กรุงเทพฯ--9 มิ.ย.--IR network
UIC กลายเป็นหุ้นน้องใหม่ขวัญใจนักลงทุน หลังสร้างผลงานประจักษ์สายตานักลงทุนเข้าเทรดวันแรกให้ผลตอบแทนสูงถึง 186% “พีรเจต สุวรรณนภาศรี” เผยจากนี้พร้อมลุยขยายธุรกิจสุดตัว พร้อมวางเป้ารายได้ปีนี้โตโดดเด่น คาดขยายตัวประมาณ 40-50%
นายพีรเจต สุวรรณนภาศรี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ยูเนี่ยน อินทราโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ UIC เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจภายหลังการระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ว่าเงินที่ได้จากการระดมทุนนั้น จะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการ เพื่อให้บริษัทมีความมั่นคงแข็งแกร่ง ควบคู่ไปกับการขยายงานให้มีอัตราการเติบโตต่อเนื่องในอนาคต โดยผลประกอบการของ UIC ในปี 2554 คาดว่ารายได้จะมีอัตราการขยายตัวประมาณ 40-50%
สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 1/2554 มีกำไรสุทธิ 12.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 234.24 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3.65 ล้านบาท
“แนวโน้มธุรกิจของ UIC ในอนาคตว่ามีโอกาสเติบโตได้อีกมาก จากแนวโน้มของอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษในปีนี้ขยายตัวในทิศทางที่ดีต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาบริษัทได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าไทเทเนียมไดออกไซด์ให้กับ Tioxide (Malaysia) SDN BHD ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Huntsman Group ซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา จะยิ่งเพิ่มความน่าสนใจให้กับ UIC เนื่องจากในความต้องการใช้สารเคมีประเภทดังกล่าวมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นตามการเติบโตของเศรษฐกิจขณะเดียวกันในด้านราคาก็มีแนวโน้มที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกในอนาคตซึ่งถือเป็นปัจจัยบวกต่อผลประกอบการของ UIC”
ทั้งนี้หุ้น UIC เพิ่งจะเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ในวันที่ 3 มิถุนายน 2554 เป็นวันแรก สามารถสร้างความประทับใจให้กับนักลงทุนอย่างยิ่งโดยให้ผลตอบแทนวันแรกสูงถึงร้อยละ 186.46 และมีมูลค่าการซื้อขายเป็นอันดับหนึ่งของวันด้วย
นายพีรเจตกล่าวต่อในช่วงท้ายถึงเป้าหมายการดำเนินธุรกิจของ UIC ว่ามีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำในธุรกิจจัดหา พัฒนาและจำหน่ายเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษที่เป็นมิตรกับ สิ่งแวดล้อมแก่ลูกค้าในประเทศ รวมทั้งริเริ่มขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจไปยังประเทศใกล้เคียงในภูมิภาค มุ่งเน้น การสรรหาผลิตภัณฑ์ประเภทต่าง ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อรองรับการใช้เคมีภัณฑ์ในอุตสาหกรรมในอนาคตที่มีแนวโน้มหันมาให้ความสำคัญกับกระบวนการผลิตที่มีความห่วงใยต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยเน้นเคมีภัณฑ์ในกลุ่ม ดังต่อไปนี้
1. เคมีภัณฑ์ประเภท Green Chemical ที่เป็นเคมีภัณฑ์ที่ผลิตจากสารสกัดธรรมชาติซึ่งมีแนวโน้มการใช้ในปริมาณเพิ่มขึ้น เพื่อทดแทนเคมีภัณฑ์แบบเดิมที่อาจมีส่วนผสมที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและมีแนวโน้มที่จะลดปริมาณการใช้ลงในอนาคต
2. เคมีภัณฑ์ประเภท Low VOCs and Zero VOCs ที่เป็นเคมีภัณฑ์ที่ไม่เกิดการระเหยของสารอินทรีย .(Voltaire Organic Compound) หรือมีการระเหยในปริมาณตํ่ามาก ระหว่างกระบวนการผลิตหรือ ระหว่างการใช้งาน
3. เคมีภัณฑ์ที่ผ่านการพิสูจน์แล้วว่ามีปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้ใช้เพื่อทดแทนเคมีภัณฑ์ที่มีสารก่อมะเร็ง หรือเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ให้เป็นไปตามมาตรฐานของสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกาเพื่อรองรับ แนวทางการใช้เคมีภัณฑ์ในอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงในอนาคต ซึ่งจะมุ่งเน้นการผลิตที่ห่วงใยต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
บริษัทมุ่งเน้นการสร้างฐานลูกค้าในกลุ่มเฉพาะ Niche Market ที่มีการแข่งขันตํ่า และมีนโยบายพัฒนาธุรกิจที่มุ่งเน้นในเชิงคุณภาพและนวัตกรรมของผลิตภัณฑ์โดยจัดหาเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า ให้บริการด้านคำปรึกษาและความช่วยเหลือทางด้านเทคนิคแก่ลูกค้าโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของลูกค้า เป็นสำคัญ เพื่อสร้างและคงไว้ซึ่งความเชื่อมั่นความไว้วางใจของลูกค้าในระยะยาว
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ :IR network
คุณณัฐสินี ระเบียบนาวีนุรักษ์ (เก๋) e-mail : natsinee@irnetwork.co.th
คุณณัฐพงษ์ ใจแกล้ว (มิกซ์) e-mail : nattaphong@irnetwork.co.th
คุณอชิรญา ระเบียบนาวีนุรักษ์ (จอย) e-mail : achirayae@irnetwork.co.th