กรุงเทพฯ--10 มิ.ย.--กนกรัตน์ แอนด์ เฟรนด์
บริษัท ดัชมิลล์ จำกัด ร่วมกับ โรงพยาบาลนครธน จัดกิจกรรมสัมมนามหัศจรรย์แห่งการพัฒนาสมอง ภายใต้ชื่องาน “เทคนิคพัฒนาสมอง ปลุกจินตนาการ” การเดินทางสู่งานสัมมนามหัศจรรย์แห่งการพัฒนาการ เพื่อการพัฒนาลูกน้อย ให้ฉลาดเรียนรู้ด้วยจินตนาการ สำหรับการเสวนาในครั้งนี้ สมาชิกครอบครัวกว่า 200 ครอบครัว ร่วมเสวนาในหัวข้อ “เทคนิคพัฒนาสมองลูก ปลุกจินตนาการ” ที่โรงพยาบาลนครธน เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ และนักจินตนาการตัวน้อยได้เรียนรู้จากการปฏิบัติจริงโดยใช้การจินตนาการ ต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ผ่านนิทานและเรื่องรอบตัว ซึ่งภายในงานยังมีกิจกรรมเสริมสร้างจินตนาการอีกมากมาย ได้แก่ มุม My Wonderful Handprint สร้างสรรค์มือน้อย ๆ ของคุณหนู ๆ ให้เป็นสิ่งต่าง ๆ ได้ตามต้องการ มีกำแพงจินตนาการ ให้น้อง ๆ หยิบภาพไปตกแต่งให้สวยงามตามจินตนาการสร้างสรรค์ มุม Play Zone สนุกสนานกับเครื่องเล่นเสริมจินตนาการและพัฒนาการด้านต่าง ๆ มุม Brain Gym Zone กิจกรรมเอ็กเซอร์ไซส์ออกกำลังกายสมอง เพิ่มพลังความฉลาดที่จะช่วยพัฒนาสมองของลูกน้อยทั้งซีกซ้ายและขวา สำหรับวิทยากรผู้เชี่ยวชาญร่วมเสวนาให้ความรู้ในครั้งนี้ ได้แก่ นพ.พงษ์ศักดิ์ น้อยพยัคฆ์ หัวหน้าหน่วยพัฒนาการเด็กและวัยรุ่น วิทยาลัยแพทย์ศาสตร์กรุงเทพมหานคร และวชิรพยาบาล, รศ.กุลวรา ชูพงศ์ไพโรจน์ อาจารย์พิเศษ และอดีตอาจารย์สาขาวรรณกรรมสำหรับเด็กภาคบรรณารักษ์ศาสตร์สารสนเทศ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร และนาวาเอกหญิงพรทิพย์ อินทรวิเชียร นักจิตวิทยาคลินิก โรงพยาบาลนครธน
นพ.พงษ์ศักดิ์ น้อยพยัคฆ์ หัวหน้าหน่วยพัฒนาการเด็กและวัยรุ่น วิทยาลัยแพทย์ศาสตร์กรุงเทพมหานคร และวชิรพยาบาล กล่าวว่า “ปัจจุบันมีงานวิจัยมากมายบ่งชี้ว่าระยะเวลาตั้งครรภ์ของคุณแม่ถือเป็นช่วงเวลาพิเศษในการพัฒนาเซลล์สมองของเด็ก และยังเป็นช่วงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่สามารถสร้างความผูกพันกับลูกน้อยของคุณได้ด้วยการสื่อสารรูปแบบต่าง ๆ อาทิ การสัมผัส และการพูดคุย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนมีส่วนช่วยในการกระตุ้นประสาทสัมผัสด้านต่าง ๆ และยังมีผลต่ออารมณ์และความคิดของเด็ก เพราะสมองของลูกน้อยจะพัฒนาได้ดี ต้องมีเวลาพักผ่อน มีการเล่น และการเรียนรู้ที่เหมาะสมอย่างสมดุล เด็กเล็ก ๆ ควรเรียนรู้ไปตามธรรมชาติ และสิ่งต่าง ๆ รอบตัว หรือทำกิจกรรมอื่น ๆ เช่น ฟังดนตรี นั่นจะช่วยให้สมองของลูกมีการผ่อนคลาย นำไปสู่การเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับพ่อแม่ที่มักปล่อยให้ลูกอยู่แต่ในโลกส่วนตัวกับของเล่น โทรทัศน์ และวิดีโอเกมส์มากจนเกินไป สิ่งเหล่านี้มีผลต่อการพัฒนาสมองลูก รวมทั้งเรื่องจินตนาการ เพราะสิ่งเหล่านี้ เป็นการสื่อสารช่องทางเดียว ทำให้พัฒนาการทางสมองของเด็กช้ากว่าปกติ เนื่องจากสมองไม่ได้รับการกระตุ้นให้คิดต่อ ดังนั้นไม่ว่าจะทำกิจกรรมใด ๆ ควรปล่อยให้เด็กรู้จักแก้ปัญหา และหาทางออกด้วยตัวเอง ที่สำคัญเด็กควรได้รับการกระตุ้นจากการเรียนรู้ที่หลากหลาย เพราะสิ่งเหล่านั้น จะช่วยเสริมสร้างการเรียนรู้ และจินตนาการของเด็กให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น”
รศ.กุลวรา ชูพงศ์ไพโรจน์ อาจารย์พิเศษและอดีตอาจารย์สาขาวรรณกรรมสำหรับเด็กภาคบรรณารักษ์ศาสตร์สารสนเทศ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร ให้ความเห็นว่า “ในปัจจุบันการพัฒนาสมองลูกให้ได้ผลจริง ๆ แล้วพ่อแม่ต้องเริ่มพัฒนาตั้งแต่ลูกยังเล็ก ซึ่งกิจกรรมที่มีประโยชน์ในการเสริมทักษะให้กับเด็ก ๆ มีมากมาย เช่น การร้องเพลง นอกจากจะทำให้เด็กเพลิดเพลินสนุกสนานแล้ว ยังเป็นการฝึกอ่านออกเสียง ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถแทรกหรือเสริมคำศัพท์เกี่ยวกับเนื้อเพลงที่เป็นประโยชน์ อีกทั้งยังสามารถฝึกให้เด็กสามารถอ่านออกเสียงหรือสะกดคำให้ถูกต้องได้ การเล่นกีฬา เพราะเด็กในวัยนี้อยู่ในวัยที่กำลังพัฒนาร่างกายทุกส่วน การได้เล่นกีฬา หรือออกกำลังกายที่เหมาะสม จะเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้เด็กมีพัฒนาการทางกายภาพที่ดีในอนาคต และเป็นส่วนช่วยให้เด็กสามารถเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้มากขึ้น อีกทั้งการเล่นกีฬายังอาจจะทำให้คุณพ่อคุณแม่ค้นพบความสามารถพิเศษของเด็ก ซึ่งควรได้รับการพัฒนาอย่างเต็มที่ และอีกหนึ่งกิจกรรม คือ การเล่านิทานให้ลูกฟัง ถือเป็นการเปิดโลกทัศน์ของลูก ซึ่งการเล่านิทานเป็นหนึ่งในวิธีการส่งเสริมการอ่าน และเสริมสร้างจินตนาการของเด็ก และคุณแม่ยังสามารถต่อยอดการเรียนรู้กระบวนการคิดของลูกได้อีก ด้วยการตั้งคำถามจากนิทานว่า อะไร ทำไม ที่ไหน และอย่างไร เพื่อพัฒนา วิเคราะห์ ให้ลูกเกิดกระบวนการคิดที่มีประสิทธิภาพในการพิจารณาแก้ไขปัญหาต่าง ๆ อย่างมีเหตุผล และทำให้เด็กเริ่มมีจินตนาการ กว้างไกล และความคิดสร้างสรรค์แปลกใหม่”
ปิดท้ายที่ คุณสุพัชรมณี ศรีวลี ผู้บริหารบริษัท ดัชมิลล์ “สำหรับกิจกรรมที่ดัชมิลล์ พลัส แอดวานซ์ จัดขึ้นในครั้งนี้ มุ่งหวังว่า เทคนิคการเสริมสร้างจินตนาการจากผู้เชี่ยวชาญแต่ละท่าน จะสามารถช่วยเสริมสร้างจินตนาการ และพัฒนาการของเด็ก ในทุกๆ ด้านได้ ซึ่งตรงกับคำกล่าวของ ไอน์สไตน์ ที่กล่าวว่า จินตนาการ สำคัญกว่าความรู้ ดังนั้น ในช่วง 1-5 ขวบปีแรก ถือเป็นโอกาสเดียวของชีวิตที่สมองของลูกน้อยจะมีพัฒนาการสูงสุด ถือเป็นโอกาสเดียวที่จะช่วยเสริมสร้างศักยภาพสมองอย่างเต็มระบบด้วยคุณค่าจากอาหารเพื่อการพัฒนาสมองและกระตุ้นจากสิ่งแวดล้อม เพราะต้นทุนสมองของลูกได้มาจากพ่อแม่ คือ DNA หรือพันธุกรรม เมื่อได้ต้นทุนที่ดีมาแล้วยิ่งต้องทำให้ดียิ่งขึ้น ดังนั้นพ่อแม่ต้องต่อยอด และพัฒนาลูกน้อยด้วยการฝึกวินัยต่าง ๆ ให้ลูก อาทิ การพักผ่อนนอนหลับที่เพียงพอ การรับประทานอาหารที่สะอาด ถูกหลักโภชนาการครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มอาหารซึ่งมีผลต่อการพัฒนาการของเจ้าตัวน้อย ได้แก่ ดีเอชเอ (DHA) พบมากในปลาทะเล ช่วยในการพัฒนาสมองโดยเฉพาะด้านการเรียนรู้และความจำ, โอเมก้า3 (Omega3) แหล่งของโอเมก้า 3 คือ ปลาทะเล ไขมันปลา ช่วยบำรุงและพัฒนาสมองให้ทำงานได้สมบูรณ์, โคลีน (Choline) พบมากในไข่แดง สัตว์ เช่น ถั่วเหลือง จมูกข้าว ข้าวโอ๊ต กะหล่ำปลี ช่วยในด้านความคิด ความจำและการเรียนรู้ของสมอง หรือหากคุณพ่อคุณแม่ท่านใดกำลังมองหาสารอาหารสำคัญสำหรับลูกน้อย บอกได้เลยว่าไม่ยาก เพราะปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์แปรรูปมากมายที่หาซื้อได้ง่าย ซึ่งถือเป็นทางเลือกใหม่สำหรับลูกน้อย”
สำหรับคุณพ่อและคุณแม่ท่านใดที่สนใจอยากเข้าร่วมกิจกรรมดี ๆ มีประโยชน์แบบนี้ สามารถติดตามรายละเอียดกิจกรรมในครั้งต่อไปได้ที่ โทร.0-2990-0150 หรือ www.dutchmill.co.th
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ที่ปรึกษาด้านการประชาสัมพันธ์ บริษัท กนกรัตน์ แอนด์ เฟรนด์ จำกัด โทร 0-2284-2662
คุณภาวิณี เอราวัน E-mail: pawinee@kanokratpr.com
คุณกวิศรา กอวัฒนสกุล E-mail: kawitsara@kanokratpr.com