กรุงเทพฯ--25 พ.ค.--พีอาร์ วัน เน็ทเวิร์ค
วีเอ็มแวร์นำเสนอ Cloud Foundry บริการแพลตฟอร์มแบบเปิด ครั้งแรกในอุตสาหกรรมวีเอ็มแวร์และผู้นำด้านการพัฒนาระบบคลาวด์ร่วมนำเสนอแพลตฟอร์มในรูปแบบบริการเร่งการพัฒนาและให้บริการแอพพลิเคชั่นในยุคคลาวด์
แพลตฟอร์มแอพพลิเคชั่นแบบเปิด เพิ่มทางเลือกที่หลากหลายสำหรับกรอบโครงสร้างการพัฒนา บริการแอพพลิเคชั่น และการปรับใช้ระบบคลาวด์ พร้อมใช้งานแล้ว
วีเอ็มแวร์ อิงค์ (NYSE: VMW) ผู้นำระดับโลกในด้านเวอร์ช่วลไลเซชั่นและโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ เปิดตัว Cloud Foundry? นับเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรมสำหรับแพลตฟอร์มในรูปแบบบริการ (Platform as a Service - PaaS) โดย Cloud Foundry เป็นแพลตฟอร์มแอพพลิเคชั่นรุ่นอนาคตที่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษสำหรับสภาพแวดล้อมคลาวด์คอมพิวติ้ง และนำเสนอในรูปแบบของบริการจากดาต้าเซ็นเตอร์ระดับองค์กรและผู้ให้บริการคลาวด์สาธารณะ ทั้งนี้ Cloud Foundry จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการพัฒนา นำเสนอ และใช้งานแอพพลิเคชั่นที่ทันสมัย โดยจะปรับปรุงความสามารถของนักพัฒนาในการติดตั้ง ใช้งาน และปรับขนาดแอพพลิเคชั่นในสภาพแวดล้อมคลาวด์ พร้อมทั้งนำเสนอทางเลือกที่หลากหลายที่สุดสำหรับคลาวด์แบบสาธารณะและคลาวด์แบบส่วนตัว พร้อมด้วยกรอบโครงสร้างการพัฒนาตามมาตรฐานอุตสาหกรรม และบริการโครงสร้างพื้นฐานแอพพลิเคชั่น
“การพัฒนาไปสู่ระบบคลาวด์คอมพิวติ้งก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐานสำหรับสิ่งที่องค์กรธุรกิจและผู้บริโภคคาดหวังจากแอพพลิเคชั่น ทำให้เกิดความท้าทายอย่างลึกซึ้งต่อโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาแอพพลิเคชั่นแบบเดิมๆ” มร.ท็อด นีลเซน ประธานร่วมฝ่ายแพลตฟอร์มแอพพลิเคชั่นของวีเอ็มแวร์ กล่าว “Cloud Foundry นำเสนอแนวทางที่สะดวกง่ายดาย รองรับความหลากหลายและช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการพัฒนาแอพพลิเคชั่นที่ทันสมัย ซึ่งนับเป็นหัวใจสำคัญสำหรับแอพพลิเคชั่นที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในปัจจุบัน ควบคู่ไปกับการใช้ประโยชน์จากแนวโน้มสำคัญๆ ในด้านระบบโมบายล์ เครือข่ายสังคมออนไลน์ และคลาวด์คอมพิวติ้ง”
พร้อมกันนี้ วีเอ็มแวร์เปิดตัวบริการคลาวด์สำหรับนักพัฒนา รวมถึงโครงการ PaaS แบบโอเพ่นซอร์ส และครั้งแรกกับโซลูชั่น “Micro Cloud” PaaS ทั้งนี้ ภายในงานเปิดตัว Cloud Foundry มีนักพัฒนาหลายพันคนเข้าร่วม รวมถึงมร.พอล มาริทซ์ ซีอีโอของวีเอ็มแวร์, มร.ร็อด จอห์นสัน รองประธานอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์แพลตฟอร์มแอพพลิเคชั่นของวีเอ็มแวร์, มร.มาร์ค ลูคอฟสกี้ รองประธานฝ่ายวิศวกรรมแพลตฟอร์มแอพพลิเคชั่นของวีเอ็มแวร์ และมร.ดิเร็ค คอลลิสัน ซีทีโอและหัวหน้าสถาปนิกฝ่ายแพลตฟอร์มแอพพลิเคชั่นของวีเอ็มแวร์ ผู้นำกลุ่มนักพัฒนาสำคัญๆ ได้เน้นย้ำถึงคุณประโยชน์ของแพลตฟอร์ม PaaS แบบเปิดในการพัฒนากรอบโครงสร้างการพัฒนาสำหรับระบบคลาวด์ วิทยากรที่บรรยายให้ความรู้ได้แก่ มร.ดิออน อัลมาเออร์ และมร.เบน แกลเบรธ ผู้ร่วมก่อตั้ง FunctionSource, มร.ไรอัน ดาห์ล ผู้สร้าง Node.JS จาก Joyent, มร.เอียน แมคฟาร์แลนด์ รองประธานฝ่ายเทคโนโลยีของ Pivotal Labs, มร.โรเจอร์ โบดาเมอร์ จาก 10Gen ผู้พัฒนาระบบฐานข้อมูล MongoDB และมร.ไมเคิล แครนเดลล์ ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งของ RightScale ข้อมูลเพิ่มเติมและบล็อกจากผู้นำด้านการพัฒนามีอยู่ที่ 10Gen และ RightScale
การพัฒนาแอพพลิเคชั่นในยุคของระบบคลาวด์
การพัฒนาแอพพลิเคชั่นที่ทันสมัย มักพบความท้าทายเพิ่มมากขึ้น เช่น:
? กรอบโครงสร้างการพัฒนาแอพพลิเคชั่นมีความหลากหลาย ส่งผลให้มีการพัฒนาประสิทธิภาพสำหรับหลายๆ ภาษา
? ความต้องการใช้งานในรูปแบบใหม่ๆ รวมถึงการเติบโตในส่วนของระบบไร้สาย เครือข่ายสังคมออนไลน์ และการผนวกรวมซอฟต์แวร์ในรูปแบบของบริการ (SaaS) สำหรับแอพพลิเคชั่นทั่วไป
? การสร้างสรรค์นวัตกรรมในด้านบริการแอพพลิเคชั่น รวมถึงการสร้างแอพพลิเคชั่นข้อมูล ระบบข้อความ และบริการเว็บสำหรับข้อมูลจำนวนมากที่กระจัดกระจายในระบบคลาวด์คอมพิวติ้ง
? ทางเลือกที่หลากหลายในการปรับใช้ระบบคลาวด์ และความต้องการของลูกค้าในการปรับใช้และโยกย้ายแอพพลิเคชั่นอย่างยืดหยุ่น โดยครอบคลุมทั้งระบบคลาวด์ภายในองค์กร และผู้ให้บริการคลาวด์หลายราย
บริการ PaaS นับเป็นโซลูชั่นที่ทันสมัยสำหรับการรองรับแอพพลิเคชั่นที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพของนักพัฒนา โดยช่วยให้นักพัฒนาสามารถโฟกัสที่การเขียนแอพพลิเคชั่นเป็นหลัก แทนที่จะต้องเสียเวลาไปกับการกำหนดค่าระบบและติดตั้งแพตช์ รวมถึงการบำรุงรักษามิดเดิลแวร์และอุปกรณ์ต่างๆ และไม่ต้องกังวลใจเกี่ยวกับโครงสร้างเครือข่ายอีกต่อไป
อย่างไรก็ดี บริการ PaaS รุ่นเก่ามักจะทำให้นักพัฒนาต้องจำกัดการทำงานอยู่บนกรอบโครงสร้างที่เฉพาะเจาะจงหรือไม่เป็นไปตามมาตรฐาน รวมถึงชุดบริการแอพพลิเคชั่นที่จำกัด หรือบริการคลาวด์ของผู้ผลิตเทคโนโลยีรายใดรายหนึ่ง แพลตฟอร์มที่จำกัดเช่นนี้ส่งผลให้แอพพลิเคชั่นที่พัฒนาไม่สามารถนำไปใช้กับแพลตฟอร์มอื่นๆ และทำให้นักพัฒนาต้องผูกติดอยู่กับบริการใดบริการหนึ่ง และไม่สามารถเปลี่ยนไปใช้บริการคลาวด์จากบริษัทอื่น หรือแม้กระทั่งดาต้าเซ็นเตอร์ขององค์กร
"ขณะที่นักพัฒนาสนใจในประโยชน์ที่อาจจะได้รับจากโซลูชั่น PaaS แต่ในความเป็นจริง มีการปรับใช้ช้ามาก เพราะส่วนประกอบและกรอบโครงสร้างไม่เป็นไปตามมาตรฐาน และอาจทำให้นักพัฒนาต้องผูกติดอยู่กับผู้ให้บริการรายใดรายหนึ่ง" มร.สตีเฟ่น โอ'เกรดี้ หัวหน้านักวิเคราะห์ของ RedMonk กล่าว "ด้วยบริการ Cloud Foundry วีเอ็มแวร์ช่วยให้นักพัฒนาสามารถใช้แพลตฟอร์ม PaaS ได้อย่างยืดหยุ่นและไร้ขีดจำกัด เพื่อรองรับความต้องการในการเลือกใช้ภาษาต่างๆ สำหรับการเขียนโปรแกรม"
Cloud Foundry: ทางเลือกที่เหนือกว่าสำหรับกรอบโครงสร้าง บริการแอพพลิเคชั่น และคลาวด์
Cloud Foundry เป็นแพลตฟอร์มแอพพลิเคชั่นที่ทันสมัย ออกแบบเป็นพิเศษเพื่อเพิ่มความสะดวกในการพัฒนา ปรับใช้ และควบคุมแอพพลิเคชั่นบนระบบคลาวด์อย่างครบวงจร Cloud Foundry ผสานรวมบริการและแอพพลิเคชั่นที่หลากหลายบนกรอบโครงสร้างที่แตกต่างกัน และรองรับการปรับใช้แอพพลิเคชั่นอัตโนมัติ รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ที่หลากหลาย
Cloud Foundry ตอกย้ำความมุ่งมั่นของวีเอ็มแวร์ต่อ PaaS แบบเปิด โดยนำเสนอทางเลือกที่หลากหลายมากที่สุดสำหรับกรอบโครงสร้างการพัฒนาและภาษาต่างๆ รวมถึงบริการแอพพลิเคชั่น และสภาพแวดล้อมคลาวด์ นอกจากนี้ Cloud Foundry ช่วยให้นักพัฒนาสามารถโยกย้ายแอพพลิเคชั่นไปยังสภาพแวดล้อมต่างๆ ของผู้ให้บริการคลาวด์และ ดาต้าเซ็นเตอร์ภายในองค์กร ได้อย่างต่อเนื่อง และไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนแอพพลิเคชั่นแต่อย่างใด
Cloud Foundry สนับสนุนกรอบโครงสร้างการเขียนโปรแกรมที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง เช่น Spring for Java, Ruby on Rails, Sinatra for Ruby และ Node.js ทั้งยังรองรับกรอบโครงสร้าง JVM อื่นๆ เช่น Grails สถาปัตยกรรม แบบเปิดที่โดดเด่นนี้รองรับกรอบโครงสร้างการเขียนโปรแกรมเพิ่มเติมในอนาคต สำหรับบริการแอพพลิเคชั่น Cloud Foundry จะสนับสนุนฐานข้อมูล MongoDB, MySQL และ Redis ในช่วงแรก และมีแผนที่จะสนับสนุนบริการ VMware vFabric ในอนาคต
Cloud Foundry ไม่ได้ผูกติดอยู่กับระบบคลาวด์ระบบใดระบบหนึ่ง และไม่จำเป็นต้องใช้โครงสร้างพื้นฐานของวีเอ็มแวร์เสมอไป ที่จริงแล้ว Cloud Foundry รองรับการปรับใช้กับระบบคลาวด์แบบสาธารณะและแบบส่วนตัวทั้งหมด รวมถึงระบบคลาวด์ที่สร้างขึ้นบน VMware vSphere?, ระบบคลาวด์จากคู่ค้า VMware vCloud?, ระบบคลาวด์สาธารณะจากบริษัทอื่นที่ไม่ใช่วีเอ็มแวร์ และการสนับสนุนสำหรับบริการเว็บของ Amazon โดยผู้ให้บริการการจัดการคลาวด์ RightScale
Cloud Foundry จะนำเสนอในหลากหลายรูปแบบ เช่น:
บริการสำหรับนักพัฒนาของวีเอ็มแวร์ — เปิดให้บริการแล้วสำหรับการทดลองใช้งานที่ www.CloudFoundry.com โดยเป็นบริการ PaaS บนคลาวด์สาธารณะที่ประกอบด้วยฟังก์ชั่นพร้อมสรรพ ควบคุมดูแลโดยวีเอ็มแวร์ ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึง Cloud Foundry และรองรับการทดสอบสำหรับบริการใหม่ๆ พร้อมทั้งปรับปรุงการดำเนินงาน สภาพแวดล้อม PaaS ที่รองรับผู้เช่าหลายรายจะช่วยให้นักพัฒนาสามารถปรับขนาดแอพพลิเคชั่นได้อย่างง่ายดายโดยใช้เวลาไม่กี่วินาที โดยผู้พัฒนาจะสามารถลงทะเบียนเพื่อขอใช้บริการดังกล่าวได้แล้ววันนี้
โครงการ PaaS ชุมชนแบบโอเพ่นซอร์ส — พร้อมใช้งานแล้วที่ www.CloudFoundry.org โดยโครงการและเครือข่ายโอเพ่นซอร์สภายใต้ใบอนุญาตใช้งาน Apache 2 ช่วยให้นักพัฒนาสามารถตรวจสอบ ประเมิน และปรับเปลี่ยนซอฟต์แวร์ Cloud Foundry ตามความต้องการ ควบคู่ไปกับการลดความเสี่ยงในการผูกติดอยู่กับผู้ให้บริการรายใดรายหนึ่ง รูปแบบนี้ให้ความยืดหยุ่นสูงสุด ช่วยให้นักพัฒนาสามารถขยายและผนวกรวม Cloud Foundry เข้ากับกรอบโครงสร้าง บริการแอพพลิเคชั่น หรือระบบคลาวด์โครงสร้างพื้นฐานใดๆ
บริการใหม่ Cloud Foundry Micro Cloud — พร้อมใช้งานในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2554 โดย Cloud Foundry Micro Cloud ที่สมบูรณ์แบบ สามารถดาวน์โหลดได้ของ Cloud Foundry ซึ่งอยู่ภายใน เวอร์ช่วลแมชชีนบนเดสก์ท็อปของนักพัฒนา เพิ่มความสะดวกในการพัฒนาและทดสอบแอพพลิเคชั่น รูปแบบที่แปลกใหม่นี้จะช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างและทดสอบแอพพลิเคชั่นบนคอมพิวเตอร์ของตนเอง และแน่ใจได้ว่าแอพพลิเคชั่นดังกล่าวจะสามารถรันในระบบที่ใช้งานจริง โดยไม่ต้องปรับเปลี่ยนระบบคลาวด์แบบส่วนตัวหรือแบบสาธารณะบนแพลตฟอร์ม Cloud Foundry
Cloud Foundry สำหรับองค์กรและผู้ให้บริการ — ในอนาคต วีเอ็มแวร์จะนำเสนอ Cloud Foundry เพื่อการค้า สำหรับองค์กรที่ต้องการนำเสนอความสามารถ PaaS ภายในระบบคลาวด์ส่วนตัว และสำหรับผู้ให้บริการที่ต้องการนำเสนอ Cloud Foundry ผ่านทางบริการคลาวด์สาธารณะ โซลูชั่นเวอร์ชั่นนี้ช่วยให้องค์กรสามารถผนวกรวมสภาพแวดล้อม PaaS เข้ากับบริการโครงสร้างพื้นฐานแอพพลิเคชั่นที่มีอยู่ โดยโซลูชั่นของผู้ให้บริการจะสามารถใช้งานในสภาพแวดล้อมคลาวด์แบบผสมผสาน ช่วยเพิ่มอิสระในการปรับใช้หรือโยกย้ายไปสู่บริการของคู่ค้า vCloud เกือบ 3,500 รายของวีเอ็มแวร์
“คลาวด์คอมพิวติ้งในปัจจุบัน เป็นเทคโนโลยีแบบเปิดมีความสำคัญมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน” มร.ร็อด จอห์นสัน รองประธานอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์แพลตฟอร์มแอพพลิเคชั่นของวีเอ็มแวร์ กล่าว “เช่นเดียวกับที่แพลตฟอร์มแบบเปิด Spring ได้พัฒนาเป็นโซลูชั่นที่เหมาะสำหรับความต้องการของชุมชนนักพัฒนาจาวา (Java) สถาปัตยกรรมแบบเปิดของ Cloud Foundry และกระบวนการทำงานของชุมชนจะช่วยให้นักพัฒนาได้รับประโยชน์จากประสิทธิภาพและความเรียบง่ายของ PaaS ควบคู่ไปกับการขยายเทคโนโลยีเพื่อตอบสนองความต้องการที่เฉพาะเจาะจง”
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม:
? เว็บคาสต์ของเครือข่ายวีเอ็มแวร์และ Cloud Foundry:
? มร.สตีฟ เฮอร์รอด ซีทีโอของวีเอ็มแวร์ มุมมองผู้บริหารเกี่ยวกับ Cloud Foundry:
? มร.ร็อด จอห์นสัน รองประธานอาวุโสกลยุทธ์แพลตฟอร์มแอพพลิเคชั่นและมุมมองผู้บริหารเกี่ยวกับ Cloud Foundry:
? การสนับสนุนของเครือข่ายวีเอ็มแวร์
มุมมองของเครือข่ายและบล็อกสนับสนุน PaaS แบบเปิด:
10GenRightScale ? มร.สตีฟ เฮอร์รอด ซีทีโอของวีเอ็มแวร์ มุมมองผู้บริหารเกี่ยวกับกลยุทธ์ Open PaaS ความมุ่งมั่นของวีเอ็มแวร์ต่อ PaaS แบบเปิด
เกี่ยวกับวีเอ็มแวร์ (VMware)
วีเอ็มแวร์ นำเสนอโซลูชั่นสำหรับโครงสร้างพื้นฐานธุรกิจแบบเวอร์ชวลไลเซชั่นและคลาวด์ ซึ่งจะช่วยให้ฝ่ายไอทีสามารถขับเคลื่อนธุรกิจทุกขนาดได้อย่างเหมาะสม ด้วยแพลตฟอร์มเวอร์ช่วลไลเซชั่นชั้นนำอย่าง VMware vSphere? ลูกค้าจึงวางใจวีเอ็มแวร์ในการช่วยลดต้นทุน และค่าใช้จ่ายในดำเนินการ รวมทั้งสร้างความมั่นใจด้านความต่อเนื่องทางธุรกิจ เพิ่มความปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยรายได้ 2.9 พันล้านดอลลาร์ในปี 2553 ประกอบกับมีลูกค้ากว่า 250,000 ราย และพันธมิตรทางธุรกิจกว่า 25,000 ราย วีเอ็มแวร์จึงเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีเวอร์ช่วลไลเซชั่นที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากกลุ่มผู้บริหารซีไอโอ วีเอ็มแวร์มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ซิลิคอนวัลเลย์ และมีสำนักงานสาขาอยู่ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.vmware.com
VMware, Cloud Foundry, VMware vSphere, and VMware vCloud are registered trademarks or trademarks of VMware, Inc. in the United States and/or other jurisdictions. All other marks and names mentioned herein may be trademarks of their respective companies.
Forward-Looking Statements
This press release contains forward-looking statements including, among other things, the effect of cloud computing on business and consumer expectations from applications, the expected availability of Cloud Foundry Micro Cloud and other planned Cloud Foundry products and services and the expected benefits of Cloud Foundry and open PaaS environments for customers. These forward-looking statements are subject to the safe harbor provisions created by the Private Securities Litigation Reform Act of 1995. Actual results could differ materially from those projected in the forward-looking statements as a result of certain risk factors, including but not limited to: (i) adverse changes in general economic or market conditions; (ii) delays or reductions in information technology spending and government subsidies; (iii) competitive factors, including but not limited to pricing pressures, industry consolidation, entry of new competitors into the virtualization market, and new product and marketing initiatives by our competitors; (iv) our customers’ ability to develop, and to transition to, new products and computing strategies, (v) the uncertainty of customer acceptance of emerging technology; (vi) rapid technological and market changes in virtualization software and platforms for cloud and desktop computing; (vii) changes to product development timelines; (viii) our ability to protect our proprietary technology; (ix) our ability to attract and retain highly qualified employees; and (x) the successful integration of acquired companies and assets into VMware. These forward looking statements are based on current expectations and are subject to uncertainties and changes in condition, significance, value and effect as well as other risks detailed in documents filed with the Securities and Exchange Commission, including our most recent reports on Form 10-K and Form 10-Q and current reports on Form 8-K that we may file from time to time, which could cause actual results to vary from expectations. VMware assumes no obligation to, and does not currently intend to, update any such forward-looking statements after the date of this release.
สอบถามรายละเอียดผลิตภัณฑ์
บริษัท วีเอ็มแวร์ (ประเทศไทย) จำกัด
โทรศัพท์ 0-2231-8382 อีเมล์: cjariyawiroj@vmware.com
ที่ปรึกษาด้านการประชาสัมพันธ์
บริษัท พีอาร์ วัน เน็ทเวิร์ค จำกัด
คุณภัทธิรา บุรี / คุณอุทัยวรรณ ชูชื่น
โทรศัพท์ 0-2937-4518-9 อีเมล์: patthira@pr-one.com, utaiwan@pr-one.com