กรุงเทพฯ--30 พ.ค.--กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
นางจินตนา ชัยยวรรณาการ รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในวันนี้ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ จัดสัมมนาเรื่อง “มองหาโอกาสในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)” ณ โรงแรม ดิเอ็มเมอรัลด์ รัชดา กรุงเทพฯ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นของทุกภาคส่วน รวมถึง ให้ผู้ประกอบการไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมความพร้อมรองรับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี ๒๕๕๘
นางจินตนา กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เป็นหน่วยงานหลักในการประสานการเจรจาด้านเศรษฐกิจของอาเซียน โดยได้ดำเนินการตามเป้าหมาย เพื่อก้าวไปสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community: AEC) ภายในปี ๒๕๕๘ ซึ่งกรมฯจะทำงานร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ที่มีสมาชิกเป็นกลุ่มเป้าหมาย เพื่อนำข้อมูลข้อตกลงจากการเปิดเสรีอาเซียน และการปรับตัวสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ให้รู้จักใช้ประโยชน์จากความตกลง และนำไปสู่การลดต้นทุนการผลิต ความเข้มแข็งทางการตลาดใน AEC อย่างต่อเนื่องในทั่ว ทุกภาคของประเทศ
“การจัดสัมมนาครั้งนี้ มีผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้มีความรู้และประสบการณ์ด้านเศรษฐกิจ และผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จในการบุกเบิกตลาดในอาเซียน มาร่วมสนทนาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ชี้ให้เห็นถึงโอกาสช่องทางการทำการค้าในตลาดอาเซียน และเป็นการสร้างทัศนคติที่ดีของประชาชนกลุ่มเป้าหมายต่อการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) รวมถึงรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดทำยุทธศาสตร์การค้าไทย เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง รวมถึงให้ภาคธุรกิจเตรียมพร้อมในการใช้ประโยชน์จากโอกาสทางการค้าการลงทุนที่เพิ่มขึ้น และปรับตัวเพื่อรองรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้น รวมทั้งยังมีการจัดนิทรรศการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับ AEC ของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง” นางจินตนา กล่าว
นอกจากนี้ การสัมมนาในรูปแบบนี้ จะจัดขึ้นอีกจำนวน ๓ ครั้ง ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด โดยครั้งที่ ๒ วันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๕๔ ณ โรงแรมซิตี้ โฮเต็ล ศรีราชา จังหวัดชลบุรี ครั้งที่ ๓ วันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๔ ณ โรงแรมเอเซี่ยน หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และครั้งที่ ๔ วันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ
อาเซียนเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับ ๑ ของไทย นำหน้าตลาดดั้งเดิม เช่น สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น และยังมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปีที่ผ่านมา ไทยส่งออกไปอาเซียนมูลค่ากว่า ๔๔,๐๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ ๒๒.๖ ของการส่งออกรวมของไทย มีการนำเข้าจากอาเซียนประมาณ ๓๐,๐๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทำให้ไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้ากว่า ๑๔,๐๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งนับเป็นความสำเร็จของไทย ที่เกิดจากการรวมตัวของอาเซียน ซึ่งผู้ประกอบการต้องติดตามและรู้จักใช้ประโยชน์จากการลดภาษี และยกเลิกมาตรการที่มิใช่ภาษีของอาเซียน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน