของคอนติเนนทอล กล่าว “การติดตั้งเซนเซอร์ไว้ที่ยางรถยนต์ได้เพิ่มเติมหน้าที่และการทำงานของยางที่มีแรงดันในระดับที่เหมาะสมมาช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ ลดแรงต้านทานการหมุนของยาง และช่วยลดไอเสียได้ในระดับที่ไม่เคยทำได้มาก่อน เมื่อพิจารณาวถึงคุณสมบัติในการตรวจสอบที่จะมีมากขึ้นในอนาคต เช่น ตรวจจับน้ำหนักกดทับบนล้อแต่ละวงแล้ว สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป คือ ความปลอดภัยจะเพิ่มมากขึ้น จากการประมวลผลข้อมูลเข้ากับระบบควบคุมยานพาหนะ” คอนติเนนทอลพร้อมจะผลิตยางรถยนต์โดยสารที่มีการติดตั้งอุปกรณ์ยางดังกล่าวไว้ในยางรถยนต์ในปี 2556 จากประสบการณ์ถึง 10 ปีในการผลิตและพัฒนาเซนเซอร์ตรวจวัดแรงดันลมยางแบบอัติโนมัติ มร. อันเดรียส วูลฟ์ หัวหน้าฝ่ายธุรกิจและความปลอดภัยของคอนติเนนทอล รับประกันว่า “เมื่อมองย้อนไปกลับในช่วงเวลา 10 ปีของการผลิตและพัฒนาและผลิตอุปกรณ์เซนเซอร์ตรวจวัดความดันลมยางและกระบวนการทำงานที่ใช้หลักเหตุผลและคณิตศาสตร์ วัตถุประสงค์ที่สำคัญที่สุดของเราเห็นชัดเจนว่า ระบบไดเร็ค หรือระบบอัติโนมัติสามารถทำให้เราบรรลุเป้าหมายในการลดคาร์บอนไดออกไซด์ และมาตรฐานความปลอดภัย รวมทั้งการผลิตแอพพลิเคชั่นใหม่ๆอย่าง ฟิลลิ่ง แอสซิสแตนท์ เพื่อช่วยผู้ขับขี่ การพัฒนาเทคโนโลยีของคอนติเนนทอลสนับสนุนวิสัยทัศน์นี้” สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 026518989 PR&Associates.,Ltd

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ