กรุงเทพฯ--25 พ.ค.--ไอบีเอ็ม
ไอบีเอ็ม ตั้งเป้าครองอันดับ 1 ธุรกิจซอฟต์แวร์เปิดกลยุทธ์รุกตลาดเพิ่มความแข็งแกร่งมิดเดิลแวร์ขยายตลาดเจาะซอฟต์แวร์ โซลูชั่น ตอบโจทย์ความต้องการทุกธุรกิจ
ไอบีเอ็มซอฟต์แวร์ แจงกลยุทธ์เติบโต ตั้งเป้าครองอันดับ 1ลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีต่อเนื่อง พร้อมควบรวมกิจการเสริมความแข็งแกร่ง Software Middleware group เสริมทัพด้วยเทคโนโลยีระบบคลังข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลด้วย IBM Netezza และการประมวลผลธุรกรรมออนไลน์จาก DB2 PureScale พร้อมขยายตลาดเจาะกลุ่มใหม่ด้วย Software Solutions Group รองรับตลาดเติบโตและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ตอบโจทย์ความต้องการให้ลูกค้า ได้ทุกอุตสาหกรรม
นางเจษฎา ไกรสิงขร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจซอฟต์แวร์ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า “ซอฟต์แวร์เป็นหนึ่งในธุรกิจหลักที่ไอบีเอ็มให้ความสำคัญ โดยลงทุนพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการลงทุนควบรวมกิจการบริษัทต่างๆ ทั่วโลกเพื่อเสริมศักยภาพของซอฟต์แวร์ไอบีเอ็มที่สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดไอที เพิ่มขีดความสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างครบวงจรมากยิ่งขึ้น โดยซอฟต์แวร์ มิดเดิลแวร์ กรุ๊ป (Software Middleware Group) ยังคงเน้นซอฟต์แวร์ มิดเดิลแวร์ที่เป็นซอฟต์แวร์พื้นฐานของการวางระบบไอทีขององค์กร ประกอบด้วยซอฟต์แวร์ 4 แบรนด์ คือ Information Management, Tivoli, Rational และ WebSphere กลุ่มนี้เน้นมิดเดิลแวร์ที่เป็นซอฟต์แวร์พื้นฐานของการวางระบบไอทีขององค์กร โดยมีเทคโนโลยีเด่นล่าสุด เช่น การสร้างคลังข้อมูลพร้อมการวิเคราะห์ข้อมูล ด้วยเทคโนโลยีเน็ตทีซ่า (IBM Netezza) สำหรับการทำคลังข้อมูล (Data Warehouse) และเทคโนโลยีไอบีเอ็ม ดีบีทู เพียวสเกล (IBM DB2 PureScale) บนเซิร์ฟเวอร์ ไอบีเอ็ม เพาเวอร์ซิสเต็มส์ ที่ช่วยประมวลผลธุรกรรมออนไลน์ OLTP (Online Transaction Processing Workloads) ช่วยให้ลูกค้ารองรับการประมวลผลธุรกรรมออนไลน์ได้มากขึ้น พร้อมลดความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายในการขยายระบบไอที และ ขยายขีดความสามารถด้านการแข่งขัน เทคโนโลยีของ WebSphere ในการสร้างคลาวด์คอมพิวติ้งในระดับ Platform เพื่อร่นระยะเวลาการสร้างแอพลิเคชั่น อินฟราสตรักเจอร์จากสัปดาห์ลดลงเป็นเพียงนาที เทคโนโลยีของ Tivoli ในการบริหารจัดการงานด้านไอทีอินฟราสตรัคเจอร์แบบรวมศูนย์และมีความยืดหยุ่น เป็นต้น
สำหรับ ซอฟต์แวร์ โซลูชั่น กรุ๊ป (Software Solutions Group) มุ่งเน้นนำเสนอโซลูชั่นที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง ประกอบด้วยซอฟต์แวร์ในแบรนด์ ซอฟต์แวร์ Business Analytics สำหรับการวิเคราะห์ประมวลผลและคาดการณ์แนวโน้มทางธุรกิจ รวมทั้งซอฟต์แวร์ในการบริหารความเสี่ยงและการเปิดเผยข้อมูลของฝ่ายการเงิน ซอฟต์แวร์ Collaboration เน้นการทำ Social Business ทั้งกับลูกค้า คู่ค้าและพนักงานในองค์กรอย่างปลอดภัย และ ซอฟต์แวร์ Industry Solutions ที่รวมโซลูชั่นการจัดการเนื้อหาระดับองค์กร โซลูชั่นสำหรับการทำธุรกรรมแบบ B2B and Commerce และโซลูชั่นการจัดการ การตลาดระดับองค์กร
นอกจากนี้ สำหรับการทำคลาวด์ คอมพิวติ้ง ที่มีแนวโน้มการใช้งานมากขึ้น ไอบีเอ็มมีซอฟต์แวร์ที่รองรับช่วยในการทำคลาวด์ คอมพิวติ้งได้ทุกรูปแบบทั้ง Private Cloud, Public Cloud และทุกระดับไม่ว่าจะเป็น Infrastructure as a Services — IaaS การทำ Platform as a Services- PaaS การทำ Software as a Service — SaaS และการทำ Business process as a Service - Bpaas
นางเจษฎา กล่าวสรุปในตอนท้ายว่า “การเสริมศักยภาพด้วยซอฟต์แวร์ ที่จะไปเพิ่มความแข็งแกร่งไปที่มิดเดิลแวร์กรุ๊ปพร้อมการขยายฐานไปสู่ซอฟต์แวร์ โซลูชั่นครั้งนี้ ส่งผลให้ไอบีเอ็มก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดซอฟต์แวร์ของโลก ด้วยมุมมองความต้องการที่จะตอบสนองตลาดได้ทุกอุตสาหกรรม เพื่อให้ลูกค้านึกถึงไอบีเอ็มซอฟต์แวร์เป็นอันดับหนึ่งในใจ ไม่ว่าลูกค้าจะมีปัญหาอะไร ต้องการโซลูชั่นแบบไหน ไอบีเอ็มไม่เคยหยุดนิ่ง จะเข้าไปช่วยเหลือ ให้คำแนะนำตลอดจนเข้าไปทำความเข้าใจในธุรกิจลูกค้าให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น เพื่อนำไอทีไปช่วยพัฒนาประสิทธิภาพให้ธุรกิจ ประสบความสำเร็จให้บรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ในโอกาสที่ไอบีเอ็มครบรอบ 100 ปีในปีนี้ ไอบีเอ็มยังคงมุ่งมั่นในการคิดค้นและพัฒนา นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ เป็นพันธมิตรทางด้านไอทีที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างครบวงจร เพื่อร่วมสร้างประวัติศาสตร์แห่งความสำเร็จของธุรกิจลูกค้าต่อไปอย่างยั่งยืน”
เกี่ยวกับไอบีเอ็มซอฟต์แวร์
ซอฟต์แวร์ โซลูชั่น กรุ๊ป (Software Solutions Group) มุ่งเน้นนำเสนอโซลูชั่นที่มีแนวโน้มการเติบโตของตลาดสูง คือ
1. ซอฟต์แวร์ Business Analytics ที่มี Cognos 10 เป็นแกนหลัก ช่วยในการประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูล SPSS ช่วยในการวิเคราะห์คาดการณ์แนวโน้มที่จะเกิดขึ้นของธุรกิจ (Predictive Analysis) พร้อมผนวกประสิทธิภาพของซอฟต์แวร์ใหม่ 2 ตัวล่าสุด คือ OpenPages ซอฟต์แวร์ที่ช่วยจัดการบริหารความเสี่ยงในองค์กร (Compliance and risk management) และ Clarity ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์สำหรับระบบปฏิบัติการและธรรมาภิบาลในการเปิดเผยข้อมูลทางการเงิน
2. ซอฟต์แวร์ Collaboration ยังคงมี Lotus ซอฟต์แวร์ป็นแกนหลักเน้นการทำ Social Business ทั้งกับลูกค้า คู่ค้าและพนักงานในองค์กร เพื่อเสริมศักยภาพทางธุรกิจ สู่สังคมออนไลน์ที่มีมาตรฐานเรื่องความปลอดภัยขั้นสูงของไอบีเอ็ม โดยสามารถทำงานได้บนหลากหลายอุปกรณ์ ทั้งคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟนที่รองรับได้หลายแพลตฟอร์ม
3. ซอฟต์แวร์ Industry Solutions ประกอบด้วย 3 โซลูชั่นหลัก คือ
- โซลูชั่นการจัดการเนื้อหาระดับองค์กร (Enterprise Content Management - ECM) ช่วยให้สามารถจัดการ จัดเก็บและนำเสนอ ข้อมูล ภาพ สื่อดิจิตอล ที่แตกต่างกันทั้งหมดของเนื้อหา จากนั้นปรับปรุงประสิทธิภาพและนำสู่กระบวนการจัดการทางธุรกิจแบบอัตโนมัติ ประกอบไปด้วยซอฟต์แวร์สำคัญคือ FileNet, Datacap ที่เป็นโซลูชั่นในการ capture data and document
- โซลูชั่นสำหรับการทำธุรกรรมแบบ B2B and Commerce ช่วยให้องค์กรที่ต้องการจัดการธุรกรรมแบบครบวงจร (end to end process) ตั้งแต่การจัดการการขาย คำสั่งซื้อ (order) และโลจิสติก ผสานความสามารถของซอฟต์แวร์ Sterling Commerce ซึ่งเป็นผู้นำในการทำ Cross-Channel Commerce และ B2B Integration Solutions ซอฟต์แวร์ WebSphere Commerce และ ILOG Supply Chain
- โซลูชั่นการจัดการ การตลาดระดับองค์กร ( Enterprise Marketing Management- EMM) ที่รวมซอฟต์แวร์ชั้นนำคือ Unica ที่โดดเด่นในการบริหารการตลาดระดับองค์กร และซอฟต์แวร์ Coremetrics ผู้นำในการวิเคราะห์เว็บและการตลาดแบบบูรณาการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ โดยไอบีเอ็มมุ่งหวังจะช่วยให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจในการทำแคมเปญการตลาดที่ได้ตรงกลุ่มเป้าหมายและมีประสิทธิภาพที่สุด
ซอฟต์แวร์ มิดเดิลแวร์ กรุ๊ป (Software Middleware Group) ไอบีเอ็มยังคงเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีต่อเนื่อง ในแต่ละผลิตภัณฑ์ ดังนี้ 1. ซอฟต์แวร์ Information Management ที่เน้นช่วยให้ใช้ประโยชน์ของข้อมุลที่มีในองค์กรได้อย่างสูงสุด มีผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ ไอบีเอ็ม เน็ตทีซ่า (IBM Netezza) ผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ใหม่ล่าสุดของไอบีเอ็ม สำหรับคลังข้อมูล (Data Warehouse) เป็นเทคโนโลยีวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงให้กับทุกสายงานธุรกิจ ใช้งานง่าย เปี่ยมประสิทธิภาพ 2.ซอฟต์แวร์ Tivoli ที่เน้นการบริหารจัดการงานบริการทางด้านไอทีอินฟราสตรัคเจอร์แบบรวมศูนย์และมีความยืดหยุ่น มีผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ โซลูชั่นการจัดการเครื่องลูกข่ายแบบครบวงจร (Desktop Management) ที่เน้นการบริหารจัดการไอทีจากศูนย์กลางอย่างชาญฉลาด ด้วย TCO ที่ต่ำและ ROI ที่สูงกว่า โดยสร้างบนเทคโนโลยีของ BigFix ซึ่งไอบีเอ็มพึ่งควบรวมกิจการมา 3.ซอฟต์แวร์ WebSphere เป็นเครื่องมือจัดการและสร้างแอพลิเคชั่นที่เสริมให้ธุรกิจมีความยืดหยุ่นและคล่องตัว พร้อมด้วยโซลูชั่นในการบริหารจัดการกระบวนการทางธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ มีผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ Cast Iron ผลิตภัณฑ์ที่ไอบีเอ็มได้ซื้อกิจการมา โดยมีความสามารถเชื่อมโยงแอพลิเคชั่น (Integrate Application) ในองค์กร และแอพลิเคชั่นบนระบบคลาวด์ ได้เพียงไม่กี่วัน และโซลูชั่น Business Process Management บนพื้นฐานของเทคโนโลยีจาก Lombardi และ ILOG 4. ซอฟต์แวร์ Rational เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การพัฒนาซอฟต์แวร์ขององค์กรมีประสิทธิภาพ ตามมาตรฐานการพัฒนาซอฟต์แวร์ หรือ CMMI (Capability maturity Model Integration) เน้นการทำงานบนแพลตฟอร์ม Jazz ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเปิดสำหรับทุกคน
สื่อมวลชนติดต่อข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด
จินรี ตัณมณี โทร. 02 273 4676 email : chinnare@th.ibm.com