ทริสเรทติ้งทบทวนอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกัน “บ. อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส” และจัดอันดับหุ้นกู้ใหม่ที่ระดับ “A+/Stable”

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday May 31, 2011 11:14 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--31 พ.ค.--ทริสเรทติ้ง บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันของ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A+” ในขณะเดียวกันยังจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 3,000 ล้านบาทของบริษัทที่ระดับ “A+” เช่นกัน โดยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” อันดับเครดิตดังกล่าวได้รับการปรับเพิ่มขึ้นจากอันดับเครดิตเฉพาะของบริษัทเนื่องจากบริษัทมีฐานะเป็นบริษัทลูกที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) โดยธนาคารกรุงศรีอยุธยาได้รับอันดับเครดิตที่ระดับ “AA-” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” จากทริสเรทติ้ง บริษัทเป็นบริษัทลูกที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ในธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ซึ่งช่วยให้ธนาคารกรุงศรีอยุธยาบรรลุเป้าหมายการเป็นธนาคารพาณิชย์แบบครบวงจร ทั้งนี้ อันดับเครดิตเฉพาะของบริษัทมาจากฐานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ตลอดจนคณะผู้บริหารที่มากประสบการณ์และมีผลงานเป็นที่ยอมรับ รวมถึงระบบการบริหารความเสี่ยงที่ดี อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกบั่นทอนบางส่วนจากภาวะการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ตลอดจนความไม่แน่นอนจากการเปลี่ยนแปลงภาวะแวดล้อมทางธุรกิจซึ่งอาจมีผลกระทบต่อการขยายกิจการ ผลประกอบการ และคุณภาพสินทรัพย์ของบริษัทในอนาคต แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหมายว่าทิศทางธุรกิจของบริษัทจะมีความสอดคล้องกับกลยุทธ์ธุรกิจของกลุ่มธนาคารกรุงศรีอยุธยาและบริษัทจะยังคงได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากธนาคารต่อไป แนวโน้มอันดับเครดิตยังสะท้อนถึงความสามารถของผู้บริหารของบริษัทในการรักษาฐานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ด้วย ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่าปัจจัยเอื้ออำนวยต่าง ๆ เช่น ผู้บริหารที่มีประสบการณ์ ระบบบริหารความเสี่ยงที่ดี และการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากธนาคารกรุงศรีอยุธยาจะช่วยให้บริษัทสามารถรักษาคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีและปรับปรุงฐานะทางการเงินให้ดีขึ้นได้ในระยะปานกลาง ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทอยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส กลายมาเป็นบริษัทลูกที่ถือหุ้นทั้งหมดโดยธนาคารกรุงศรีอยุธยาในเดือนกุมภาพันธ์ 2551 ตามแผนการปรับโครงสร้างองค์กรของธนาคารหลังจากที่ GE Capital International Holdings Corporation (GECIH) ซื้อหุ้น 32.93% ในธนาคาร บริษัทมียอดลูกหนี้คงค้างทั้งหมดคิดเป็นสัดส่วน 18% ของยอดสินเชื่อตามงบการเงินรวมของธนาคาร ณ เดือนธันวาคม 2553 (เพิ่มขึ้นจากสัดส่วน 16% ในปี 2552) ในขณะที่มีรายได้สุทธิสำหรับปี 2553 คิดเป็นสัดส่วน 35% ของรายได้สุทธิตามงบการเงินรวมของธนาคาร (เพิ่มขึ้นจากสัดส่วน 30% ในปี 2552) การสนับสนุนทางธุรกิจและการเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยาคาดว่าจะช่วยยกระดับฐานะทางการตลาดในธุรกิจหลักและเสริมความยืดหยุ่นทางการเงินให้แก่บริษัทอย่างต่อเนื่อง บริษัทเป็นหนึ่งในบริษัทลูกที่จะได้รับการสนันสนุนทางการเงินในลำดับต้น ๆ จากธนาคารดังเห็นได้จากเงินให้กู้ยืมที่บริษัทได้รับจากธนาคารในสัดส่วนถึง 54% ของเงินกู้รวมที่ธนาคารให้แก่บริษัทลูกในเครือ ณ เดือนธันวาคม 2553 (เพิ่มขึ้นจาก 51% ณ เดือนธันวาคม 2552) ทริสเรทติ้งกล่าวว่า บริษัทอยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส เป็นบริษัทลูกเพียงแห่งเดียวที่ให้บริการธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ของธนาคารกรุงศรีอยุธยาภายใต้ชื่อ “กรุงศรี ออโต้” (Krungsri Auto) โดยเป็นการให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อสำหรับรถยนต์ใหม่ รถยนต์ใช้แล้ว และรถจักรยานยนต์ นอกจากนี้ บริษัทยังให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีหลักประกันภายใต้ตราสัญลักษณ์ “กรุงศรี คาร์ ฟอร์ แคช” (Krungsri Car4Cash) ด้วย บริษัทมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ในบรรดาผู้ให้บริการเช่าซื้อรถยนต์ทั้ง 20 รายในฐานข้อมูลของทริสเรทติ้ง โดยมียอดคงค้างสินเชื่อเช่าซื้อรวม 109 พันล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทยังเป็นผู้ให้บริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์รายใหญ่อันดับ 2 ที่มียอดคงค้างสินเชื่อ 4.6 พันล้านบาท ณ เดือนธันวาคม 2553 ด้วย ด้วยประสบการณ์ยาวนานในธุรกิจเกือบ 20 ปี บริษัทสามารถสร้างคณะผู้บริหารที่มีความสามารถและพัฒนารูปแบบธุรกิจที่ทำให้บริษัทประสบความสำเร็จในการแข่งขันโดยนำรูปแบบการบริหารความเสี่ยงตามแนวปฏิบัติของบริษัทแม่มาประยุกต์ใช้ ทำให้บริษัทและธนาคารกรุงศรีอยุธยาได้รับการกำกับดูแลโดยธนาคารแห่งประเทศไทยภายใต้มาตรฐานเดียวกัน การบริหารความเสี่ยงด้านเครดิตที่ดีและระบบการจัดเก็บหนี้ที่มีประสิทธิภาพช่วยทำให้บริษัทมีคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีแม้จะมีพอร์ตสินเชื่อที่มีความเสี่ยงสูงก็ตาม ณ เดือนธันวาคม 2553 สัดส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ซึ่งหมายถึงสินเชื่อที่ค้างชำระเกินกว่า 3 เดือนขึ้นไปต่อยอดคงค้างสินเชื่อรวมถัวเฉลี่ยมีสัดส่วนลดลงมาอยู่ในระดับ 1.45% จากระดับ 1.47% ในปี 2552 และ 2.2% ในปี 2551 ซึ่งถือว่าเป็นสัดส่วนที่ต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับระดับเฉลี่ย 1.7% ของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเดียวกันทั้ง 7 รายในฐานข้อมูลของทริสเรทติ้ง บริษัทมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิจำนวน 7,347 ล้านบาทในปี 2553 หรือเพิ่มขึ้น 20% จาก 6,129 ล้านบาทในปี 2552 ความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้นในปี 2553 เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยซึ่งขึ้นมาอยู่ในระดับ 6.09% ในปี 2553 จากระดับ 5.57% ในปี 2552 และผลขาดทุนจากการขายรถยึดที่ลดลง บริษัทมีรายได้สุทธิจำนวน 3,103 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57% จาก 1,980 ล้านบาทในปี 2552 อัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยและต่อส่วนของผู้ถือหุ้นถัวเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 2.80% และ 26.11% ตามลำดับในปี 2552 จากระดับ 1.98% และ 18.01% ในปี 2552 อัตราส่วนของผู้ถือหุ้นต่อสินทรัพย์รวมลดลงเล็กน้อยเป็น 10.49% ณ สิ้นปี 2553 จาก 11.03% ในปี 2552 ฐานทุนของบริษัทถือว่าอยู่ในระดับต่ำกว่าผู้ประกอบการเช่าซื้อรายอื่นที่มีพอร์ตสินเชื่อที่มีความเสี่ยงสูง อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะมีระดับฐานทุนที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จากการที่รายได้จากการดำเนินงานในอนาคตเติบโตยิ่งขึ้น — จบ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) (AYCAL) อันดับเครดิตองค์กร: คงเดิมที่ A+ อันดับเครดิตตราสารหนี้: AYCAL12OA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 5,742 ล้านบาท ไถ่ถอน 2555 คงเดิมที่ A+ AYCAL132A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 7,000 ล้านบาท ไถ่ถอน 2556 คงเดิมที่ A+ AYCAL13OA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,558 ล้านบาท ไถ่ถอน 2556 คงเดิมที่ A+ AYCAL145A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 5,000 ล้านบาท ไถ่ถอน 2557 คงเดิมที่ A+ หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2558 A+ แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ