กรุงเทพฯ--7 มิ.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1545 เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาท 30.21 บาท/ดอลลาร์ กับ 30.31 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 22000 บาท กับ 22100 บาท GFM11 เปิดที่ 22310 บาท และ GFQ11 เปิดที่ 22440 บาท และ GF10M11 เปิดที่ 22320 บาท และ GF10Q11 เปิดที่ 2244 0 บาท SPDR ถือครอง 1212.87 ตัน (ถือครองเท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปรับตัวลดลง 1.21 ดอลลาร์และปิดที่ 99.01 ดอลลาร์/บาเรล ดาวโจนส์ร่วงลง 61.30 จุด ปิดที่ 12089.96 จุด ตลาดทองคำในตลาดเอเชียเคลื่อนไหวเล็กน้อย ปริมาณการซื้อขาย Gold Future 50 บาท อยู่ที่ 6,398 คู่สัญญา และ 10 บาท อยู่ที่ 4,158 คู่สัญญา OI แบบ 50 บาท ลดลง 5% และ 10 บาท เพิ่มขึ้น 4%การซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์ไม่หนาแน่นมากนัก และในช่วงตลาด Comex มีการดีดตัวสูงขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญ ที่ระดับ 1,554 $ แล้วกลับมาปิดที่ระดับ 1547 $ ข่าวเศรษฐกิจเมื่อวาน ทางเยอรมันออกมาย้ำเตือนกรีซเกี่ยวกับนโยบายทางการเงิน ส่งผลให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ราคาทองคำ มีแรงเทขายทำกำไร Ratio Gold / Silver เท่ากับ 42 ต่อ 1
วิเคราะห์ทางเทคนิค
ราคาทองคำ แกว่งตัวทดสอบที่แนวต้านด้านบนและมีแรงเทขายทำกำไร ยังมองเป็นทิศทางขาขึ้น โดยเป็นการสะสมพลังที่ระดับ 1545 - 1550 เหรียญ ก่อนที่จะทะลุ 1550 เหรียญขึ้นไปได้ ราคาทองคำแท่งของไทย ปิดตลาดที่ระดับ 22050 บาท และ 22150บาท Spot ปิดตลาดที่ระดับ 1544 เหรียญ/ออนซ์ ราคาทองคำแท่งของไทย จะมีแนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 22000 บาท และมีแนวต้านสำคัญอยู่ที่ระดับ 22250 บาท โดยปรับตัวสูงขึ้นเนื่องมาจากค่าเงินบาทอ่อนค่าลง Gold Futures M11 จะมีแนวรับที่ระดับ 22200 และแนวต้านที่ระดับ 22370 บาท
คำแนะนำ
สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade) :เก็งกำไรในภาวการณ์การแกว่งตัวในทิศทางขาขึ้น คาดว่าราคาจะเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1540- 1549 เหรียญ
นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade) :ขายทำกำไรบ้างซื้อสะสมและปรับพอร์ตเป็น60%
นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง :ขายทำกำไรบ้าง ซื้อสะสมและปรับพอร์ตเป็น 45 - 50%
สรุป ยังคิดว่าทิศทางยังคงเป็นขาขึ้น