กรุงเทพฯ--27 พ.ค.--กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ร่วมลงนามกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) พัฒนางานวิชาการและการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์และสาธารณสุข เพื่อแก้ไขปัญหาให้สอดคล้องกับความต้องการด้านสาธารณสุขในพื้นที่ภาคเหนือ
นพ.สถาพร วงษ์เจริญ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ตระหนักถึงความจำเป็นในการร่วมมือกันทางวิชาการและงานวิจัย รวมทั้งมีเจตจำนงแน่วแน่ที่จะร่วมมือกันพัฒนางานด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์และสาธารณสุขของภาคเหนือและในส่วนอื่น ๆ ของประเทศ ให้สามารถแก้ไขปัญหาและ ให้สอดคล้องกับความต้องการด้านสาธารณสุขในพื้นที่ต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งพัฒนาคุณภาพห้องปฏิบัติการด้านชันสูตรโรคและด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพทั้งภายในและภายนอกองค์การให้เป็นที่ยอมรับและอยู่ในชั้นนำของระดับภูมิภาคเอเชีย โดยทั้ง 2 หน่วยงานจะร่วมกันดำเนินการศึกษาวิจัยในด้านพิษวิทยา พยาธิวิทยาคลินิก สมุนไพร ด้านคุ้มครองผู้บริโภคทางสาธารณสุขและด้านอื่น ๆ โดยจะมีการจัดหาแหล่งทุนในการสนับสนุนการศึกษาวิจัยร่วมกัน
สำหรับการแก้ไขปัญหาสาธารณสุขในพื้นที่นั้น ทั้ง 2 หน่วยงาน จะร่วมกันจัดทำโครงการ เพื่อแก้ไขปัญหาและตอบสนองความต้องการด้านสาธารณสุขในพื้นที่ พร้อมทั้งพัฒนาบุคลากรโดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะให้การสนับสนุนงานวิจัยของบุคลากรและนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในด้านการฝึกทดลองในห้องปฏิบัติการ การใช้เครื่องมือวิทยาศาสตร์การแพทย์ และเป็นผู้ดูแลในการฝึกสอนนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่ฝึกปฏิบัติงานในกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ส่วนมหาวิทยาลัยเชียงใหม่จะให้การสนับสนุนในการจัดการเรียนการสอนและการศึกษาต่อเนื่องในระดับที่สูงกว่าปริญญาตรีแก่บุคลากรของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ รวมทั้งการแต่งตั้งเป็นอาจารย์พิเศษของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยอยู่ภายใต้ข้อบังคับและระเบียบของมหาวิทยาลัย
อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์มีบทบาทในการเป็นห้องปฏิบัติการอ้างอิงและรับรองคุณภาพห้องปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุข รวมทั้งการศึกษาวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้และเทคโนโลยีด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์และสาธารณสุขของประเทศ ที่ผ่านมากรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้มีการร่วมมือกับหลาย ๆ องค์กรในการพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อร่วมกันป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณสุขของประเทศ ซึ่งการร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ครั้งนับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่จะแก้ไขปัญหาให้สอดคล้องให้กับพื้นที่ทางภาคเหนือ และเป็นประโยชน์ต่องานด้านสาธารณสุขของประเทศ