กรุงเทพฯ--23 พ.ค.--วอร์นเนอร์ มิวสิค
What You Waiting For — Mizz Nina (feat. Colbie O’ Donis) มีส นีน่า ศิลปิน Hip-Hop/Pop ที่มาแรงที่สุดจาก Malaysia เธอมีเพลงฮิตอันดับ 1 ที่ทำยอดขายได้มากถึง 600,000 ดาวน์โหลดที่ Malaysia และตอนนี้เธอพร้อมแล้วที่จะมาเปิดตัวให้คนไทยได้รู้จักเธอกับเพลง “What You Waiting For” ซึ่งเป็นสไตล์เพลง Pop Dance ที่ล้ำสมัย คน Malaysia ถึงขั้นตั้งชื่อให้เธอว่าเป็น Britney Spears ของ Malaysia หรือ ทาทา ยัง ในบ้านเขา!!! รับรองโดนใจคนชอบฟังเพลงสากลแน่ๆ โดยในเพลงนี้เธอได้หนุ่ม Colbie O’Donis (ศิลปินร่วมร้องและแต่งเพลง Just Dance ของ Lady Gaga) มาแจมสร้างความร้อนแรงให้กับเพลงนี้มากยิ่งขึ้น! ที่เด็ดสุดๆคือเธอจะมาเป็นศิลปินเปิดให้กับคอนเสิร์ต Flo Rida ในเดือนมิถุนายนนี้!
Planetary (GO!) — My Chemical Romance ปล่อยซิงเกิ้ลเพลง “Na Na Na” และ “Sing” วง My Chemical Romance ก็พร้อมปล่อยซิงเกิ้ลเพลงต่อไปกับเพลง “Planetary (GO!)” อีกหนึ่งเพลงจากอัลบั้ม Danger Days: The True Lives Of The Fabulous Killjoys โดยเพลงนี้ยังเป็นเพลงประกอบเกมส์ PlayStation3 Gran Turismo 5 ด้วย! เพลงนี้รับรองโดนใจแฟนเพลงวง My Checmial Romance แน่นอน!
Hey Nah Neh Nah — Milk & Sugar vs. Vaya Con Dios เพลง “Nah Neh Nah” เป็นเพลงฮิตของวงจาก Belgium Vaya Con Dios ซึ่งออกมาตอนปี 1990! แต่มาถึงปี 2011 อยู่ๆ Producer จาก Germany อย่าง Milk & Sugar ก็ได้นำเพลงนี้มาทำใหม่ ทำให้เพลงนี้กลับมามีกระแสบนชาร์ตเพลง Dance ที่ Europe อีกครั้ง! ใครที่ชอบเพลงแด๊นซ์เก๋ๆต้องไม่พลาดกับเพลงนี้!
Make Some Noise — Beastie Boys บีสตี้ บอย วงฮิพฮอพรุ่นบุกเบิกที่ทำงานเพลงมาตั้งแต่ยุค 80’s และสตูดิโออัลบั้มชุดใหม่ล่าสุด Hot Sauce Committee Part 2 หลังจากปล่อยให้แฟนเพลงรอคอยมานานหลายปี แค่ชื่ออัลบั้มก็ทำเอาหลายคนสงสัยแล้วว่า ทำไมต้องเป็น Hot Sauce Committee Part 2? แล้ว Part 1 หายไปไหน? เรื่องก็มีอยู่ว่า ทางวงได้ประกาศออกมาเมื่อช่วงปลายปี 2009 ว่าพวกเขาจะออกอัลบั้ม Hot Sauce Committee Part 1 และ Part 2 ในปี 2010 และปี 2011 (ตามลำดับ) แต่หลังจากนั้นไม่นาน หนึ่งในสมาชิกคนสำคัญอย่าง Adam “MCA” Yauch เกิดป่วยด้วยโรคมะเร็ง พวกเขาจึงตัดสินใจพักงานโปรเจคต์อัลบั้มนี้เอาไว้ก่อน จนเวลาล่วงเลยมา 1 ปี พวกเขาก็เลยขอข้ามโปรเจคต์ Hot Sauce Committee Part 1 แล้วออกอัลบั้ม Part 2 ให้ตรงตามแผนเดิม ดังนั้นเราเลยได้ฟังเพลงจาก Part 2 ก่อน Part 1 แบบที่ทำเอาแฟนเพลงงงกันไปพักใหญ่ โดยในอัลบั้มก็ยังคงเป็นแนวฮิพฮอพที่มีกลิ่นไอร็อคตามสไตล์ของ Beastie Boys เพราะพวกเขาทำหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์เอง นำโดยซิงเกิ้ลแรกอย่าง “Make Some Noise” ที่พิสูจน์ให้นักฟังเพลงได้ฟังว่า แม้จะเกิดอุปสรรคใดๆ แต่ดนตรีที่หนักแน่นของพวกเขาจะยังคงสร้างความสุขให้กับแฟนเพลงทั่วโลกได้เสมอ