กรุงเทพฯ--14 พ.ย.--บ้านปู
บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ประจำปีงบประมาณ 2548 (1 กรกฎาคม 2548 - 30 กันยายน 2548) มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 490 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 41 จากงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทั้งนี้เป็นผลมาจากปริมาณขายถ่านหินเพิ่มขึ้น ประกอบกับราคาขายถ่านหินที่สูงขึ้นด้วย
นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาส 3 ประจำปีงบประมาณ 2548 ว่า บริษัทฯ มีรายได้จากการขายรวม 7,508 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา 2,723 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 57 มีกำไรสุทธิรวม 1,683 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา 490 ล้านบาท หรือร้อยละ 41 มีกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐานเท่ากับ 6.19 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้นจาก 4.39 บาทต่อหุ้นในงวดเดียวกันของปีก่อน
“รายได้ที่เพิ่มขึ้นของบริษัทฯ เป็นผลมาจากปริมาณและราคาขายถ่านหินที่เพิ่มขึ้น” นายชนินท์กล่าว
ราคาขายถ่านหินเฉลี่ยของบริษัทในไตรมาสที่ 3 สูงขึ้นเป็น 37.73 เหรียญสหรัฐต่อตัน หรือสูงขึ้นร้อยละ 43 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในไตรมาสนี้ บริษัทฯ มีรายได้จากการจำหน่ายถ่านหิน 7,457 ล้านบาท หรือร้อยละ 99 เป็นรายได้จากการขายถ่านหินจากแหล่งผลิตในสาธารณรัฐอินโดนีเซีย 6,856 ล้านบาท และรายได้จากการขายถ่านหินจากแหล่งผลิตในประเทศไทย 601 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีรายได้จากการจำหน่ายแร่อุตสาหกรรมและบริการอื่นอีกจำนวน 51 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 1 ของรายได้รวม
“จากการที่เหมืองทรูบาอินโดเริ่มดำเนินการผลิตเต็มกำลัง ตลอดจนการที่เหมืองอินโดมินโคได้ปรับปรุงระบบการผลิตต่าง ๆ ทำให้ปริมาณการส่งมอบถ่านหินในไตรมาสที่ 3 มีจำนวนทั้งสิ้น 4.62 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 0.84 ล้านตัน หรือประมาณร้อยละ 22 เมื่อเทียบจากไตรมาสที่ผ่านมา เหมืองทรูบาอินโดมีปริมาณขายจำนวน 0.54 ล้านตัน เทียบกับในไตรมาสที่แล้ว ที่มีเพียง 0.08 ล้านตัน สำหรับเหมืองอินโดมินโคนั้นได้มี
ปริมาณขายเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมา 0.32 ล้านตันเป็น 2.03 ล้านตัน เนื่องมาจากในไตรมาสที่ 3 เป็นช่วงฤดูแล้งในสาธารณรัฐอินโดนีเซีย จึงทำให้การผลิตและการบริหารระบบการขนส่งดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ“ นายชนินท์กล่าวเสริม
ในไตรมาสที่ 3 บ้านปูฯ บันทึกรายได้จากเงินปันผล จำนวน 227 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นการรับรู้เงินปันผลจากบริษัทจดทะเบียนแห่งหนึ่งที่ดำเนินธุรกิจไฟฟ้า ในด้านกำไรที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักนั้น บริษัทฯ ได้ทยอยจำหน่ายเงินลงทุนในหลักทรัพย์เผื่อขายในบริษัทจดทะเบียนแห่งหนึ่ง และได้บันทึกกำไรก่อนภาษี จำนวน 506 ล้านบาท ลดลง 189 ล้านบาทจากไตรมาสที่ผ่านมา อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนของบริษัทฯ ณ วันที่ 30 กันยายน 2548 เท่ากับ 0.25 เท่า บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวมจำนวน 41,331 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,793 ล้านบาท หรือร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2547
จากการที่บ้านปูฯ ให้ความสำคัญในเรื่องระบบการบริหารจัดการรวมไปถึงการดำเนินธุรกิจตามหลักบรรษัทภิบาลอย่างเคร่งครัด ส่งผลให้บริษัทฯ ได้รับการยอมรับและความเชื่อมั่นจากประชาชน ตลอดจนสถาบันและองค์กรต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่อง โดยจะเห็นได้จากรางวัลต่าง ๆ ที่บริษัทฯ ได้รับเมื่อเร็ว ๆ นี้ ดังนี้
- บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้เพิ่มอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันในปัจจุบันของบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) จากระดับ “A” เป็นระดับ “A+”
- บริษัทฯ ยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นบริษัทฯ ที่มีคะแนนธรรมาภิบาลสูงสุด 10 อันดับแรกของประเทศ จากการประเมินการกำกับดูแลกิจการของบริษัทจดทะเบียน 371 แห่ง ซึ่งจัดโดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD)
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ สายสื่อสารองค์กร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน)
โทรศัพท์ 0 2694-6783-4 โทรสาร 0 2207-0697
คุณเหมือนฝัน เชื้อเอี่ยม
โทร. 02-694-6783--จบ--