กรุงเทพฯ--23 พ.ค.--M.O. Chic
บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) เผยผลประกอบการสุทธิไตรมาสที่หนึ่งปี 54 บริษัทฯ มีรายได้กว่า 3,600 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 40.7 ล้านบาท โตเกือบ 100% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา มั่นใจปิดครึ่งปีแรกธุรกิจน่าจะยังไปได้สวย โดยคาดว่ารายได้รวมจะเพิ่มขึ้นกว่า 30% อันเป็นผลมาจากการเดินหน้าขยายธุรกิจเข้าซื้อสถานีบริการ NGV ใหญ่ที่สุดในช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา เพื่อรองรับความต้องการใช้ NGV ในภาคขนส่งที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต และแผนการขยายฐานการส่งออกน้ำมันสู่ประเทศเพื่อนบ้านในแถบใกล้เคียง
นายชัยฤทธิ์ สิมะโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ผลประกอบการสุทธิใน ไตรมาสที่หนึ่งของปี 2554 บริษัทฯ มีรายได้กว่า 3,600 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 40.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบ 100% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยธุรกิจที่ทำรายได้หลักให้กับบริษัทฯ คือ รายได้จากธุรกิจน้ำมันในประเทศและการส่งออกน้ำมันสู่ต่างประเทศ ซึ่งมียอดขายสูงถึง 135 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 30 % รองลงมา คือ รายได้จากธุรกิจก๊าซธรรมชาติ NGV และ LPG ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 30 % เช่นด้วยกัน เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสแรกของปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ความสำเร็จดังกล่าวอาจเป็นผลมาจาก 1)การวางกลยุทธ์การตลาดของบริษัทฯ ในการเดินหน้ารักษาฐานลูกค้าในประเทศ โดยการปรับปรุงระบบการให้บริการ รวมทั้งเพิ่มและปรับภาพลักษณ์ของสถานีบริการน้ำมัน และ ก๊าซธรรมชาติ NGV และ LPG อย่างต่อเนื่องด้วยระบบบริหารงานธุรกิจค้าปลีกสำหรับธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน (Automation) 2) การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายแก่กลุ่มลูกค้า เพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขายของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง และ 3) การส่งออกน้ำมันไปสู่ตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในแถบเพื่อนบ้านใกล้เคียง ซึ่งมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นตามด้วย ”
“สำหรับแนวโน้มความสำเร็จในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้นั้น บริษัทฯ มั่นใจว่าธุรกิจน่าจะดำเนินไปได้ด้วยดีและได้รับผลสำเร็จสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากความสำเร็จของธุรกิจในไตรมาสแรกผนวกกับบริษัทฯ ได้มีการขยายธุรกิจเพิ่มขึ้น อาทิ การเข้าซื้อสถานีบริการ NGV ใหญ่ที่สุด ที่ตั้งอยู่ติดกับสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ บนถนนบรมราชชนนี บนเนื้อที่ประมาณ 8 ไร่ เป็นสถานีให้บริการ NGV ขนาดใหญ่ที่มี 48 หัวจ่าย สามารถจ่ายก๊าซธรรมชาติได้สูงถึงประมาณ 230 ตัน/วัน รองรับการให้บริการรถได้กว่า 5,000 คันต่อวัน โดยแยกเป็นสถานีที่ให้บริการเฉพาะรถขนาดใหญ่ (Fleet Station) และสถานีที่ให้บริการทั่วไป (Super Conventional Station) และถือเป็นสถานีบริการก๊าซธรรมชาติประเภทแนวท่อที่ใหญ่ที่สุด ในช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้ใช้บริการอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจมาก โดยบริษัทฯ คาดการณ์ว่าในช่วงครึ่งปีแรกธุรกิจจะมีอัตราการเติบโตสูงถึง 30 % อย่างแน่นอน” นายชัยฤทธิ์ กล่าวทิ้งท้าย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-512-5848 M.O. Chic