กรุงเทพฯ--15 มิ.ย.--การบินไทย
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) สรุปผลการจัดหาเครื่องบิน ปี 2554 — 2560 จำนวน 37 ลำ ทั้งวิธีการจัดหาและแบบของเครื่องบินที่ต้องการ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในทุกเส้นทางบินทั่วโลก
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด ( มหาชน ) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2554 ที่ผ่านมา นายอำพน กิตติอำพน ประธานกรรมการบริษัทฯ เป็นประธานในการประชุมและสัมมนา ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ ดำเนินการจัดหาเครื่องบิน จำนวน 37 ลำ สำหรับปี 2554 - 2560 มูลค่ารวมประมาณ 118,604 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการซื้อจำนวน 15 ลำ มูลค่ารวมประมาณ 49,537 ล้านบาท และการเช่าดำเนินงานจำนวน 22 ลำ มูลค่ารวมประมาณ 69,067 ล้านบาท เพื่อใช้บินในเส้นทางข้ามทวีป เส้นทางภูมิภาค เส้นทางบินรองในภูมิภาคระยะใกล้ และเส้นทางภายในประเทศ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
1. อนุมัติให้บริษัทฯ ทำสัญญาซื้อเครื่องบิน โบอิ้ง 777-300ER จำนวน 6 ลำ กำหนดส่งมอบในปี 2557 - 2558
2. อนุมัติให้บริษัทฯ ทำสัญญาซื้อเครื่องบิน แอร์บัส 350 จำนวน 4 ลำ กำหนดส่งมอบในปี 2559 - 2560
3. อนุมัติให้บริษัทฯ ทำสัญญาซื้อเครื่องบิน แอร์บัส 320 จำนวน 5 ลำ กำหนดส่งมอบในปี 2557 - 2558
4. อนุมัติให้บริษัทฯ ทำสัญญาเช่าดำเนินงานเครื่องบิน โบอิ้ง787 จำนวน 8 ลำ โดยมีสัญญาเช่า 12 ปี กำหนดส่งมอบในปี 2557 - 2560
5. อนุมัติให้บริษัทฯ ทำสัญญาเช่าดำเนินงานเครื่องบิน แอร์บัส 350 จำนวน 8 ลำ โดยมีสัญญาเช่า 12 ปี กำหนดส่งมอบในปี 2559 - 2560
6. อนุมัติให้บริษัทฯ ทำสัญญาเช่าดำเนินงานเครื่องบิน แอร์บัส 320 จำนวน 6 ลำ โดยมีสัญญาเช่า 12 ปี กำหนดส่งมอบในปี 2555 - 2556
ทั้งนี้ ตามโครงการจัดหาเครื่องบินปี 2554 - 2560 จะส่งผลให้บริษัทฯ มีการพัฒนาฝูงบินที่ทันสมัยมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยตามมาตรฐานของอุตสาหกรรมการบิน สามารถพัฒนาฝูงบินในระยะยาวเพื่อสนับสนุนแผนการตลาดเชิงรุก โดยการขยายเครือข่ายการบินให้เติบโตยิ่งขึ้นด้วยผลิตภัณฑ์ที่แข่งขันได้ นอกจากนี้ การจัดหาฝูงบินใหม่เพื่อทดแทนเครื่องบินเก่าที่ต้องปลดระวางจะทำให้ประหยัดน้ำมันและค่าซ่อมบำรุงเนื่องจากเป็นเครื่องบินรุ่นใหม่ที่ทำด้วยวัสดุผสม (Composite Material) ซึ่งมีน้ำหนักเบาและไม่เป็นสนิม อีกทั้งจะช่วยลดค่าชดเชยในเรื่องของคาร์บอนเครดิตในน่านฟ้ายุโรป ซึ่งจะเริ่มบังคับใช้ในปี 2555 และด้วยผลิตภัณฑ์ภายในเครื่องบินที่มีความทันสมัยและให้ความสะดวกสบายสูง บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถสร้างกำไรได้สูงขึ้น มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีสถานะการเงินที่มั่นคง สามารถรักษาส่วนแบ่งตลาด พร้อมทั้งเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมสร้างบริษัทฯ ให้เป็นสายการบินชั้นนำหนึ่งในสามของภูมิภาคเอเชีย และหนึ่งในห้าของโลก ทั้งด้านคุณภาพและประสิทธิภาพการบริการ
สำหรับ โครงการจัดหาเครื่องบินในช่วงที่สอง จำนวน 38 ลำ จะเป็นแผนการจัดหาเครื่องบิน ปี 2561 — 2565 ซึ่งฝ่ายบริหารบริษัท ฯ จะมีการคัดเลือกและนำเสนอคณะกรรมการบริษัทฯ เพื่อขออนุมัติต่อไป