กรุงเทพฯ--8 มิ.ย.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) ระยะยาวของบริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (AEONTS) ที่ระดับ ‘BBB+(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ และอันดับเครดิตในประเทศระยะสั้นที่ระดับ ‘F2(tha)’ ในขณะเดียวกัน ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ประเภทมีการผู้ค้ำประกันของบริษัทที่ ‘AAA(tha)’
อันดับเครดิตของ AEONTS สะท้อนระดับเงินทุนที่พอเพียงและความสามารถในการรักษาอัตราผลกำไร สภาพคล่องและคุณภาพสินทรัพย์ของบริษัทให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมได้ถึงแม้ว่าสภาวะการดำเนินงานมีความผันผวนสูงขึ้นตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา นอกจากนี้อันดับเครดิตของ AEONTS ยังสะท้อนถึงความเสี่ยงจากการที่บริษัทให้สินเชื่อแก่กลุ่มลูกค้ารายย่อยที่มีรายได้ต่ำซึ่งมีความเสี่ยงสูงและอาจส่งผลให้คุณภาพสินทรัพย์อ่อนแอลงในภาวะที่เศรษฐกิจปรับตัวลงอย่างรุนแรง
กำไรสุทธิของ AEONTS สำหรับปีงบการเงิน 2554 (สิ้นรอบบัญชีเดือนกุมภาพันธ์ 2554) คงที่ที่ระดับ 959 ล้านบาท ผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วงครึ่งปีแรกของงบการเงิน 2554 ค่อนข้างอ่อนแอจากผลกระทบจากปัจจัยทางการเมือง แต่ได้ปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากสภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นในช่วงปลายปี 2553 ส่งผลให้มีการเติบโตในสินเชื่อประเภทบัตรเครดิตและสินเชื่อเช่าซื้อ AEONTS มีลูกหนี้สินเชื่อ (รวมสินเชื่อโครงการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์) เพิ่มขึ้นเป็น 3.92 หมื่นล้านบาท ในปีงบการเงิน 2554 จาก 3.57 หมื่นล้านบาท ในปีงบการเงิน 2553 รายได้ประเภทดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า มาที่ระดับ 3.3 พันล้านบาทในปีงบการเงิน 2554 และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 7.5% มาที่ระดับ 5.1 พันล้านบาท อย่างไรก็ตามรายได้ที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวจะถูกลดทอนลงจากการตั้งสำรองหนี้สูญที่เพิ่มขึ้น อัตรากำไรส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิ (ซึ่งรวมรายได้ค่าธรรมเนียม) เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 24.2% ในปีงบการเงิน 2554 จาก 23.4% ในปีงบการเงิน 2553
คุณภาพสินทรัพย์ของ AEONTS ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนักในช่วงปีที่ผ่านมา โดยคุณภาพสินทรัพย์จัดเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญเนื่องจากอาจได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจที่มีความผันผวนและปัจจัยภายในประเทศ AEONTS มีอัตราส่วนลูกหนี้ค้างชำระต่อลูกหนี้รวมอยู่ที่ 9.7% ณ สิ้นปีงบการเงิน 2554 (10% ณ สิ้นปีงบการเงิน 2553) อัตราส่วนของเงินสำรองหนี้สูญต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ในระดับพอเพียงที่กว่า 1.1 เท่า ณ สิ้นปีงบการเงิน 2554 (1.0 เท่า ณ สิ้นปีงบการเงิน 2553) อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากระดับลูกหนี้ค้างชำระ ตามที่ได้รายงานไปแล้ว AEONTS ยังมีลูกหนี้ประเภทที่ได้รับการปรับโครงสร้างเพิ่มเติมอีก 1.05 พันล้านบาทหรือคิดเป็นประมาณ 3% ของลูกหนี้ทั้งหมดของบริษัท ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2554 ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดในช่วงปลายปี 2553 AEONTS คาดว่าจะทำการตัดชำระหนี้สูญประมาณ 40% ของลูกหนี้ปรับโครงสร้างดังกล่าว ภายในเดือนมิถุนายน 2554 ซึ่งทำให้ต้องมีการตั้งสำรองหนี้สูญสูงขึ้น การปรับตัวลงของคุณภาพสินทรัพย์อย่างมีนัยสำคัญซึ่งส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรและอัตราส่วนเงินทุนอาจส่งผลกระทบในเชิงลบต่ออันดับเครดิตของบริษัทได้
AEONTS มีแหล่งเงินทุนและสภาพคล่องที่พอเพียง AEONTS มีการเพิ่งพาแหล่งเงินทุนจากสถาบันการเงินเป็นหลักและมีการการออกหุ้นกู้บางส่วน นอกจากนี้บริษัทยังมีการระดมทุนผ่านโครงการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ด้วย สภาพคล่องที่พอเพียงโดยได้รับการสนับสนุนจากวงเงินที่สามารถเบิกถอนได้จากธนาคารในประเทศจำนวน 770 ล้านบาทเป็นหลัก อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัท อยู่ในระดับที่ไม่เกิน 6 เท่า ในช่วงปีงบการเงิน 2552-2554 ในขณะที่อัตราส่วนของผู้ถือหุ้นต่อทรัพย์สินทั้งหมดของ AEONTS ยังคงอยู่ที่พอเพียงประมาณ 15% ในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งช่วยให้สามารถรักษาความยืดหยุ่นของสถานะทางการเงินได้ในช่วงที่ต้องเผชิญกับสภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน
AEONTS ก่อตั้งขึ้นในประเทศไทยในปี 2535 โดย AEON Credit Service (AEON) แห่งประเทศญี่ปุ่น โดยบริษัทมีสาขาในกรุงเทพและสาขาในต่างจังหวัดทั้งสิ้น 83 สาขา และมีเครื่อง ATM จำนวน 320 เครื่องโดยส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในต่างจังหวัด AEON มีสัดส่วนการถือหุ้นโดยตรงใน AEONTS อยู่ที่ 35.1% โดยบริษัทอื่นๆ ในเครือ AEON ถือหุ้นอีก 28% AEONTS ทำธุรกิจให้บริการสินเชื่อรายย่อยสำหรับลูกค้ารายได้ต่ำซึ่งรวมถึง สินเชื่อเช่าซื้อ สินเชื่อบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล