กรุงเทพฯ--16 มิ.ย.--โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์ เวิลด์วายด์
พร้อมเปิดตัวห้องแสดงสินค้า โชว์ศักยภาพยานยนต์ขนาดเล็กเพื่อการใช้งานหลากหลาย ไทยซัมมิท เปิดตัว “คาริโอ” นวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าอเนกประสงค์แบรนด์แรกของไทย เพียบพร้อมด้วยสมรรถนะและเทคโนโลยีที่เหนือกว่ารถกอล์ฟทั่วไป โดดเด่นด้วยคุณสมบัติเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและใช้พลังงานไฟฟ้าแทนน้ำมัน พร้อมเปิดห้องแสดงสินค้าตัวอย่าง โชว์ศักยภาพผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ใช้งานได้หลากหลายวัตถุประสงค์
นางสาวชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ รองประธานกรรมการ บริษัท ไทยซัมมิท โอโตพาร์ท อินดัสตรี จำกัด กล่าวว่า ไทยซัมมิทเป็นกลุ่มบริษัทผู้นำในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ในประเทศไทย ที่มีความพร้อมทั้งในด้านความเชี่ยวชาญด้านการผลิต เทคโนโลยี วัตถุดิบและชิ้นส่วนรถยนต์อยู่แล้ว และด้วยความมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมเพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคในเมืองไทย บริษัทฯ จึงได้สร้างสรรค์ ”คาริโอ” ขึ้น
“คาริโอ เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด และเป็นความภาคภูมิใจของบริษัทฯ เพราะเป็นยนตรกรรมเพื่ออนาคตที่ใช้งานได้อเนกประสงค์อย่างแท้จริง ที่สำคัญ นวัตกรรมยานยนต์คันนี้ใช้พลังงานไฟฟ้า เหมาะกับการใช้งานในภาวะที่ราคาน้ำมันมีความผันผวนและเพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ “คาริโอ” ยังปลอดมลพิษและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจเพราะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคโดยไม่เพิ่มภาระให้กับผู้ใช้งานและโลกที่เราอาศัยอยู่ เรียกได้ว่าสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการสนับสนุนนวัตกรรมยานยนต์ที่ทั้งประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง” นางสาวชนาพรรณกล่าว
“คาริโอ” เป็นยานยนต์ไฟฟ้าอเนกประสงค์ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าและพลังงานจากแบตเตอรี่ จึงไร้เสียงรบกวนและไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เหมาะกับการใช้งานทั้งภายใน ภายนอกอาคารและสถานที่สาธารณะ “คาริโอ” ถูกสร้างสรรค์และพัฒนาขึ้นโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยียานยนต์ และผ่านการทดสอบคุณภาพการใช้งานตามมาตรฐานสากล เพิ่มความมั่นใจให้กับผู้บริโภคได้อย่างเต็มที่ในเรื่องสมรรถนะและความปลอดภัยในการใช้งาน
“คาริโอ” เหนือกว่ารถกอล์ฟทั่วไป เพราะถูกพัฒนาขึ้นให้สามารถใช้งานได้หลากหลายจุดประสงค์ และเน้นถึงความสนุกสนาน การใช้งานแบบอเนกประสงค์ ความสะดวกสบายในการใช้งาน จึงเป็นทางเลือกใหม่ที่เพิ่มความสะดวกสบายในวันว่าง ใช้ขับขี่ได้ทั้งในสนามกอล์ฟที่มีภูมิทัศน์หลากหลาย หรือใช้ในอาคารและนอกสถานที่ เช่น ภายในศูนย์การค้า อาคารผู้โดยสารท่าอากาศยาน ในบริเวณรีสอร์ท โรงพยาบาล สโมสรภายในหมู่บ้าน สปอร์ตคอมเพล็กซ์ สถานที่ท่องเที่ยว โรงงานหรือคลังสินค้าขนาดใหญ่ เป็นต้น
“ในด้านการตลาด บริษัทฯ จะเน้นการเจาะกลุ่มเป้าหมายโดยตรงและสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า เราได้จัดทีมพนักงานขายออกไปเก็บข้อมูล ก่อนจะนำสินค้าเข้าไปเสนอขาย และสร้างกระแสบอกต่อ ซึ่งบริษัทฯ เชื่อว่าจะเป็นกลวิธีที่จะสร้างความสำเร็จให้กับ “คาริโอ” รวมทั้งเปิดโชว์รูมถาวรที่อาคารไทยซัมมิท ทาวเวอร์ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เพื่อให้บริการและเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้สัมผัสและทดลองขับ “คาริโอ” ได้ด้วยตนเอง”
“นอกจากนี้ “คาริโอ” ยังมีข้อได้เปรียบเรื่องราคา เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นเองในประเทศตามมาตรฐานสากล ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปีของไทยซัมมิทรวมทั้งการได้รับการยอมรับจากนานาประเทศทั้งในด้านคุณภาพและบริการหลังการขาย เราผลิตอะไหล่ทุกชิ้นเป็นพิเศษตามมาตรฐานคุณภาพระดับสากล “คาริโอ” จึงมีราคาในระดับที่แข่งขันได้และมีคุณภาพทัดเทียมสินค้านำเข้าจากยุโรปและสหรัฐอเมริกา ด้วยจุดเด่นและกลยุทธ์ทางการตลาดดังกล่าว บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถจำหน่าย “คาริโอ” ได้มากกว่า 1,000 คันต่อปี” นางสาวชนาพรรณกล่าว
เพื่อสนับสนุนการเปิดตัว “คาริโอ” ไทยซัมมิทจะเน้นการส่งเสริมการขาย ทั้งการเสนอราคาพิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อจำนวนมาก ข้อเสนอพิเศษอื่นๆ อาทิ การจัดอุปกรณ์เสริมที่ลูกค้าเลือกได้เอง การให้ความคุ้มครองระยะการประกัน การให้บริการเช่าซื้อเพื่อให้ลูกค้าเป็นเจ้าของ “คาริโอ” ได้ง่ายขึ้น เป็นต้นตลอดจนบริการหลังการขายที่มีคุณภาพและรวดเร็ว เนื่องจากบริษัทฯ มีฝ่ายซ่อมบำรุงและโรงงานที่ใช้ในการประกอบและผลิตโดยตรง รวมทั้งยังมีอุปกรณ์เสริมที่พร้อมนำเสนอให้กับลูกค้าทันที ทั้งโคมไฟ กระจกหน้า ไฟเบรกหลัง เป็นต้น
“นอกจากจะนำเสนอทางเลือกใหม่ให้กับผู้บริโภคชาวไทยแล้ว การนำเสนอยานยนต์ไฟฟ้าอเนกประสงค์คันแรกที่ผลิตในประเทศไทย เป็นการส่งเสริมการลงทุนในประเทศ การแสดงศักยภาพของผู้ผลิตยานยนต์ชาวไทย และช่วยกระตุ้นให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยก้าวหน้าไปได้ไกลยิ่งขึ้น เราเชื่อว่าจะสามารถเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าระดับกลางจนถึงระดับบนได้ และก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชั้นนำได้ในอนาคต” นางสาวชนาพรรณกล่าว
ข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มบริษัทไทยซัมมิท
กลุ่มบริษัท ไทยซัมมิท ประกอบด้วยบริษัทในเครือมากกว่า 30 แห่ง และมีความเชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนต่างๆ รวมถึง ชิ้นส่วนรถยนต์ จักรยานยนต์ อุปกรณ์ไฟฟ้า และเครื่องจักรอุตสาหกรรมการเกษตร บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย มาเลเซีย และอินเดีย นอกจากนี้ ยังได้ขยายกิจการสู่ธุรกิจโรงแรมและสนามกอล์ฟ โดยมีรายรับสุทธิจากกลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ในปี 2547 ประมาณ 22,000 ล้านบาท
แถลงข่าวในนาม : บริษัท ที เอส วีฮีเคิล เทค จำกัด
รายละเอียดเพิ่มเติม : โกวิท สว่างวารีสกุล
(kovit.savangvareesakul@ogilvy.com)
อิศวรา ศกุณวัฒน์
(isavara.sakunwadhana@ogilvy.com)
บริษัท โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์ เวิลด์วายด์ จำกัด
โทร. 02 205 6613, 02 205 6610
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--