กรุงเทพฯ--2 มี.ค.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
บริษัท บลูสโคป สตีล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้าน ผลิตภัณฑ์เหล็กเคลือบโลหะและเหล็กเคลือบสีของไทย จับมือสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์จัดสัมมนาเชิงวิชาการเรื่อง “สถาปัตยกรรมสีเขียวกับการท้าทายเพื่อความยั่งยืน” (Green Architecture — The Sustainability Challenge) พร้อมเชิญศาสตราจารย์เคน มาร์ห สถาปนิกชั้นนำชาวออสเตรเลีย แห่งบริษัท แฮสเซลล์ กรุ๊ป จำกัด ร่วมเป็นวิทยากรบรรยายรับเชิญพิเศษในงานสัมมนาดังกล่าว
มร. ปีเตอร์ วิลสัน ประธาน กลุ่มบริษัทบลูสโคป สตีล ในประเทศไทย กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บลูสโคป สตีลได้ร่วมมือกับสถาปนิก นักออกแบบ และวิศวกรในการสนับสนุนและพัฒนาวัสดุก่อสร้างใหม่ๆ และล้ำสมัยสำหรับนำไปใช้ในการก่อสร้างอาคารเพื่อการพาณิชย์และอุตสาหกรรม ตลอดจนที่พักอาศัยที่เปี่ยมคุณภาพและประหยัดพลังงานได้สูงสุด การดำเนินการดังกล่าวเป็นแนวปฏิบัติที่บลูสโคป สตีลได้ยึดถือและปฏิบัติตามมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการร่วมจัดกิจกรรมต่างๆ ดังเช่น งานสัมมนาที่จัดขึ้นในครั้งนี้ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับวิทยาการและเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาสถาปัตยกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย”
การออกแบบอาคารให้เย็นสบาย โดยใช้วัสดุก่อสร้างที่เปี่ยมประสิทธิภาพ อย่างเช่นผลิตภัณฑ์ก่อสร้างของบลูสโคป สตีล นับเป็นองค์ประกอบสำคัญของงานสถาปัตยกรรมที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ การเลือกสรรวัสดุก่อสร้าง โครงสร้างหลังคา ผนังที่เป็นฉนวนกันความร้อน การระบายความร้อนและความเย็น ระบบน้ำ ระบบทำความร้อนและระบบไฟฟ้า และอุปกรณ์ไฟฟ้า คือ แนวทางที่ช่วยลดการใช้พลังงานในครัวเรือนได้อย่างดี
องค์การพัฒนาสถาปัตยกรรมแบบยั่งยืนแห่งออสเตรเลีย ระบุว่า สำหรับครอบครัวขนาด 4 คน ที่พำนักอยู่ในบ้านแบบประหยัดพลังงานจะประหยัดค่าไฟฟ้าได้ถึง 40% เทียบกับที่พักอาศัย แบบเดิม
มร. วิลสัน กล่าวเสริมว่า “ในประเทศไทย สถาปนิกอาจต้องเผชิญสิ่งท้าทายทางด้านสิ่งแวดล้อม โดยจำเป็นต้องออกแบบและก่อสร้างบ้านที่ให้ความเย็นโดยไม่ต้องพึ่งพาเครื่องปรับอากาศ โดยเลือกใช้วัสดุก่อสร้างน้ำหนักเบา เพื่อให้มีอากาศถ่ายเทได้มากที่สุด และทำให้บ้านเย็นในตอนกลางคืน ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บลูสโคป สตีล ได้ร่วมมือกับนักออกแบบและผู้ก่อสร้างออกแบบ “บ้านพลังงานแสงอาทิตย์” และพัฒนาระบบโครงสร้างหลังคาที่ช่วยลดความร้อนที่ไหลเข้ามาภายในตัวอาคาร”
บลูสโคป สตีล มีผลิตภัณฑ์เหล็กชั้นเยี่ยมหลากหลายชนิด ได้แก่ เหล็ก ZINCALUME ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เหล็กเคลือบโลหะผสมอลูมิเนียมและสังกะสี ทนทานต่อการสึกกร่อนเป็นเยี่ยม เหมาะสำหรับใช้ทำโครงสร้างหลังคา เหล็กเคลือบสี Clean COLORBOND ที่ล้ำสมัยที่สุดในโลก และเหล็ก GALVASPAN ที่ทนทานที่สุด แข็งแกร่ง และมีน้ำหนักเบา เหมาะสำหรับงานโครงสร้างต่างๆ อาทิ แปหลังคาเหล็ก และโครงคร่าวผนัง เป็นต้น
ด้วยเทคโนโลยีการเคลือบสีที่ใช้ในผลิตภัณฑ์เหล็กเคลือบสี Clean COLORBOND จะทำให้ สีติดทนนาน และสดใสไม่ซีดจางตามสภาพภูมิอากาศร้อนชื้นอย่างในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี และเมื่อผนวกกับเทคโนโลยีอินฟราเรดจะช่วยกระจายความร้อนออกจากพื้นผิวหลังคา ทำให้พื้นผิวหลังคาเย็นลง
ผลิตภัณฑ์เหล็กของบลูสโคป สตีลจะช่วยลดความร้อนภายในอาคาร เพิ่มความสะดวกสบายในการอยู่อาศัยมากขึ้น และมีค่าใช้จ่ายในการติดตั้งระบบทำความเย็นลดลง บลูสโคป สตีล ได้คิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์เหล็กหลากหลายชนิดที่ช่วยประหยัดการใช้พลังงานภายในอาคารและบ้านพักอาศัยได้อย่างดี ทั้งยังลดการกระจายความร้อนเข้าสู่อาคารได้ดีกว่าวัสดุก่อสร้างชนิดอื่นๆ ที่ใช้กันทั่วไป
นายสินน์ พงศ์หาญยุทธ นายกสมาคมสถาปนิกสยาม กล่าวในงานสัมมนาครั้งนี้ว่า “สำหรับ การศึกษาวิจัยที่จะมีขึ้นในอนาคต ควรมุ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาวัสดุก่อสร้างใหม่ๆ ที่มีคุณสมบัติประหยัดพลังงาน ค่าใช้จ่ายด้านวัสดุก่อสร้าง และเทคโนโลยีด้านการผลิต การดำเนินการ การนำวัสดุก่อสร้างที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ และการกำจัดวัสดุก่อสร้างที่ใช้แล้ว
ดังนั้น บริษัทขนาดใหญ่ที่มีแผนกวิจัยและพัฒนาควรเป็นผู้นำในการคิดค้นและพัฒนาสิ่งเหล่านี้” วัสดุก่อสร้างที่นิยมใช้กันทั่วไป อาทิ คอนกรีต และไม้ เป็นวัสดุที่ไม่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ แต่เหล็กสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้อีกครั้ง ดังนั้น การเลือกวัสดุก่อสร้างควรคำนึงถึงค่าใช้จ่ายในปัจจุบัน และที่คาดว่าจะมีขึ้นในอนาคต รวมทั้งค่าใช้จ่ายด้านวัสดุที่นำมาใช้ และค่าใช้จ่ายในการกำจัดทิ้งด้วย
“ผลิตภัณฑ์ของบลูสโคป สตีล เป็นผลิตภํณฑืที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ทั้งหมด และสามารถนำมาใช้ในการออกแบบอาคารแบบประหยัดพลังงาน เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาประเทศไทยให้เติบโตแบบยั่งยืนและประหยัด ทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และไม่สิ้นเปลืองพลังงาน” มร. วิลสัน กล่าวทิ้งท้าย
อาคารอำนวยการของกองบัญชาการทหารสูงสุดในกรุงเทพฯ ใช้ผลิตภัณฑ์เหล็กเคลือบ ZINCALUM ที่มีความทนทานสูง ทั้งยังสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ และมีประสิทธิภาพ ในการระบายความร้อนได้ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับอาคารที่ได้รับการออกแบบให้เปิดรับแสงสว่างตามธรรมชาติได้อย่างเต็มที่
ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
ศรีเบญจา / สาธิดา
อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
โทร 02 252 9871
อีเมล์ sribenja.s@abm.co.th