แนะนำตัวละคร - X-MEN: FIRST CLASS (เอ็กซ์-เม็น: รุ่นหนึ่ง)

ข่าวบันเทิง Thursday June 2, 2011 14:21 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 มิ.ย.--MMM Digital จากคำพูดของของเหล่านักแสดงของเรื่อง X-MEN: FIRST CLASS (เอ็กซ์-เม็น: รุ่นหนึ่ง) แนะนำตัวละครและจุดยืนของพวกเขาในภาพยนตร์ให้พวกเรารู้จัก เจมส์ แม็คอวอย (ชาร์ลส์ ซาเวียร์/โพรเฟสเซอร์ เอ็กซ์) — “ชาร์ลส์มีการเชื่อมโยงถึงทุกคน เพราะเขาสามารถรับรู้ประสบการณ์และเข้าใจพวกเขาได้ ความทรงจำของพวกเขาก็เหมือนความทรงจำของเขา แต่เขาไม่ได้มองไปที่เอริค เขาไม่รู้ว่าเอริคอยู่ที่นั่น ไม่รู้สึกถึงเขาได้อย่างทันที และเขาอาจเข้าไม่ถึงเอริคในแบบที่เข้าถึงคนอื่นๆ ด้วยซ้ำ ผมว่ามันเป็นการแข่งขันของใครที่กุมอำนาจอยู่เล็กน้อย และมันมีความรู้สึกระหว่างพวกเขา จากที่แม็กนีโตพูดว่า ‘แกมีมันสมอง แต่ว่าฉันเป็นไพ่ตายของแก’ ในทุกการผจญภัย ‘ผมเป็นคนที่ร้ายกาจที่สุดในจุดนี้ คุณรู้ดีและผมเองก็รู้ดี’ และผมคิดว่าตอนท้ายของภาพยนตร์เราจะเข้าใจมันได้เป็นอย่างดี เรามีมุมมองที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และสิ่งที่ค่อนข้างงดงามคือฉากเหล่านั้นไม่ได้จบลงด้วยการประนีประนอมกันในท้ายที่สุด พวกเขาแตกแยกกัน จึงมีความเครียดเกิดขึ้นตลอดภาพยนตร์” ไมเคิล แฟสเบ็นเดอร์ (เอริค เลห์นเชอร์/แม็กนีโต) — “ในช่วงเริ่มต้นของภาพยนตร์ เราได้ทำความรู้จักกับเอริคในฐานะของเด็กผู้ชายคนหนึ่ง เราเริ่มต้นในค่ายกักกันที่กักตัวเขาเอาไว้และตัดเข้า 20 ต่อมา ซึ่งเป็นช่วงต้นของยุค 60 เอริคโตขึ้นเป็นหนุ่ม เขากำลังมีภารกิจไล่ล่าตัวเซบาสเตียน ชอว์ ที่แสดงโดย เควิน เบคอน ชอว์ได้ตัวเขาที่__แคมป์ที่ให้ความสนใจ และอย่างที่เรารู้ว่านาซีมีการทดลองมากมายกับพวกเรื่องขนาดหัวกระโหก ขนาดสมอง และการทดลองวิทยาศาสตร์กับมนุษย์เป็นส่วนหลัก ชอว์กำลังพยายามปลดปล่อยพลังนี้ในตัวแม็กนีโตออกมา เพื่อให้เขายอมรับว่าเขาสามารถปรับเปลี่ยนโลหะ โดยพื้นฐานแล้วเราจึงร่วมมือกับเอริคในภารกิจสยบไล่ล่าตัวชอว์” โรส บริน (มอยร่า แม็คแท็กการ์ต) — “มอยร่าทำงานให้ CIA ในหนังสือการ์ตูนเธอเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่เชี่ยวชาญด้านยีนมนุษย์กลายพันธุ์ และเธออยู่ในหนังภาคที่ 3 โอลิเวีย วิลเลียมส์ รับบทแสดงเป็นเธอ แต่ในการกำเนิดใหม่คราวนี้เธอทำงานให้ CIA และในช่วงแรกเริ่มได้ร่วมงานกับชาร์ลส์ ซาเวียร์ เพื่อการค้นหามนุษย์กลายพันธุ์ เธอรู้ว่าเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านยีนของการกลายพันธุ์ เธอจึงหาตัวเขาและกลายเป็นพันธมิตรกัน เธอเป็นนักสำรวจหญิงตัวจริง มันเกิดขึ้นในปี 62 และเธออยู่ในหน่วย CIA มันจึงเป็นเรื่องใหม่มากที่ผู้หญิงจะได้รับโอกาสนั้น เธอทำหน้าที่ในสถานที่ที่มีความเร้นลับพอสมควร เธอจึงมีความกล้าและมีแรงผลักดันหลายอย่าง” เจสัน เฟลมิ่ง (อาซาเซล) — “เขาเป็นคนชั่ว เควิน เบคอน มีผู้ร่วมทีมที่น่าหวาดกลัว หนึ่งในนั้นคือแจนยัวรี่ โจนส์ คนเก่ง และหนึ่งในนั้นคือเจสัน เฟลมิ่ง ผู้ไม่มีความเลิศหรูแต่ยังมีผิวสีแดงเป็นประกาย เช่นเดียวกับอเล็กซ์ กอนซาเลซ ผู้รับบทแสดงเป็นริพไทด์ ต่อมาเราได้เพิ่มโซอี้ เครวิตว์ เข้ามาในหนังด้วย พวกเขาเหมือนกับจอมอันธพาล แต่ความสามารถของผม หากผมมีทักษะในทุกด้าน ผมจะทำสิ่งที่อยู่นอกเหนือสิ่งที่อยู่ในบทสักหน่อย หากวันหนึ่งผมแสดงและเพิ่มบทพูดหรืออาจทำให้มีใบหน้าใกล้ชิดเข้ามาหน่อย ผมก็พอใจกับตัวเองแล้วเมื่อเวลาเดินหน้าไป เพราะมันเป็นภาพยนตร์เรื่องยาว ผ ผมมีความสุขกับส่วนที่มีการพัฒนา แม็ตต์มาหาผมและบอกว่า ‘เฟลมิ่ง รายละเอียดการถ่ายทำของกองสองมีคุณคอยพูดตลอดเวลา คุณไม่มีบทพูดเลย ทำไมคุณยังพูดอยู่?!’” อเล็กซ์ กอนซาเลซ (จานอส คเวสเต็ด/ริพไทด์) — “ริพไทด์ร่วมมือกับเซบาสเตียน ชอว์ รับบทแสดงโดยเควิน เบคอน โดยพื้นฐานแล้วเขาสามารถควบคุมกระแสลมได้ เขาสามารถเหวี่ยงคลื่นลมได้ด้วยมือของเขา แต่เวลาที่เขาโกรธจัด เขาสามารถสร้างทอร์นาโดขึ้นมารอบๆ ตัวเขาได้ เขาเป็นตัวอันตรายสุดๆ แต่ในทางตรงกันข้ามเขามีความเคารพและเป็นคนสุภาพมาก สำหรับผมแล้วเขาเหมือนพายุทอร์นาโด เวลาเราเห็นทอร์นาโดจากที่ไกลๆ มันดูสงบนิ่ง เพียงสิ่งเดียวที่เรามองเห็นได้คือลักษณะที่เหมือนหลอด แต่ภายในเมื่อมันใกล้เข้ามาดูน่ากลัวมาก ทุกอย่างภายในตัวริพไทด์เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและมีความฉุนเฉียวมาก เขาค่อนข้างเป็นคนเห็นแก่ตัวในช่วงเวลาที่เขาเป็นทอร์นาโด เขาสนุกกับมันได้ตลอดเวลา” นิโคลาส เฮาล์ต (แฮงค์ แม็คคอย/บีส) — “เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์หนุ่ม เป็นอัจฉริยะที่ชาญฉลาดมาก แต่ค่อนข้างขี้อายและทำตัวไม่ถูกเวลาอยู่กับสาวๆ ค่อนข้างเปิ่นในสังคมเวลาอยู่ในกลุ่มของผู้คน เขาเป็นคนดีแต่นั่นคืองานหนักสำหรับเขา เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มีฝีมือ และเขาจะมาพร้อมสิ่งประดิษฐ์พวกนี้ที่ได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง จากนั้นเขาได้ทดลองเซรั่มจากดีเอ็นเอของมิสทีก เพื่อพยายามหยุดยั้งเท้าของเขาที่กำลังจะมีขนาดใหญ่ยักษ์เหมือนลิง เพราะเขาเป็นคนที่มีจิตสำนึกถึงเรื่องนั้นมาก โชคร้ายที่มันเกิดข้อผิดพลาด เขาจึงกลายเป็น บีส ที่เรารู้จักจากหนัง การ์ตูน และหนังสือการ์ตูนอื่นๆ มันเป็นมนต์เสน่ห์ที่ได้เห็นความแตกต่างระหว่างตอนที่เขากลายเป็นบีสกับแฮงค์ และนี่เป็นตัวละครที่ดูเหมือนสัตว์และดูน่ากลัวมาก “ เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ (เรเว็น ดาร์คโฮล์ม/มิสทีก) — “เรเว็นหรือมิสทีกเปลี่ยนแปลงรูปร่างได้ โดยธรรมชาติเธอมีตัวสีฟ้า ดูน่ากลัว ผมสีแดง และเธอยังมีความคล่องตัวที่เหนือมนุษย์อีกด้วย จริงๆ แล้วเธอเป็นเด็กวัยรุ่นธรรมดาทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับความไม่เชื่อมั่น ซึ่งความไม่เชื่อมั่นของเธอเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยปกติสักเท่าไหร่ เธอไม่เชื่อมั่นเรื่องการเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ และเธอเริ่มยอมรับมันได้อย่างช้าๆ และค่อยๆ เปิดเผยตัวเธอออกมา เธอเปลี่ยนแปลงรูปร่างได้เป็นเวลานาน แต่จริงๆ แล้วเธอแค่เรียนรู้ความสามารถเหนือมนุษย์ของเธอ เธอค้นพบสิ่งนั้นในหนัง” อีดี้ กาเธกี้ (อาร์แมนโด้ มูนอซ/ดาร์วิน) — “ดาร์วินได้ฉายามาจากชาร์ลส์ ดาร์วิน บิดาแห่งทฤษฎีเรื่องวิวัฒนาการ ตัวละครของผมมีวิวัฒนาการเกิดขึ้นตลอดเวลา มันเรียกว่าปฏิกิริยาการปรับตัว ฉะนั้นไม่ว่าเขาจะอยู่ในสภาวะใด โดยพื้นฐานความอยู่รอดแล้วเขาจะกลายสภาพ หากเขาถูกโยนลงน้ำ เขาจะมีเหงือกเหมือนปลาขึ้นมาทันที หากอยู่ในที่มืด เขาจะมีสายตาอันแหลมคมภายใต้บรรยากาศมืดมิด เขาเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ที่เท่ห์มาก! สิ่งที่ผมชอบในพลังตัวละครของผม คือ X-Men ทั้งหลายจะมีพลังที่เจ๋งสุดๆ แต่ตัวละครนี้เราเห็นมันเกิดขึ้นได้จริง และเราเห็นได้ว่าทำไมมันถึงเป็นเช่นนั้น ในสถานการณ์ที่เหมาะสมแล้ว เราจะเห็นความคิดที่อยู่เบื้องหลังตัวละคร และความต้องการสร้างวิวัฒนาการนั้นขึ้นมา มันมีเรื่องของการให้เหตุผลอยู่ในนั้น มีความเป็นไปได้ไม่มีที่สิ้นสุดหากมีบทที่ดี” โซอี้ เครวิตซ์ (แองเจิล ซัลวาดอร์/เท็มเปสต์) — “แองเจิล ซัลวาดอร์ เป็นนักเต้นอะโกโก้ที่บินได้ ฉันมีรอยสักรูปปีกคู่หนึ่งที่หลัง ซึ่งกลายเป็นปีกของแมลงขึ้นมา และฉันสามารถพ่นอาเจียนที่เป็นกรดออกมาได้ ฉันต้องทำแบบนั้น 2-3 ครั้ง เธอเริ่มต้นจากด้านดีร่วมกับโพสเฟสเซอร์ เอ็กซ์ กับ แม็กนีโต พวกเขารับเธอเข้ามาเป็นหนึ่งใน X-Man จากนั้นเธอหันเข้าหา Hellfire ของเซบาสเตียน ชอว์ ฉันว่ามันเป็นการเข้าใกล้การต่อสู้เพื่อความเสมอภาคกับมนุษย์ที่มีความแตกต่าง บางคนเปรียบเทียบความแตกต่างของทั้งสองด้านนั้น ในหนังเรื่องนี้มันคือ Hellfire กับ X-Men แต่ต่อมามันเป็นเรื่องของซาเวียร์กับแม็กนีโต บางคนเปรียบเทียบมันกับมาร์ติน ลูเธอร์ คิง กับ มัลคอล์ม เอ็กซ์ จริงๆ แล้วพวกเขาต่อสู้เพื่อสิ่งเดียวกัน แต่มีวิธีการเข้าถึงจุดนั้นที่แตกต่างกัน ฉันคิดว่าเธอเชื่อมั่นว่าด้านการแข่งขันรุกรานเป็นสิ่งที่ถูกต้อง” ลูคัส ทิล (อเล็กซ์ ซัมเมอร์ส/ฮาว็อค) — “อเล็กซ์ ซัมเมอร์ส เจ้าของสุดยอดชื่ออย่าง ฮาว็อค คือ สก็อตต์ ‘ไซคล็อพส์’ น้องชายของซัมเมอร์ส ผมสามารถปล่อยลำแสงพลาสม่าออกจากตัวได้แทนที่จะออกมาแค่สายตา เหมือนกับสก็อตต์ไม่สามารถควบคุมพลังตัวเองได้หากไม่มีแว่นตาหรือที่บังแสงของเขา ในอดีตอเล็กซ์ไม่เคยควบคุมพลังของเขาได้ด้วยซ้ำ เกิดการระเบิดขึ้นเสมอเพราะไม่มีการควบคุมพลัง ในหนังสือการ์ตูนเขามีชุดดูดซับพลังที่มากเกินไป แต่มันเหมือนกับตัววัดพลังที่บอกว่าเขามีพลังแค่ไหนมากกว่า ในทางตรงกันข้ามภาคนี้ผมมีบางอย่างที่เชื่อมโยงถึงมันได้ เพราะผมไม่สามารถควบคุมมันด้วยตัวเองได้ มันคือแผ่นตรงหน้าอกที่เอาไว้เพ่งรังสี ฉะนั้นผมจะไม่ปล่อยพลังไปทั่วทุกที่แล้ว” คาเล็บ แลนดรี้ โจนส์ (ฌอน แคสซิดี้/แบนชี่) — “แบนชี่มีเสียงกรีดร้องที่เร็วเหนือเสียง ในภาคนี้เขาได้เรียนรู้วิธีการบิน วิธีหลอมวัตถุ ในช่วงแรกเริ่มสิ่งเดียวที่เขารู้เป็นอย่างดีคือวิธีการทำลายสิ่งของ ผมเดาว่าเป็นพวกประตูรถ อะไรทำนองนั้นนะ เขามีการคัดสรรโสตประสาท ในหนังสือการ์ตูนเหมือนพวกเขาสร้างเขาขึ้นมาใหม่ซ้ำแล้วซ้ำอีก เขาดูดีอยู่เสมอ เหมือนกับเขาดูดีที่สุด เห็นได้ชัดว่าในบทภาพยนตร์ให้คำจำกัดความเขาได้มากกว่าหนังสือการ์ตูน เพราะผมต้องแสดงตามที่บทบอก ผมพยายามใส่เข้าไปให้มากเท่าที่จะทำได้ ผมรู้ว่าในหนังสือการ์ตูนเกี่ยวข้องกับเรื่องความรักกับมอยร่าด้วย ผมจึงพยายามมองเธอในแบบที่ค่อนข้างแตกต่างออกไปในยามที่ผมทำได้ ฉะนั้นเวลาแฟนๆ ดูแล้ว พวกเขาจะสังเกตเห็นมันได้”
แท็ก ภาพยนตร์   x-men   x men  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ