กรุงเทพฯ--7 มิ.ย.--MMM Digital
ไมเคิล แฟสเบ็นเดอร์ เป็นนักแสดงชาวไอริชเกิดที่เยอรมัน รับบทนำเป็นครั้งแรกในภาพยนตร์ที่อำนวยการสร้างโดยสตีเฟ่น สปีลเบิร์ก เรื่อง BAND OF BROTHERS เมื่อปี 2001 ภาพยนตร์ซีรี่ส์ที่แสดงร่วมกับเพื่อนร่วมนักแสดงในภาพยนตร์เรื่อง X-MEN: FIRST CLASS (เอ็กซ์-เม็น: รุ่นหนึ่ง) อย่างเจมส์ แม็คอวอย
เขาเป็นที่รู้จักดีสำหรับผู้ชมทั่วโลกจากบทบาทในมหากาพย์ภาพยนตร์เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2 ผลงานของเคว็นติน ตารานติโน่ เรื่อง INGLOURIOUS BASTERDS โดยรับบทเป็นคนงานชาวอังกฤษและนักวิจารณ์ภาพยนตร์ นายร้อย อาร์ชี่ ไฮค็อกซ์ และในภาพยนตร์สไตล์แอ็คชั่นของแซ็ค สไนเดอร์ เรื่อง 300
เขาได้รับคำชมจากเหล่านักวิจารณ์สำหรับบทบาทของเขาในภาพยนตร์ของผู้กำกับ สตีฟ แม็คควีน ในปี 2008 เรื่อง HUNGER ที่สร้างขึ้นจากความต้องการหยุดงานประท้วงของผู้ต้องหาชาวไอริชอย่าง บ็อบบี้ แซนด์ส ซึ่งเขารับบทแสดงนำ แฟสเบ็นเดอร์กวาดรางวัล British Independent Film Award สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม บทบาทที่เลื่องชื่อในภาพยนตร์เรื่องอื่น ได้แก่ FISH TANK, EDEN LAKE and JONAH HEX
แฟสเบ็นเดอร์ร่วมกับเหล่านักแสดงเรื่อง X-MEN: FIRST CLASS (เอ็กซ์-เม็น: รุ่นหนึ่ง) โดยรับบทเป็น เอริค เลห์นเชอร์/แม็กนีโต บทบาทที่ถูกสร้างให้มีชื่อเสียงขึ้นมาโดย เซอร์ เอียน แม็คเคลเล็น ในภาพยนตร์ซีรี่ส์เรื่อง X-MEN สามภาคแรก แฟสเบ็นเดอร์พูดคุยถึงบทบาทของเขาในฉากของภาพยนตร์ที่ลอนดอน
ภาพยนตร์เรื่อง X-Men เข้ามาหาคุณได้อย่างไร?
แมทธิว วอนก์ บอกว่าเขาเห็นผมออดิชั่นในภาพยนตร์เรื่องอื่นของเขา จากนั้นคิดว่าผมเหมาะสมกับเรื่องนี้ ผมเลยคุยกับเขาทางโทรศัพท์ พวกเขาส่งบทภาพยนตร์มาให้ซึ่งเป็นความลับสุดยอด มีคนมาพร้อมกับบท รอเราอ่านบท 2-3 ชั่วโมงจากนั้นก็กลับไป ผมเลยได้อ่านและชอบมันมาก ผมเดินทางมาเทสต์หน้ากล้องที่นี่และพยายามทำให้ผู้อำนวยการสร้างมั่นใจ มันเริ่มต้นจากจุดนั้นจริงๆ
เห็นได้ชัดว่าแม็กนีโตมีความโดดเด่นขึ้นมาในภาพยนตร์เรื่อง X-MEN สามภาคแรกโดย เซอร์ เอียน แม็คเคลเล็น คุณยึดหลักการแสดงมาจากเขาหรือเปล่า?
ผมดูหนังและได้รับกลิ่นไอของหนัง ผมชอบสิ่งที่เขาแสดงมาก แต่ผมตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะวาดลวดลายใหม่ แน่นอนว่าเราอยากเคารพสิ่งที่คนอื่นเคยแสดงเอาไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ฐานแฟนๆ คลั่งไคล้และยอมรับสิ่งที่เขาเคยแสดงเอาไว้ เขาเป็นนักแสดงที่มีฝีมือ ผมสามารถไปเรียนรู้จากเขาได้ในฐานะเด็กคนหนึ่งและหยิบมันมาใส่ในการแสดงได้ แต่ผมไม่คิดว่าแมทธิวจะรู้สึกดีกับแบบนั้นมากนัก และยิ่งเขาบอกว่าเขาไม่มีปฏิกิริยาต่อสิ่งนั้น ผมคิดว่าเอาล่ะ ผมจะลืมทุกสิ่งทุกอย่างและแสดงไปในแบบของตัวเอง ผมเลยแสดงทุกอย่างที่อยู่ในหนังสือการ์ตูนและบทภาพยนตร์ขึ้นมา
คุณแสดงแม็กนีโตที่เป็นคนดีใช่มั้ย?
ผมไม่ได้คิดในถึงเรื่องดีหรือเลว ผมคิดถึงในส่วนของสิ่งที่เขาต้องการและเขาเป็นมีแรงกระตุ้นขนาดไหน รวมถึงลักษณะแนวปฏิบัติที่เขามีในจุดนั้น
ผมมองว่าเขาเป็นตัวละครที่มีเล่ห์เหลี่ยมมาก นั่นเป็นคำอธิบายในท้ายที่สุด และเขาอยู่ในสถานการร์ที่เขาเหมาะสมแล้วจริงๆ เหมือนกับมนุษย์เผชิญหน้ากับมนุษย์ยุคหิน และเหล่ามนุษย์กลายพันธุ์คือเวอร์ชั่นใหม่ ทุกอย่างที่เขาพูดเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
ประวัติความเป็นมาของมนุษยชาติ คือพวกเราทำลายทุกอย่างไปค่อนข้างมาก ซึ่งรวมถึงตัวเองด้วย เขากล่าวว่านั่นเป็นการทำลายโดยธรรมชาติและเป็นการทำลายเผ่าพันธุ์ตัวเอง มุนษย์กลายพันธุ์คือสิ่งที่รุดหน้า มันรู้สึกได้ถึงสิ่งที่เขากำลังพูดถึง
คุณสังเกตจากหนังสือการ์ตูนเพื่อให้คำนิยามต่อแม็กนีโตหรือเปล่า?
ในหนังมีการดึงภูมิหลังของแม็กนีโตมาหลายอย่าง และสิ่งที่น่าสนใจมากคือเขาแต่งงานกับสาวยิปซีที่เขาพบในค่ายกักกัน พวกเขามีลูกด้วยกัน และเขาพยายามใช้ชีวิตแบบมนุษย์ปกติ แต่ความคิดของคนที่บ้าคลั่งกลับมาคุ้มคลั่งอีกครั้ง สุดท้ายลูกชายของเขาถูกเผาทั้งเป็น เขาฆ่าทุกคน และภรรยาได้ทิ้งเขาไป เขาไม่ศรัทธาในความเป็นมนุษย์อีกต่อไป ผมคิดว่านั่นคือสาเหตุของเรื่องนั้น ผมมั่นใจนะ เราไม่ได้สัมผัสกับเรื่องภรรยาและลูกมากนัก แต่นั่นคือสิ่งที่ผมมีอยู่ในจิตใต้สำนึกมาโดยตลอด เขาต้องทำสิ่งนี้ เขาต้องมีการแก้แค้นชอว์
เควิน เบคอน หยิบอะไรมาใส่ในบทของ ชอว์ บ้าง?
กล่าวอีกครั้งหนึ่งว่าผมคิดว่าเราคาดหวังกับคนที่เป็นนักแสดง ที่ค้นหาความถูกต้องในสิ่งที่เขาทำเกือบทุกอย่าง และประสบการณ์ที่โชกโชนจากภาพยนตร์ประมาณ 70 เรื่องที่เขาแสดง มันเป็นเรื่องวิเศษที่ได้เห็นคนที่ยังอยู่ในวงการมาเป็นเวลานาน เป็นเรื่องที่ดีมาก เขาแค่ต้องการให้งานสำเร็จเสร็จสิ้น เขาเป็นคนพูดจาว่าง่าย เขาพยายามหาความถูกต้องในทุกฉาก เพราะประเด็นที่ว่านั่นคือโลกแห่งจินตนาการ แต่เราต้องการความหลอน สิ่งที่จับต้องไม่ได้ ให้สองสิ่งนี้ยังคงอยู่อย่างมั่นคงได้มากเท่าที่ทำได้ ทุกอย่างควรดูเหมาะสมน่าพอใจ ทุกอย่างในเรื่องเกิดขึ้นเพื่อเหตุผลบางอย่าง องค์ประกอบที่ดีที่สุดไม่ได้อยู่ที่นั่นเพื่อเป็นเพียงสิ่งที่เข้ามาเติมเต็ม ทุกอย่างอยู่ที่นั่นเพื่อขับเคลื่อนสิ่งต่อไปและอาจเชื่อมโยงกับอีก 3 ฉากถัดมา ซึ่งพบสิ่งเหล่านั้นได้ในฉากเดียว
คุณสนุกกับฉากของยุค 60 หรือเปล่า?
มันยอดเยี่ยมเลย เวลาที่เราทำงานอะไรสกอย่างที่มีขนาดใหญ่แบบนี้ องค์ประกอบทุกอย่างที่อยู่ในนั้นมีความสำคัญและยิ่งใหญ่ในการมองผ่านเมื่อเราทำงาน เราสร้างสนามบิน Buenos Aires ขึ้นที่ลอนดอนและมันวิเศษมาก ความงดงามคือมันถูกจุดประกายขึ้นมา และวิธีการถ่ายทำของแมทธิวมันได้อารมณ์ถึงยุค 60 จริงๆ เราได้บรรยากาศของยุค 60 และรวมถึงเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายด้วยแน่นอน มันเป็นเรื่องยอดเยี่ยมที่ลงลึกไปถึงยุคนั้นจริงๆ และนำมันมาสู่โลกของซูเปอร์ฮีโร่ ผมว่ามันเป็นอะไรที่เท่ห์ ตอนนี้เราอยู่ในปี 2010 เพื่อแสดงหนังซูเปอร์ฮีโร่ร่วมสมัย
การที่ทั้งโลกถูกสร้างขึ้นมาเพื่อคุณ มันมีส่วนช่วยในเรื่องมุมมองการจินตนาการมั้ย?
ใช่ เหมือนเราต้องเดินหน้าทำให้ได้ เราสวมหมวกหุ้มเกราะและชุดซูเปอร์ฮีโณ่ เราต้องเดินหน้าทำให้ได้ เราอยู่ในความสงสัยใดๆ ในจุดนั้นไม่ได้เลย! [หัวเราะ]
ภาพยนตร์เหล่านี้เมื่อเปรียบเทียบกับภาพยนตร์อินดี้ขนาดเล็กกว่าที่คุณรู้จักแล้วเป็นอย่างไรบ้าง?
ในหนังมีผู้คนร่วมแสดงเพียงไม่กี่คน มันไม่ได้เปลี่ยนสิ่งสำคัญและเหตุผลสำคัญของมัน ถึงแม้เราสร้างหน้าอะไรที่เป็นแนวจินตนาการ เราก็ต้องพยายามหาสิ่งที่มีความเป็นจริงหรือเชื่อถือได้ในหนัง เพื่อให้มันได้รับความนิยมอย่างที่สุด หากเราเชื่อว่ามีคนงอโลหะได้จริงๆ … มันเป็นแค่เหตุผลและสิ่งสำคัญแบบเดิม แต่มีผู้คนและงบประมาณจำนวนมาก
คุณเสร็จสิ้นจากภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ร่วมกับวอนก์, ตารานติโน่, แซ็ค สไนเดอร์ มาแล้ว คุณยังคงร่วมงานกับผู้คนที่มีความสร้างสรรค์อย่างน่าทึ่งอยู่
แน่นอนครับ ผมมองว่าตัวเองเป็นแขกคนหนึ่งเสมอ ผมชอบที่จะเข้าไปในฉากของหนังทั้ง 2 แบบ ผมชอบเข้าไปในฉากที่ขับเคลื่อนการผจญภัยอย่างยิ่งใหญ่ เช่น SHERLOCK HOLMES ผมสนุกกับมันมาก ผมไปในชมช่วงคริสต์มาส และมันเป็นทุกอย่างที่ผมอยากตักตวงจากหนังเรื่องนี้ ในช่วงอื่นผมอยากไปดูเรื่อง RABBIT PROOF FENCE มันเป็นเหมือนการผสมผสานและความเข้ากัน บางครั้งเมื่อเราออกมาจากการแสดงหนังเรื่องใหญ่ มันก็ดีหากจะสวมกางเกงชั้นในหนังวิ่งไปรอบๆ อย่างที่ผมทำในเรื่อง 300 [หัวเราะ] มันเหมือนที่เราวิ่งไปรอบๆ ตอนอายุ 10 ขวบ เว้นแค่ว่าตอนนี้เรามีฉากทั้งหมด ปืนแก๊บเป็นปืนจริงและเราต้องมีการฝึกซ้มอวิธีการใช้ดาบหรืออะไรก็ตาม!
ในช่วงซัมเมอร์เต็มไปด้วยหนังซูเปอร์ฮีโร่ อะไรทำให้หนังเรื่องนี้แตกต่างไปจากหนังเรื่องอื่นในความคิดของคุณ?
มันต้องเป็นหนังที่ดีที่สุด [หัวเราะ] ผมไม่รู้จักโลกของหนังสือการ์ตูนเล่มอื่นจริงๆ แต่ผมคิดว่าความน่าสนใจในเรื่องนี้ แนวคิดที่มนุษย์กลายพันธุ์มีการปฏิวัติ และมนุษยชาติจะตอบสนองต่อสิ่งนั้นอย่างไร มนุษย์เข้าใจว่า “เราควรกวาดล้างพวกเขาก่อนที่พวกเขาจะกวาดล้างเรา” มันมีข้อจำกัดของมนุษย์ที่น่าสนใจหลายอย่าง รวมถึงพฤติกรรมมนุษย์ที่ถูกขุดค้นโดย X-MEN