กรุงเทพฯ--27 พ.ค.--กรมส่งเสริมการส่งออก
รองอธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก (นางมาลี โชคล้ำเลิศ) เปิดเผยภายหลังการหารือกับ MR. Mark Lunn ผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทที่ปรึกษากฎหมาย Arent Fox ประเทศสหรัฐ ซึ่งกรมฯ ได้เชิญให้เดินทางมาบรรยายให้ความรู้กับผู้ประกอบการเกี่ยวกับกฎหมายความปลอดภัยสินค้าอาหารฉบับใหม่ (Food Safety Modernization Act) เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2554 ว่า ขณะนี้ สหรัฐ ได้รับรองกฎหมายสินค้าอาหารฉบับใหม่ โดยมีสาระสำคัญ อาทิ การให้ FDA (Food and Drugs Administration) สามารถเรียกคืนสินค้าที่มีสารอันตรายปนเปื้อน การบังคับให้โรงงานผลิตสินค้าอาหารทั้งในและต่างประเทศที่ส่งสินค้ามาจำหน่ายในสหรัฐ ต้องจดทะเบียนกับ FDA และต่ออายุทุก 2 ปี และ อนุญาตให้ FDA ทำความตกลงกับประเทศผู้ผลิตสินค้าอาหารในการตรวจสอบความปลอดภัยในโรงงานต่างประเทศ
กฎหมายฉบับนี้ จะส่งผลกระบทต่อกลุ่มสินค้าอาหารซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าส่งออกสำคัญอันดับ 4 ของไทยรองจาก สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และยานยนต์ ซึ่งในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ไทยส่งออกสินค้าอาหารเป็นมูลค่า 5,043 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 20.6 ตลาดหลักได้แก่ ญี่ปุ่น สหรัฐ สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย และพม่า โดยที่ไทยส่งออกไปตลาดสหรัฐมากเป็นลำดับ 2 เป็นมูลค่า 904 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 14.6
ผลกระทบของกฎหมายดังกล่าว จะเป็นการเพิ่มภาระต้นทุนให้กับผู้ประกอบการไทยหากไม่มีการเตรียมการรองรับอย่างทันท่วงที กรมฯ จึงได้เชิญผู้เชี่ยวชาญมาให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการในครั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการเพื่อให้สามารถปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง นอกจากนี้ กรมฯ ได้มีความเห็นว่า หากหน่วยงานภาครัฐของไทยที่เกี่ยวข้องกับการรับรองความปลอดภัยของอาหารสามารถทำข้อตกลงกับ FDA เพื่อให้เป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบและรับรองความปลอดภัยของโรงงานสินค้าอาหารไทยให้ตรงกับความต้องการตามกฎหมายใหม่ของสหรัฐได้ จะช่วยลดต้นทุนของผู้ประกอบการไทยในส่วนนี้