ภาวะตลาดทองคำ by Hua Seng Heng Gold Futures

ข่าวเศรษฐกิจ Monday June 6, 2011 10:01 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--6 มิ.ย.--ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส - มีแรงขายหลังกรีซอาจได้เงินช่วยเหลือก่อนฟื้นตัวจากปัญหาในสหรัฐ - สัปดาห์นี้ตลาดรอติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป - คาดราคายังไปต่อฝั่งซื้อปิดสถานะลดความเสี่ยง ราคาทองคำในตลาดโลก Close chg. Support Resistance 1,541.8 +9.9 1535,1530,1525 1545,1550 แนวโน้มการเคลื่อนไหว: มีแรงขายกลับออกมาในระหว่างวัน จนราคาทองปรับฐานลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 1,520-1,525 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ภายหลังมีรายงานข่าวเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่กรีซจะได้รับความช่วยเหลือจากอียูและไอเอ็มเอฟ แต่ด้วยรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่อ่อนแอกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ส่งผลให้ราคาทองดีดตัวกลับและปรับตัวขึ้นมาปิดสูงขึ้นกว่าวันพฤหัส และยังมีแนวโน้มว่าราคาทองยังมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นต่อในสัปดาห์นี้ โดยการประชุมของธนาคารกลางยุโรปในช่วงกลางสัปดาห์เป็นประเด็นที่ตลาดรอติดตาม ส่วนกรณีของกรีซนั้น คาดว่าข้อสรุปเรื่องความช่วยเหลือที่ชัดเจนจะทำให้ตลาดให้ความสนใจกับประเด็นนี้น้อยลง และจะกลับไปให้ความสนใจกับปัญหาเศรษฐกิจของสหรัฐมากขึ้น โดยตัวเลขการจ้างงานที่ต่ำกว่าคาด มีผลให้ตลาดมองว่าอาจมีการต่ออายุโครงการซื้อคืนพันธบัตรรัฐบาลหลังจากจะจบโครงการในช่วงสิ้นเดือนนี้ รวมทั้งเรื่องงบประมาณรายจ่ายของสหรัฐที่ถูกสถาบันจัดอันดับความเชื่อถือเตือนถึงความเสี่ยงในช่วงปลายสัปดาห์ก่อน จะเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้ราคาทองปรับขึ้นได้ต่อ หรือหากปรับฐานลงก็คงจะมีแรงซื้อรอรับจนทำให้การอ่อนตัวมีกรอบจำกัด ส่วนภาพเทคนิคของราคาทองยังมีแนวโน้มที่ราคาจะแกว่งตัวระหว่าง 1,520-1,550 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ การเคลื่อนไหวของเครื่องมือเทคนิคส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในระดับที่สะท้อนว่าราคาปัจจุบันเป็นราคาที่ค่อนข้างแพง จนการปรับขึ้นของราคาคงมีการปรับฐานสลับออกมาเป็นระยะ GFM11: โกลด์ฟิวเจอร์สเดือนมิ.ย.54 Close chg. Support Resistance 22,210 -80.00 22160,22000 22350,22400 กลยุทธ์โกลด์ฟิวเจอร์ส: ราคายังมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อแต่อาจมีการปรับฐานสลับออกมาในช่วงสั้นๆ ดังนั้นการเก็งกำไรหากถือครองฝั่งขายมาจากช่วงปลายสัปดาห์ก่อน อาจทยอยปิดสถานะเพื่อลดความเสี่ยง แล้วรอให้ราคาปรับฐานจึงจะเข้าเปิดสถานะรอบใหม่ แนวต้านสำหรับการปิดสถานะอยู่ที่บริเวณจุดสูงสุดที่ทำไว้ในสัปดาห์ก่อนที่บริเวณ 1,545-1,550 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ซึ่งคาดว่าที่บริเวณดังกล่าวคงยังมีแรงขายกลับออกมามากจนเริ่มมีการปรับฐาน แต่หากราคาอ่อนตัวลงที่บริเวณ 1,530-1,535 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ คาดว่าที่บริเวณ ดังกล่าวจะเป็นจุดดีดตัวสำหรับการเก็งกำไรระยะสั้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ