กรุงเทพฯ--9 ม.ค.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
นายสมชัย สัจจพงษ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลประจำเดือนธันวาคม 2549 ซึ่งจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 1,088 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 1.2 สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 6.3 และไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2550 (ตุลาคม -ธันวาคม 2549) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สูงกว่าประมาณการ 10,716 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.6 และสูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 16.0 สรุปได้ ดังนี้
1. เดือนธันวาคม 2549 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 91,858 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ ตามเอกสารงบประมาณ 1,088 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.2 และสูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 6.3 ทั้งนี้ การจัดเก็บรายได้รวม จาก 3 กรมในสังกัดกระทรวงการคลังสูงกว่าประมาณการ 1,599 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.7 โดย กรมสรรพสามิตจัดเก็บรายได้สูงกว่าประมาณการ 1,390 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.8 ภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการที่สำคัญ คือ ภาษีเบียร์ และภาษีรถยนต์จำนวน 1,269 และ 280 ล้านบาท ตามลำดับ และกรมสรรพากรจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 224 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.3 โดยภาษีส่วนใหญ่จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 1,635 ล้านบาท เนื่องจากภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าต่ำกว่าประมาณการอย่างต่อเนื่องเป็นผลจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ส่วนกรมศุลกากรจัดเก็บได้ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ (ต่ำกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณเพียงเล็กน้อยจำนวน 15 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 0.3) นอกจากนี้ การนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจยังสูงกว่าประมาณการ 2,652 ล้านบาท หรือร้อยละ 90.3 เนื่องจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้นำส่งเงินค้างนำส่งที่ไม่ได้มีการแปรรูปตั้งแต่ปี 2548 จำนวน 1,722 ล้านบาท
2. ไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2550 (ตุลาคม — ธันวาคม 2549) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 307,013 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 10,716 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.6 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 16.0) เป็นผลจากการที่ทุกหน่วยงานจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ
ผลการจัดเก็บรายได้แยกตามหน่วยงานจัดเก็บสรุปได้ ดังนี้
2.1 กรมสรรพากร จัดเก็บได้รวม 210,007 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 2,457 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 1.2 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 7.5) ภาษีที่เก็บได้สูงกว่าประมาณการที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และภาษีเงินได้ปิโตรเลียม จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 2,350 และ 1,336 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.4 และ 147.1 ตามลำดับ (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 12.0 และ 9.4 ตามลำดับ) ส่วนภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 2,698 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.5 เนื่องจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าต่ำกว่าประมาณการร้อยละ 6 เป็นผลจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น แต่อย่างไรก็ดี ภาษีมูลค่าเพิ่มโดยรวมยังสูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 7.2 เนื่องจากการการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการอุปโภคและบริโภคภายในประเทศยังขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีที่แล้วถึงร้อยละ 14
2.2 กรมสรรพสามิต จัดเก็บได้รวม 74,095 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 7,116 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.6 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 17.7) โดยภาษีที่จัดเก็บส่วนใหญ่สูงกว่าประมาณการและช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ที่สำคัญได้แก่ ภาษีสุรา เบียร์ ยาสูบ และน้ำมัน ส่วนภาษีรถยนต์จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 898 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.1 และต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 15.3
2.3 กรมศุลกากร จัดเก็บได้รวม 23,198 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 723 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 3.2 แต่ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 12.8 เนื่องจากอากรขาเข้ายังคงจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 730 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.3
2.4 หน่วยงานอื่น นำส่งรายได้รวม 44,685 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 2,493 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 5.9 และสูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 108.6 (เนื่องจากใน เดือนตุลาคม 2549 เป็นเดือนแรกที่ให้รัฐวิสาหกิจที่มีรอบบัญชีปีปฏิทินนำส่งรายได้ระหว่างกาลเป็นปีแรก)
3. คาดการณ์รายได้รัฐบาลปีงบประมาณ 2550
จากผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2550 ที่สูงกว่าเป้าหมาย 10,789 ล้านบาท และถึงแม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาจะมีเหตุการณ์ความไม่สงบที่อาจส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวม แต่คาดว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ยืดเยื้อและทิศทางของเศรษฐกิจจะได้รับผลกระทบไม่มาก กระทรวงการคลังจึงคาดว่าการจัดเก็บรายได้รัฐบาลปีงบประมาณ 2550 นี้จะยังอยู่ในวิสัยที่จะจัดเก็บได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ในเอกสารงบประมาณ (1.42 ล้านล้านบาท)