กรุงเทพฯ--30 พ.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ข้อมูลทองคำวันนี้
- ราคาสมาคม เปิดที่ 21,900 - 22,000
- ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,536.10
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 30.31 — 30.34
- GFM11 Hi- Low 22,190 — 22,130 ปิดที่ 22,180
Gold & Silver Insight
สัญญาทองคำ และ โลหะเงินตลาด COMEX
ส่งมอบเดือนมิ.ย. ปิดทะยาน 13.5 ดอลลาร์ แตะที่ 1,536.3 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.บวก 53.3 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 37.863 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากที่เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ขณะที่วิกฤตหนี้สินยุโรปก็กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าถือครองทองคำเพื่อความปลอดภัย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์
ปิดขยับขึ้น 38.82 จุด หรือ 0.31% แตะที่ 12,441.58 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 5.41 จุด หรือ 0.41% แตะที่ 1,331.10 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 13.94 จุด หรือ 0.50% แตะที่ 2,796.86 จุด โดยได้รับแรงหนุนจากเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง ซึ่งช่วยหนุนราคาเหล็กและหุ้นกลุ่มวัสดุให้ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ขยายตัวเกินคาด แม้ข้อมูลเศรษฐกิจบางตัวจะน่าผิดหวังก็ตาม
สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX
ส่งมอบเดือนก.ค.บวก 36 เซนต์ หรือ 0.36% ปิดที่ 100.59 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นการปิดเหนือระดับ 100 ดอลลาร์เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน โดยได้รับแรงหนุนจากเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าเมื่อเทียบสกุลเงินอื่นๆ แต่ราคาน้ำมันก็ไม่สามารถปรับเพิ่มได้มากกว่านี้ เนื่องจากถูกฉุดโดยข้อมูลเศรษฐกิจบางตัวที่น่าผิดหวัง
กองทุน SPDR Gold Trust
กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. วันที่ 30 พฤษภาคม ขายออก 0.91ตัน เปลี่ยนแปลงการถือครองจากระดับ 1214.08ตัน เข้าสู่ระดับ 1213.17ตัน
USD/EU ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (27 พ.ค.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่น่าผิดหวังส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อเงินดอลลาร์ เงินยูโรแข็งค่า 1.09% เมื่อเทียบเงินดอลลาร์ แตะที่ 1.4292 ดอลล่าร์ต่อยูโร จากระดับ 1.4138 ดอลล่าร์ต่อยูโร เมื่อวันพฤหัสบดี โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 1.4293 ดอลล่าร์ต่อยูโร
USD/JPY ค่าเงินเยนแข็งค่า 0.60% เมื่อเทียบเงินเยน แตะ 80.85 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 81.34 เยนต่อดอลลาร์ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 80.80 เยนต่อดอลลาร์
USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดวานนี้ อยู่ที่ระดับ 30.37-30.40 บาทต่อดอลล่าร์ ซึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักระหว่างวัน ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 30.31-30.34 บาทต่อดอลล่าร์
ข่าวเศรษฐกิจโลก
- สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐรายงานว่า ดัชนียอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ร่วงลง 11.6% แตะ 81.9 จุดในเดือนเมษายน ซึ่งต่ำสุดในรอบ 7 เดือน และแย่กว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะลดลงเพียง 1% แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังฟื้นตัวอย่างยากลำบาก นอกจากนั้นกระทรวงพาณิชย์สหรัฐยังเปิดเผยว่า การใช้จ่ายผู้บริโภคขยายตัว 0.4% ในเดือนเมษายน ซึ่งขยายตัวน้อยที่สุดในรอบ 3 เดือน บ่งชี้ว่าสถานการณ์การบริโภคยังคงซบเซา
- นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในวอลล์สตรีทคาดว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payroll) ประจำเดือนพ.ค.ของสหรัฐ ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันศุกร์นี้ จะเพิ่มขึ้น 185,000 ราย ซึ่งจะเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8 อย่างไรก็ตาม ตัวเลขคาดการณ์การจ้างงานเดือนพ.ค.น้อยกว่าเดือนเม.ย.ที่ขยายตัวได้ดีถึง 244,000 ราย เนื่องจากภาคการผลิตของสหรัฐชะลอการจ้างงาน อันเป็นผลมาจากต้นทุนเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น และผลกระทบของแผ่นดินไหวรุนแรงในญี่ปุ่น
- สมาคมเหล็กและเหล็กกล้าจีน (CISA) คาดการณ์ว่า อุปสงค์โลหะดิบภายในประเทศจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 670 - 750 ล้านตันต่อปีในปี 2558 ตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวตั้งอยู่บนพื้นฐานของสมมุติฐานที่ว่าเศรษฐกิจของจีนจะมีอัตราการขยายตัวต่อปีที่ 8-9% ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจระยะ 5 ปีฉบับที่ 12 ในระหว่างปี 2554 - 2558 ทั้งนี้ ข้อมูลสถิติของรัฐบาลระบุว่า ในปี 2553 ผลผลิตโลหะดิบของจีนเพิ่มขึ้น 9.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ 626.96 ล้านตัน
- สหภาพยุโรป (อียู) และญี่ปุ่นออกแถลงการณ์ร่วมระบุถึงการตัดสินใจที่จะเริ่มเดินหน้าการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ภายหลังการประชุมสุดยอดอียู-ญี่ปุ่น ผู้นำจากอียูและญี่ปุ่น เห็นพ้องที่จะเริ่มเดินหน้ากระบวนการเจรจาข้อตกลง FTA ในเชิงลึกและครอบคลุมและข้อตกลงความร่วมมือหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ (EPA) ตลอดจนข้อตกลงต่างๆ ซึ่งครอบคลุมประเด็นทางการเมืองและความร่วมมือในระดับโลก
- สำนักงานสถิติแห่งชาตินิวซีแลนด์เปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดเกินดุลการค้าเดือนเม.ย.ขยายตัวขึ้น 1.11 พันล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ (910 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งสุดเป็นประวัติการณ์ เพราะได้แรงหนุนจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้น และจากการพุ่งขึ้นของความต้องการผลิตภัณฑ์อาหารของนิวซีแลนด์ในตลาดเอเชีย
- เซี่ยงไฮ้ ซีเคียวริตีส์ นิวส์ รายงานว่า จีนตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าผลผลิตในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี 10% ต่อปี ตั้งแต่ปีนี้ไปจนถึงปี 2558 สมาคมอุตสาหกรรมปิโตรเลียมและเคมีจีนเปิดเผยแนวทางพัฒนาอุตสาหกรรมซึ่งระบุว่า มูลค่าผลผลิตรวมของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีจีนจะอยู่ที่ระดับ 16 ล้านล้านหยวน (2.46 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) ภายในปี 2558 จากระดับ 8.88 ล้านล้านหยวนในปี 2553
- กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศจีน (MIIT) เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้าในจีนปรับตัวสูงขึ้น 18.5% ในเดือนเมษายน ซึ่งขยายตัวน้อยกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วอยู่ 17.9% สำหรับในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ยอดค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้าปรับเพิ่มขึ้น 20.9% ซึ่งขยายตัวน้อยกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วอยู่ 6.1%
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าจับตา
อาทิตย์ที่ ข้อมูลที่น่าจับตา ตัวเลขเดิม ตัวเลข คาดการณ์ ตัวเลขจริง
27 —30พฤษภาคม2554
วัน ? Core PCE Price Index m/m. 0.1% 0.2% 0.2%
ศุกร์ ? Personal Spending m/m 0.5% 0.5% 0.4%
? Revised UoM Consumer Sentiment 72.4 72.5 74.3
? Pending Home Sales m/m 3.5% -0.9% -11.6%
วัน Memorial Day ;
จันทร์ All Markets Closed