กรุงเทพฯ--16 ส.ค.--ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น
TRC เชื่อทั้งปีรายได้ทะลุ 2 พันลบ.แบบไร้ปัญหา ปัจจุบันมี Backlog ตุนไว้ในมือแล้ว 1.7 พันลบ. -โชว์ความเหนือชั้นหลังผนึก SKW งวด 6 เดือนมีกำไร 52 ลบ.สูงกว่าที่ทำได้ตลอดปี 49
TRC มั่นใจผลประกอบการทั้งปีเติบโตโดดเด่น หลังรวมกิจการกับสหการวิศวกร ระบุโดยเฉพาะงานในมือครึ่งปีแรกมีตุนแล้วกว่า 1,700 ล้านบาท ขณะที่ครึ่งปีหลังเตรียมเข้าประมูลอีก 7-8 โครงการ มูลค่ารวม 6,000 ล้านบาท ล่าสุดโชว์ผลงานยอดเยี่ยม 6 เดือนแรกมีกำไรสุทธิของบริษัทฯและบริษัทย่อย 52 ลบ. มากกว่าที่ทำได้ตลอดทั้งปี 2549 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 50.8 ลบ. " ไพจิตร รัตนานนท์" ระบุเป็นผลจากการรวมกิจการ 2 แรงแข็งขันทำรายได้สิ้นปีทะลุ 2,000 ลบ.ได้แบบไร้ปัญหา
นางไพจิตร รัตนานนท์ ประธานกรรมการ บริษัท ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) (TRC) กล่าวถึงแนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ว่ามีทิศทางเติบโตต่อเนื่องจากช่วงครึ่งปีแรกอย่างชัดเจน เนื่องจากหากพิจารณาจากโครงการในมือสิ้นไตรมาส 2/50 จำนวน 6 โครงการ รวมทั้งโครงการใหม่ที่ได้รับเพิ่มเติมอีก 7 โครงการ บริษัทมีรายได้ที่ยังไม่ได้รับรู้มูลค่า 1,030.9 ล้านบาท โดยโครงการวางท่อก๊าซสงขลากำหนดแล้วเสร็จ และรับรู้รายได้ที่ส่วนเหลืออีก 165.2 ล้านบาท ภายในไตรมาส 3/50 ส่วน บริษัท สหการวิศวกร จำกัด หรือ SKW ซึ่งเป็นบริษัทย่อยมีโครงการในมือ ณ สิ้นไตรมาส 2/50 รวม 6 โครงการ มีรายได้ที่ยังไม่รับรู้ 716.3 ล้านบาท
นอกเหนือจากการรอรับรู้รายได้จากงานเดิมที่มีอยู่ในมือแล้ว ในครึ่งปีหลังนี้ TRC ยังมีแผนจะขยายงานใหม่ๆ เพิ่มขึ้นด้วย เนื่องจากภายหลังควบรวมกิจการกับ สหการวิศวกร ทำให้บริษัทสามารถรับงานได้กว้างขวางยิ่งขึ้น นอกเหนือจากงานเดิมที่เป็นงานบริการด้านก่อสร้างและวิศวกรในงานวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติ ในกลุ่มธุรกิจพลังงานและปิโตรเคมีซึ่งเป็นงานที่บริษัทฯมีความเชี่ยวชาญ โดยหลังจากนี้ จะมุ่งขยายงานไปสู่งานด้านวางแผนวิศวกรรม และพัฒนาโครงการเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทวางแผนที่จะขยายธุรกิจไปสู่งานหลายรูปแบบ ทั้งทางด้านอสังหาริมทรัพย์ โรงไฟฟ้า และโรงงานปิโตรเคมี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การพัฒนางานด้าน Business Development ผ่านทางบริษัท สหการซีแลน (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่สหการวิศวกร ถือหุ้น ร้อยละ 51 ร่วมกับ Zelan Holding (M) Sdn Bhd บริษัทในกลุ่มของ Zelan Berhad, Malaysia (เป็นบริษัทที่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในประเทศมาเลเซีย และจัดได้ว่าเป็นผู้นำด้านธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภครายใหญ่ที่สุด รวมทั้งธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของประเทศมาเลเซีย และปัจจุบันมีงานพัฒนาโครงการและก่อสร้างขนาดใหญ่ในเอเซีย อินเดียและประเทศในแถบตะวันออกกลาง)
นางไพจิตรกล่าวอีกว่า ในครึ่งปีหลังบริษัทฯมีแผนจะเข้าร่วมประมูลงานอีกประมาณ 7-8 โครงการมูลค่ารวมกันประมาณ 6,000 ล้านบาท ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่ากลุ่มบริษัทจะได้รับงานมูลค่าไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันงานเดิมในส่วนของธุรกิจพลังงานและปิโตรเคมี ก็จะยังเดินหน้าต่อไป เพราะเป็นงานที่ผู้ว่าจ้างต้องดำเนินตามแผนลงทุนระยะยาวอยู่แล้ว อาทิ งานจาก บมจ.ปตท.(PTT) เป็นต้น แต่สำหรับงานด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานและงานโยธาที่เกี่ยวข้องกับภาครัฐยอมรับว่าตลาดค่อนข้างจะ slow down ทำให้การแข่งขันสูงขึ้น
ซึ่งในส่วนนี้บริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์ใหม่ เน้นการรับเหมางานแบบ Turnkey ที่นำเสนอลูกค้าทั้งแพ็คเกจ ตั้งแต่การจัดหาไฟแนนซ์จนถึงงานก่อสร้างครบวงจร ซึ่งทำให้มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น ดังนั้นจึงมั่นใจว่า การมุ่งขยายธุรกิจภายใต้แนวคิดใหม่ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นดีกว่าเดิม และมีพันธมิตรทางธุรกิจมาเสริมความแข็งแกร่งให้ทั้งทางด้านเครดิตทางการเงินและเทคโนโลยีการก่อสร้าง จะทำให้ในครึ่งปีหลังบริษัทฯ ยังเติบโตได้อย่างโดดเด่นได้ ต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกได้
สำหรับในไตรมาสที่ 2/50 บริษัทฯ ประสบความสำเร็จด้านผลการดำเนินงานอย่างงดงาม มีกำไรสุทธิ 39 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญถึง 262.9% จากงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีกำไรสุทธิ 10.8 ล้านบาท ในขณะที่รายได้เพิ่มสูงขึ้นจาก 138.7 ล้านบาท เป็น 371.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 168.14% เนื่องจากความสามารถในการประมูลงาน และได้รับงานขนาดใหญ่ อาทิเช่น โครงการวางท่อก๊าซสงขลา (ได้รับงานเดือนตุลาคม ปี 2549) จาก บมจ.ปตท. และโครงการส่วนต่อขยายระบบท่อส่งก๊าซ จากบริษัทในกลุ่มปูนซีเมนต์ไทย (ได้รับงานเมษายน 2550) มูลค่าโครงการ 550.85 ล้านบาท และ 337 ล้านบาทตามลำดับ และความสามารถในการบริหารโครงการ และควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ส่วนงวด 6 เดือน มีกำไรสุทธิ 57.1 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าผลประกอบการปี 2549 เต็มปี ซึ่งมีกำไรสุทธิ 50.8 ล้านบาท
“จากงานในมือทั้งหมดในปัจจุบัน รวมถึงงานที่คาดว่าจะได้รับเพิ่มเติมในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้เรามั่นใจว่า ผลประกอบการปี 2550 จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยรายได้ของบริษัทฯ และบริษัทย่อย สำหรับปี 2550 จะไม่ต่ำกว่า 2 พันล้านบาท”นางไพจิตรกล่าวในที่สุด
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: Investor Relations
นางสาวอุ่นเรือน สุจริตธรรม
บริษัท ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)
โทร 02-936-1660 ต่อ 178