กรุงเทพฯ--15 มิ.ย.--โจนส์ แลง ลาซาลล์
ในการซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อปล่อยเช่า หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาคือทำเลที่ตั้ง ผลการสำรวจต่อไปนี้จากโจนส์ แลง ลาซาลล์ น่าจะมีประโยชน์สำหรับสำหรับผู้ที่ยังสนใจซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อปล่อยเช่าให้กับชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานและพักอาศัยในกรุงเทพฯ โดยผลการสำรวจดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า ทำเลที่พักอาศัยให้เช่าที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานและพำนักในกรุงเทพฯ ยังคงเป็นย่านสุขุมวิท ส่วนทำเลที่ได้รับความนิยมรองลงมา ได้แก่ ย่านศูนย์กลางธุรกิจ (ซีบีดี) ย่านติดเขตซีบีดีตอนใต้ และย่านริมน้ำพระรามสาม
สุขุมวิท
ทำเลย่านสุขุมวิทในการสำรวจของโจนส์ แลง ลาซาลล์ครั้งนี้ ครอบคลุมพื้นที่จากถนนสุขุมวิทซอย 1 ถึงซอย 63 ซึ่งพบว่า เป็นทำเลที่พักอาศัยให้เช่าที่ชาวต่างชาตินิยมมากที่สุด ทั้งนี้ ในช่วงหลายๆ ปีที่ผ่าน สุขุมวิทเป็นย่านที่พักอาศัยของชาวต่างชาติแหล่งใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ เป็นทำเลที่มีที่พักอาศัยให้เช่าที่หลากหลายทั้งในแง่ของคุณภาพและค่าเช่า นอกจากนี้ การมีรถไฟฟ้าบีทีเอสให้บริการบนถนนเส้นนี้ นับเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้สุขุมวิทเป็นทำเลที่พักอาศัยให้เช่าที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด
ส่วนในแง่ของจุดดึงดูดอื่นๆ สุขุมวิทนับเป็นทำเลที่มีความหลากหลายสูง มีทั้งโรงแรมและอาคารสำนักงานตั้งอยู่จำนวนมาก นอกจากนี้ ยังเป็นถนนสายชอปปิ้งที่ยาวที่สุดเส้นหนึ่งในกรุงเทพฯ การมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ยิ่งทำให้ถนนเส้นนี้มีร้านค้า ร้านอาหารและสถานบันเทิงขยายจำนวนเพิ่มขึ้นไปอีก
ปัจจุบันมีคอนโดมิเนียมทอปเอ็นด์ (เกรดเอระดับหรู) เฉพาะที่สร้างเสร็จแล้วในย่านสุขุมวิทรวมมากกว่า 3,200 ยูนิต ยูนิตที่ปล่อยเช่ามีค่าเช่าอยู่ระหว่าง 20,000-25,000 บาทต่อเดือนสำหรับห้องชุดสตูดิโอ ไปจนถึง 150,000-200,000 บาทต่อเดือนสำหรับห้องชุดขนาด 4 ห้องนอน
ย่านศูนย์กลางธุรกิจ (ซีบีดี)
ย่านที่พักอาศัยให้เช่าที่ได้รับความนิยมสูงจากชาวต่างชาติในกรุงเทพฯ รองจากสุขุมวิท คือ ย่านศูนย์กลางธุรกิจ หรือ ซีบีดี (Central Business District) ซึ่งประกอบด้วยบริเวณที่อยู่ภายในวงรอบของถนนพระรามที่หนึ่ง ถนนเพลินจิต ถนนวิทยุ ถนนสาทร ถนนสีพระยา และถนนพญาไท โดยปัจจุบันมีคอนโดมิเนียมทอปเอ็นด์ ในย่านนี้รวมกว่า 2,400 ยูนิต
สำหรับชาวต่างชาติที่อาศัยในกรุงเทพฯ ซีบีดีนับเป็นทำเลที่ดีที่สุดสำหรับการพักอาศัย เนื่องจากมีความสะดวกมากที่สุดจากการเป็นเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจของกรุงเทพฯ เป็นแหล่งรวมอาคารสำนักงานเกรดเอ ศูนย์การค้า สถานดูแลสุขภาพ และสถานบันเทิง รวมถึงมีเครือข่ายบริการขนส่งมวลชนความเร็วสูงและทางด่วนรองรับอย่างครอบคลุม ถึงแม้ซีบีดีจะมีอาคารสำนักงานและคอนโดมิเนียมหรูรวมตัวกันอยู่อย่างหนาแน่น แต่ในขณะเดียวกันยังมีพื้นที่สีเขียวแทรกอยู่จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นสวนลุมพินี ราชกรีฑาสโมสร สถานทูตของนานาประเทศ และโรงแรมห้าดาว จึงนับเป็นทำเลพักอาศัยชั้นเยี่ยม โดยเฉพาะในทางตอนเหนือซึ่งหมายถึงบริเวณถนนเพลินจิต ราชดำริ หลังสวนและวิทยุ
อย่างไรก็ดี ค่าเช่านับเป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเลือกเช่าที่พักอาศัยของชาวต่างชาติ ค่าเช่าที่พักอาศัยในซีบีดีค่อนข้างสูงกว่าย่านอื่นๆ มาก จึงทำให้ชาวต่างชาติจำนวนมากเลือกเช่าที่พักอาศัยในทำเลอื่นที่มีค่าเช่าต่ำกว่า แต่ยังคงสามารถเดินทางไปมาถึงที่ทำงานในย่านซีบีดีได้สะดวก ดังที่สะท้อนให้เห็นได้ในผลการศึกษาตลาดอพาร์ตเม้นท์ให้เช่าสำหรับชาวต่างชาติโดยโจนส์ แลง ลาซาลล์ ซึ่งพบว่า ย่านสุขุมวิทมีอัตราผู้เข้าใช้บริการห้องพักสูงกว่า 90% ในขณะที่ย่านซีดีมีอัตราการเข้าใช้ห้องพักราว 85%
สำหรับคอนโดมิเนียมทอปเอ็นด์ในย่านซีบีดี มีค่าเช่าอยู่ระหว่าง 30,000-35,000 บาทต่อเดือนสำหรับห้องชุดสตูดิโอ ไปจนถึง 180,000-250,000 บาทต่อเดือนสำหรับห้องชุดขนาด 4 ห้องนอน
ย่านติดเขตซีบีดีตอนใต้
ย่านที่ติดกับทางตอนใต้ของเขตซีบีดี เป็นทำเลที่พักอาศัยที่ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติ รองลงมาจากย่านซีบีดี ทำเลย่านนี้หมายถึงบริเวณแถบถนนเย็นอากาศ ถนนนางลิ้นจี่ ถนนสาธุประดิษฐ์ตอนต้น ถนนจันทร์ ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ และถนนเจริญกรุงตอนต้น
จุดเด่นของทำเลแถบนี้คือ การอยู่ใกล้กับย่านซีบีดีและมีค่าเช่าที่ค่อนข้างถูกกว่า แต่อย่างไรก็ดี ชาวต่างชาติบางส่วนมองว่าเป็นทำเลที่ไม่สะดวกมากนักในแง่ของการสัญจร เนื่องจากอาคารคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่ในย่านนี้ตั้งอยู่ในตรอกซอกซอยที่ค่อนข้างแคบ และมีให้เลือกไม่มากนัก โดยขณะนี้มีคอนโดมิเนียมทอปเอ็นด์ในย่านนี้เพียงไม่ถึง 100 ยูนิต มีค่าเช่ารายเดือนอยู่ระหว่าง 12,000-20,000 บาทสำหรับห้องชุดสตูดิโอ ไปจนถึง 90,000-150,000 บาทสำหรับห้องชุดขนาด 4 ห้องนอน
ริมน้ำพระรามสาม
ย่านริมน้ำพระรามสาม เป็นทำเลที่พักอาศัยที่ได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติรองลงมาจากย่านนอกเขตซีบีดีตอนใต้ โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำเลย่านริมน้ำพระรามสามได้เปลี่ยนแปลงจากที่เคยเป็นย่านอุตสาหกรรมมาเป็นทำเลที่อยู่อาศัยที่สำคัญย่านหนึ่งของกรุงเทพฯ ปัจจุบันมีคอนโดมิเนียมทอปเอ็นด์ในย่านนี้รวมกว่า 1,700 ยูนิต
แม้ทำเลแถบนี้จะมีสภาพแวดล้อมที่ดีมากสำหรับการอยู่อาศัย แต่สำหรับคอนโดให้เช่า พบว่ายังไม่ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติมากนักเนื่องจากมีโครงการให้เลือกไม่มาก กอปรกับยังมีความสะดวกอื่นๆ รองรับอย่างหลากหลายไม่มากพอ อาทิ ร้านอาหาร สถานบันเทิง ศูนย์การค้าและสถานสังสรรค์ในแบบที่ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติ
การเปิดบริการรถบีอาร์ทีเมื่อเร็วๆ นี้ ได้เพิ่มศักยภาพให้กับทำเลย่านริมน้ำพระรามสามมากขึ้น แต่สำหรับชาวต่างชาติแล้ว อาจยังต้องอาศัยเวลาอีกระยะหนึ่งในการรูจักคุ้นเคยกับระบบคมนาคมใหม่นี้
คอนโดมิเนียมทอปเอ็นด์ในย่านนี้มีค่าเช่ารายเดือนอยู่ระหว่าง 14,000 บาทสำหรับห้องชุดสตูดิโอ ไปจนถึง 80,000-100,000 บาทสำหรับห้องชุดขนาด 4 ห้องนอน
สรุป
ในการเลือกซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อเป็นการลงทุน ศักยภาพของทำเลที่ตั้งเป็นสิ่งแรกๆ ที่ผู้ซื้อจะต้องคำนึงถึง อย่างไรก็ดี นอกจากทำเลที่ตั้งแล้ว ผู้ซื้อยังต้องหาคำตอบให้กับอีกหลายๆ คำถาม อาทิ จะสามารถปล่อยเช่าได้ในราคาเท่าไหร่ ผลตอบแทนการลงทุนจะอยู่ที่กี่เปอร์เซ็นต์เมื่อควณจากราคาที่ซื้อกับค่าเช่าที่คาดว่าจะได้และหลังหักค่าใช้จ่ายในการตกแต่งและค่าบริหารส่วนกลางแล้ว และที่สำคัญที่สุดคือ คอนโดที่ซื้อจะสามารถปล่อยเช่าได้จริงหรือไม่
โจนส์ แลง ลาซาลล์
โจนส์ แลง ลาซาลล์ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก เป็นบริษัทบริการมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ โดยให้บริการที่ครบวงจรโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกแก่ลูกค้าที่ต้องการคุณค่าสูงสุดจากการเป็นเจ้าของ ใช้ประโยชน์หรือลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ในปี 2553 โจนส์ แลง ลาซาลล์มีรายได้ทั่วโลกรวมทั้งสิ้น 2.9 พันล้านดอลลาร์ จากการให้บริการแก่ลูกค้าใน 1,000 เมืองของ 60 ประเทศ ผ่านสำนักงาน 185 สาขา
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ
วินัย ใจทน 02 624 6540 [email protected]
www.joneslanglasalle.co.th