กรุงเทพฯ--20 พ.ค.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
กระทรวงการคลังเผยในช่วง 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2554 ฐานะการคลังยังอยู่ในระดับที่เข้มแข็ง และคาดว่ามาตรการลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลจะไม่กระทบต่อฐานะการคลังตลอดปีงบประมาณนี้
นายนริศ ชัยสูตร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (ผอ.สศค.) แถลงข่าวฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วง 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2554 ว่ารัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 916,238 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 67,295 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.9 โดยเป็นผลมาจากเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้การจัดเก็บรายได้รัฐบาลจาก 3 กรมจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้นมาก ในขณะที่การเบิกจ่ายเงินงบประมาณมีจำนวนทั้งสิ้น 1,298,869 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 219,327 ล้านบาท หรือร้อยละ 20.3 ทำให้ดุลเงินงบประมาณขาดดุล 382,631 ล้านบาท เมื่อรวมกับการขาดดุลเงินนอกงบประมาณ 61,082 ล้านบาท จากการไถ่ถอนตั๋วเงินคลัง ส่งผลให้รัฐบาลขาดดุลเงินสดรวม 443,713 ล้านบาท และรัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล 129,605 ล้านบาท ทำให้ดุลเงินสดหลังกู้ขาดดุลทั้งสิ้น 314,108 ล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนเมษายน 2554 มีจำนวน 115,215 ล้านบาท
นายนริศ กล่าวสรุปว่า “ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะมีมาตรการลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล แต่จากสถานการณ์เศรษฐกิจและการคลังที่อยู่ในระดับที่ดีมาตลอด ทำให้ สศค. มั่นใจว่ามาตรการดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อฐานะการคลัง โดยคาดว่าเงินคงคลัง ณ สิ้นปีงบประมาณ 2554 จะมีจำนวนประมาณ 3 แสนล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่มั่นคง”
ฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วง 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2554
7 เดือนแรก เปรียบเทียบ
ปีงบประมาณ ปีงบประมาณ จำนวน ร้อยละ
2554 2553
1. รายได้ 916,238 848,943 67,295 7.9
2. รายจ่าย 1,298,869 1,079,542 219,327 20.3
3. ดุลเงินงบประมาณ -382,631 -230,599 -152,032 65.9
4. ดุลเงินนอกงบประมาณ -61,082 -62,915 1,833 -2.9
5. ดุลเงินสดก่อนกู้ (3+4) -443,713 -293,514 -150,199 51.2
๖. เงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล 129,605 175,572 -45,967 -26.2
๗. ดุลเงินสดหลังกู้ (๕+๖) -314,108 -117,942 -196,166 166.3
ที่มา: กรมบัญชีกลาง และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
รายละเอียดเพิ่มเติม ดูได้จาก www.fpo.go.th สำนักนโยบายการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
โทร 02-273-9020 ต่อ 3568