กรุงเทพฯ--15 มิ.ย.--MMM Digital
เช่นเดียวกับหนังซูเปอร์ฮีโร่ทุกเรื่อง ผู้สร้างภาพยนตร์เรื่อง “Green Lantern” รู้ดีว่าสิ่งที่แฟนๆ ให้ความสนใจเป็นพิเศษน่าจะเป็นการแสดงให้เห็นถึงโลกในหนังสือการ์ตูนที่พวกเขารู้จักและหลงรักมัน แคมป์เบลและทีมผู้สร้างสรรค์ของเขาที่นำโดยผู้ออกแบบฉาก แกรนต์ เมเจอร์ เริ่มสร้างสถานที่ทุกแห่งตั้งแต่ Coast City ไปยังดาวโออา และตัวละครแต่ละตัวตั้งแต่อาบิน เซอร์ไปยังซิเนสโทรให้ถูกต้อง ท้ายที่สุดพวกเขาต้องใช้ความอุตสาหะในการสร้างทุกรายละเอียดขึ้นมาใหม่ให้ถูกต้องและยกระดับจินตนาการเพื่อประสบการณ์บนจอภาพยนตร์
ผู้ร่วมอำนวยการสร้างและผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับกรีน แลนเทิร์น อย่างจอฟฟ์ จอนส์ เปิดเผยว่า “ครั้งแรกที่ผมเห็นภาพศิลปะงานสร้าง สิ่งที่พวกเขาวางแผนเพื่อสร้างกองกำลัง ดาวโออา และเหล่าผู้พิทักษ์ ทำให้ผมรู้สึกประทับใจ มันเป็นสิ่งที่ใครก็ตามที่รักกรีน แลนเทิร์น ต้องใฝ่ฝันถึงอย่างแน่นอน ความฝันของผมเกี่ยวกับหนังเป็นจริงขึ้นมาตอนที่ผมเห็นมัน”
ดาวเคราะห์ดวงหนึ่งที่มีอายุมากที่สุดในแกแล็คซี่คือดาวโออาที่สร้างขึ้นมา ซึ่งเป็นกองบัญชาการของเผ่าพันธุ์ที่รอบรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับมนุษย์ ซึ่งขนานนามตัวเองว่าเป็นผู้พิทักษ์จักรวาล ที่คล้ายคลึงกับสภากฏหมายอันสูงสุดผู้ตรวจตรากองกำลังกรีน แลนเทิร์น ดาวโออา และควบคุมแกนกลางที่เป็นขุมพลังทั้งหมด รวมถึงพลังของแหวนกรีน แลนเทิร์น ด้วย
“จินตนาจักรวาลว่าเป็นทรงกลมที่ถูกแบ่งออกเป็น 3,600 ส่วน” จอนส์อธิบาย “แต่ละส่วนก็เหมือนชิ้นพายที่ทุกชิ้นชี้ไปที่ดาวโออา”
“ถึงแม้ว่าดาวโออาจะเป็นภาพดิจิตอลล้วนๆ” แคมป์เบลกล่าว “การออกแบบก็ต้องมีองค์ประกอบและต้องดูน่าเชื่อถือ และเพราะว่ามันเป็นดาวเอเลี่ยน มันจะดูเหมือนโลกไปไม่ได้เลย สิ่งเดียวที่มาจากโลกคือฮัลในตอนที่เขาไปถึงที่นั่น ทุกอย่างนอกจากนั้นต้องดูเป็นแนวจินตนาการ ในเวลาเดียวกันก็ต้องดูเป็นไปได้ด้วย”
เมเจอร์รู้สึกว่าหน้าที่อย่างหนึ่งของเขาคือ “การทำให้ผู้ชมเชื่อว่าพวกเขาอยู่บนดาวโออา ได้ไปค้นพบดาวนี้ร่วมกับฮัล มันต้องมีความหนักแน่นและมีน้ำหนัก เราไม่อยากให้มันรู้สึกเหมือนอยู่ในความฝัน แต่ให้เหมือนความเป็นจริงมากกว่า”
ผู้ออกแบบฉากไว้วางใจผู้ศึกษาข้อมูลและผู้ชำนาญการด้านการ์ตูนที่อยู่ในพื้นที่ของภาพยนตร์อย่าง ออซซี่ อินกวนโซ ผู้รวบรวมทุกสิ่งทุกอย่างที่ผู้สร้างภาพยนตร์อาจต้องการเพื่อออกแบบภาพยนตร์
“ผมขลุกตัวเองอยู่กับหนังสือการ์ตูนเรื่อง Green Lantern มากว่า 50 ปี” อินกวนโซกล่าว “ผมทำงานอย่างจริงจังในการเอาใจใส่เรื่องความถูกต้องของแหล่งข้อมูล และเพื่อให้ได้รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในหนังสำหรับแฟนๆ ที่เหนียวแน่น ซึ่งรวมถึงตัวผมอยู่ในนั้นด้วย”
“มันเป็นการวิเคราะห์ว่าน่าจะมีสักคนในทีมเราที่รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับกรีน แลนเทิร์น และออซซี่สุดยอดมาก เมื่อเริ่มต้นด้วยคำว่า ‘เริ่ม’” เมเจอร์กล่าว
เมื่อภาพลักษณ์ทั้งหมดของดาวโออาเป็นที่ยอมรับด้านความสมจริง พื้นที่ 2 แห่งขนาดใหญ่ของดวงดาวจึงมีการสร้างขึ้น ได้แก่ Citadel ที่ปกครองโดยผู้พิทักษ์ และ Great Hall ที่ฮัลและผู้ชมจะได้เห็นการรวมตัวของกลุ่มแลนเทิร์นทั้งหมด และที่นั่นผู้อ่านหนังสือการ์ตูนผู้คลั่งไคล้จะนึกถึงตัวละครโปรดของกองกำลังได้หลายตัว
ส่วนประกอบสำคัญเหล่านั้นในการสร้างฉากท้ายที่สุดแล้วสมบูรณ์ได้ด้วยเทคนิค CGI แต่ถึงอย่างไรที่ผู้ออกแบบของเมเจอร์ก็สร้างแบบจำลองขนาดใหญ่ของแต่ละฉากขึ้นมาเพื่อเป็นจุดอ้างอิงของฉากการแสดงทั้งหลายของแคมป์เบล จากนั้นทีมงานวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ได้เปลี่ยนเป็นฉากเสมือนจริงที่เปิดฉากแอ็คชั่นขึ้น
นอกจากสถานที่ที่เกี่ยวกับโลกแล้ว ทีมงานด้านเอ็ฟเฟ็กต์ยังดูแลด้านการนำตัวละครของโลกอื่นนับร้อยตัวให้มีชีวิตชีวา ซึ่งรวมถึงโทมาร์-รี, คิโลว็อกและกองกำลังกรีน แลนเทิร์น ส่วนที่เหลือ ตัวละครหนึ่งที่โดดเด่นสะดุดตาที่สุดคือ พารัลแล็กซ์ คู่ต่อสู้ตัวฉกาจของกองกำลังที่สร้างขึ้นด้วยคอมพิวเตอร์ทั้งหมด
“มันสำคัญในการถ่ายทอดขนาดพลังของพารัลแล็กซ์และจุดประสงค์ร้าย เพราะชีวิตความเป็นอยู่ทั้งหมดของเขาขึ้นอยู่กับความกลัวที่เกิดขึ้น” จอห์น “ดีเจ” ผู้ทำหน้าที่ควบคุมวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ทั้งหลายของภาพยนตร์กล่าว
กลับมายังโลก ภาพยนตร์ต้องการฉากที่สมจริงจำนวนมากเช่นกัน ซึ่งทั้งหมดเสร็จสิ้นทั้งในและรอบๆ นิว ออลีนส์ ทีมงานของเมเจอร์ออกแบบและสร้างอพาร์ทเมนท์ของฮัลและเฮ็คเตอร์ขึ้นมา ซึ่งส่วนหลังนี้เมเจอร์อธิบายไว้ว่า “ประเภทของห้วงอวกาศที่เขาควรจะอยู่ตอนเป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรี แต่อาจไม่ได้มีร่องรอยทิ้งไว้ ฉะนั้นที่นั่นจึงมีความซับซ้อนในความเงียบของเขาหลายระดับ ชีวิตรอบตัวเขามีแต่เรื่องที่เกี่ยวกับตัวเอง”
พวกเขายังสร้างออฟฟิศที่เป็นห้องชุดของ Ferris Aviation ขึ้นมาอีกด้วย ซึ่งได้รับแรงจูงใจมาจากศิลปะการตกแต่งโรงเก็บเครื่องบินที่บริเวณสนามบิน Lakefront Airport ฉากฟลอร์เต้นรำและเวทีในงานปาร์ตี้ที่จริงๆ แล้วฝ่ายการผลิตใช้ประโยชน์จากด้านนอกของสนามบินเอง และห้องใต้ดินที่แข็งแรงให้เป็นห้องทดลองที่เก็บซ่อน ซึ่งเฮ็คเตอร์ชันสูตรศพของอาบิน เซอร์ ได้แรงบันดาลใจมาจากการไปเยี่ยมชม NASA และตึกขนาดใหญ่ที่ซ่อนถังเชื้อเพลิงสำหรับกระสวยอวกาศ
ด้วยขนาดที่เล็กมากแต่มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าขนาด ฝ่ายศิลป์ของเมเจอร์ยังมีหน้าที่ออกแบบอุปกรณ์ที่โดดเด่นของเรื่อง 2 อย่าง ได้แก่ แหวนและตะเกียงของฮัล
แม้ว่าพวกเขาจะระมัดระวังด้วยการเกาะติดหนังสือการ์ตูนอย่างใกล้ชิด เพื่อผลงานการออกแบบส่วนใหญ่ของภาพยนตร์ เมเจอร์ก็ต้องการให้ตะเกียงมีส่วนนำจากบทภาพยนตร์ “ผมอยากให้มันดูลึกลับสักเล็กน้อย และให้มันดูเหมือนสิ่งประดิษฐ์จากดาวโออา” ผู้ออกแบบกล่าว เขากับแฟเบียน เลซีย์ ผู้วาดภาพประกอบคอนเซ็ปต์คนสำคัญที่เมเจอร์ให้ความเชื่อมั่นเรื่องภาพลักษณ์ขั้นสุดท้าย ได้ดึงแรงบันดาลใจของชิ้นส่วนตะเกียงมาจากเลนส์ Fresnel ที่คิดค้นขึ้นในปี 1823 โดยนักฟิสิกส์และวิศวกรชาวฝรั่งเศสในชื่อเดียวกันนั้น
“ความรู้สึกทั้งหมดแห่งความตั้งใจจริงเป็นส่วนหนึ่งของขอบเขตแห่งอารมณ์ และสีเขียวเป็นตัวแทนแห่งอารมณ์ความรู้สึกในเฉดสีนั้นเป็นพิเศษ ซึ่งเป็นองค์ประกอบหนึ่งของตะเกียงที่สะท้อนสีสันการออกแบบของเลนส์บางอย่าง” เมเจอร์ยกตัวอย่าง
หัวหน้าผู้ควบคุมฉาก แอนดรูว์ เพทร็อตต้า รับหน้าที่ออกแบบขั้นสุดท้ายและสร้างแบบจำลองเรซิ่น 8 ชิ้น โดยมี 4 ชิ้นต้องใช้ถ่านเพื่อฉายแสงและอีก 4 ชิ้นต้องใช้กระแสไฟฟ้า แต่ละชิ้นสูงประมาณ 13 นิ้วและหนักประมาณ 8 ปอนด์ จากนั้นเขาทำให้มันดูเก่าด้วยการสร้างรอยตำหนิและใช้สีที่มืด ทำให้มันดูเหมือนผ่านการสู้รบมาเป็นเวลายาวนานมาก
หลากหลายแนวคิดเหมาะสมเข้ากับพลังของแหวนกรีน แลนเทิร์น ที่รวมปริซึมไว้อย่างโดดเด่น แหวนแต่ละวงถูกลองกับมือของไรอัน เรย์โนล์ดส เพื่อมั่นใจว่าขนาด รูปร่าง และความเหมาะสมจะลงตัว ความเห็นของนักแสดงเป็นสิ่งสำคัญที่พวกเขาต้องการ ซึ่งเหมือนฮัลที่รู้สึกได้ถึงพลังเมื่อสวมใส่มัน โดยเขาต้องควบคุมแหวนได้เหมือนเป็นอาวุธชนิดหนึ่งของเขา
หลังจากช่วงการทดสอบและข้อผิดพลาด ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย ไนล่า ดิคสัน ได้นำเสนอสิ่งที่จะเป็นภาพลักษณ์สุดท้าย ความสมดุลไร้ที่ติของพลังและความเป็นผู้ชาย แหวนถูกสร้างขึ้นจากแผ่นทองเหลืองกับเหรียญชุบทอง ขณะที่หินสีเขียวที่มีสัญลักษณ์กรีน แลนเทิร์น สร้างขึ้นจากเรซินย้อมสีด้วยความตั้งใจที่ให้เหมือนตะเกียงที่ปรากฏว่าเป็นสิ่งสืบทอดจากดาวโออา
แคมป์เบลกล่าวว่า “เพราะแหวนเป็นอาวุอันทรงพลังที่สุดอย่างหนึ่งใน ‘โลก’ ของเรา และเป็นส่วนสำคัญของผู้ที่เป็นกรีน แลนเทิร์น แน่นอนว่ามันคุ้มค่าต่อการพยายามอย่างยิ่งใหญ่ในการทำให้มันเหมาะสม”
Green Lantern - กรีน แลนเทิร์น
ในรูปแบบ 3 มิติ และ 2 มิติ ทั่วโลก
เริ่ม 16 มิถุนายน 2011 ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น
http://www.greenlantern-thai.com