กรุงเทพฯ--7 มิ.ย.--มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ
ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ ประธานมูลนิธิสงเคราะห์เด็กยากจน ซี.ซี.เอฟ. ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กล่าวว่า ซี.ซี.เอฟ. ได้เข้ามาดำเนินการช่วยเหลือเด็กยากจนในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ.2500 โดยผ่านสำนักปฏิบัติการฮ่องกง มูลนิธิสงเคราะห์เด็กยากจน ซี.ซี.เอฟ. ในประเทศไทย ได้จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2518 เพื่อสืบทอดภารกิจของ ซี.ซี.เอฟ. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทรงมีพระมหากรุณารับมูลนิธิฯ ไว้ในพระราชูปถัมภ์ เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2537 ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มูลนิธิ ช่วยเหลือเด็กยากไร้ผ่านโครงการอุปการะเด็กโดยได้รับเงินบริจาคจากผู้อุปการะชาวไทยและชาวต่างประเทศมาสนับสนุนเด็กด้อยโอกาสในทุกภูมิภาคของประเทศ ปัจจุบันมูลนิธิฯ ให้ความช่วยเหลือเด็กและครอบครัวที่ด้อยโอกาสกว่า 50,000 คน รวมกว่า 30 จังหวัดทั่วประเทศไทย โดยนำเงินบริจาคมาสนับสนุนเด็กด้อยโอกาสในพื้นที่บริการของมูลนิธิฯ ทั่วประเทศ ให้มีชีวิตความเป็นอยู่และมีการศึกษาที่ดีขึ้น ช่วยเหลือพ่อแม่เด็กให้มีทักษะในการประกอบอาชีพเลี้ยงครอบครัว รวมทั้งร่วมสร้างการพัฒนาให้ชุมชนยกระดับขึ้นและสามารถพึ่งตนเองได้
เด็กหลายคนที่อยู่ในภาวะยากลำบาก ในถิ่นทุรกันดาร และขาดโอกาส ได้รับการเอาใจใส่ดูแลจากผู้อุปการะ ด้วยการหยิบยื่นโอกาสให้เด็กๆ เหล่านี้ได้เรียนหนังสือ ได้รับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะในมื้อสำคัญ มีความเป็นอยู่ที่ดี ปลอดภัย และเจริญเติบโตอย่างมีคุณภาพ เพื่อเป็นพลังที่สำคัญและมีคุณภาพในการพัฒนาสังคมต่อไป ซึ่งเด็กๆ ในความดูแลของมูลนิธิฯ ได้มีโอกาสมาพบและขอบคุณผู้อุปการะเด็กๆ ในงานขอบคุณผู้นำความเปลี่ยนแปลงที่ดีมาสู่ชีวิตเด็กยากไร้ครั้งนี้ด้วย
ด้าน ดร.กรรณชฎา พิริยะรังสรรค์ ผู้อำนวยการมูลนิธิสงเคราะห์เด็กยากจน ซี.ซี.เอฟ. ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กล่าวว่า มูลนิธิฯ ได้มีการจัดงานขอบคุณผู้นำความเปลี่ยนแปลงที่ดีมาสู่ชีวิตเด็กยากไร้ ซึ่งกำหนดจัดขึ้นทุกปี เพื่อแสดงผลการช่วยเหลือเด็กยากไร้ให้แก่ผู้สนับสนุนงานของมูลนิธิฯ และเพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณที่ผู้สนับสนุนมูลนิธิฯ ได้ช่วยกันเปลี่ยนแปลงชีวิตความเป็นอยู่ของเด็กยากไร้ให้ “เก่ง ดี มีความสุข” ในรูปแบบต่างๆ สำหรับในปีนี้มีผู้มาร่วมงาน 137 คน มูลนิธิจึงได้นำเยาวชน ซี.ซี.เอฟ. มาช่วยกันจัดกิจกรรมและแสดงผลงานจำนวน 120 คน ซึ่งเยาวชนเหล่านี้มาจาก 16 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ สกลนคร บุรีรัมย์ ยโสธร สุรินทร์ อำนาจเจริญ เลย นราธิวาส โดยภายในงานมีการจัดกิจกรรมประกอบด้วย การเสวนาหัวข้อ“ชีวิตที่เปลี่ยนแปลง” ซึ่งเป็นการนำเยาวชน ครู และอาสาสมัครชุมชน มาเล่าถึงประโยชน์ที่เด็กๆ ได้รับจากโครงการอาหารเช้าเพื่อน้อง โครงการครูวาดฝันปั้นดาวดวงน้อย โครงการคืนรอยยิ้มให้น้องในจังหวัดชายแดนใต้ และกิจกรรม “โครงการเยาวชนรู้รักสามัคคี เพื่อเมืองไทยแข็งแรง” เป็นโครงการพิเศษที่จัดขึ้นในโอกาสมูลนิธิครบรอบการดำเนินงาน 35 ปี เมื่อเดือนกรกฎาคมในปีที่ผ่านมา รายการนี้จะเป็นรูปแบบการแสดงประกอบดนตรี ผู้แสดงทั้งหมดเป็นเยาวชนรู้รักสามัคคีของมูลนิธิฯ
นอกจากนี้ ได้จัดพิธีมอบทุนการศึกษาสำหรับเด็กที่สูญเสียผู้ปกครองจากภัยความรุนแรงในภาคใต้ จำนวน 8 คน พร้อมทั้งมีการมอบรางวัล “จิตรกรน้อย” ให้แก่เยาวชน ที่ชนะเลิศจากการแข่งขันประกวดวาดภาพระดับภูมิภาค จำนวน 6 คน และจัดพิธีมอบรางวัลให้แก่กลุ่มเยาวชนรู้รักสามัคคี ที่ได้รับการโหวตจากเพื่อนเยาวชนด้วยกัน ว่าเป็นกิจกรรมที่เกิดประโยชน์ที่สุดแก่ผู้ทำกิจกรรมและผู้เกี่ยวข้อง และกิจกรรมแสดงกตเวทิตาคุณแด่ผู้สนับสนุนเด็กยากไร้
สำหรับเงินที่ได้รับการบริจาค มูลนิธิฯ นำไปรวมกับเงินบริจาคของผู้อุปการะเด็กท่านอื่นๆ เพื่อนำไปจัดสรรให้แก่โครงการช่วยเหลือและพัฒนาเด็กที่ดำเนินการอยู่ในชุมชนต่างๆ ด้วยวิธีการนี้ไม่เพียงแต่เด็กในอุปการะของท่านเท่านั้นที่ได้รับความช่วยเหลือ แต่เด็กๆ ที่อาศัยอยู่ในชุมชนเดียวกันก็จะได้รับอานิสงส์จากความเมตตากรุณาด้วย เพื่อให้ร่วมกันสรรค์สร้างสภาพแวดล้อมของเด็ก ที่เปี่ยมด้วยความรัก ความอบอุ่น ตลอดจนส่งเสริมให้เด็กเติบโตขึ้นเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าของประเทศ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-618-7781 ธนพร