กรุงเทพฯ--17 มิ.ย.--มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา
ประธานองคมนตรีฯ เปิดโครงการบ่มเพาะคนดี ณ สวนประวัติศาสตร์พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ที่ผ่านมา ฝากเยาวชนหาแม่แบบที่ดีจากสังคมสำหรับเนินชีวิต และให้มั่นคงความดีตลอดไป เพราะหากรักษาความดีไว้ไม่ได้ ก็จะกลายเป็นคนไม่ดีไปในที่สุด
ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ กล่าวกับเยาวชนกว่า 400 คน ที่เข้าร่วมอบรมโครงการบ่มเพาะคนดี ว่า ในการทำความดีนั้น สิ่งสำคัญที่สุดที่จะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ชาติบ้านเมือง คือการรักษาความดีให้อยู่คู่กับตัวเราตลอดไป แม้จะเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก เพราะมีสิ่งยั่วยุต่างๆ มากมาย แต่เราก็ต้องมั่นคงในความดี อย่างที่อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลาต้องการ หรือที่พ่อแม่ ครูอาจารย์ ได้อบรมสั่งสอน เพราะหากเราไม่สามารถรักษาความดีไว้ได้ ก็จะจบลงด้วยเรากลายเป็นคนไม่ดีไปในที่สุด อีกประการหนึ่ง ในการเป็นคนดีและทำความดีนั้น จะต้องหาแม่แบบที่ดีจากสังคม เพื่อนำไปเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับการดำเนินชีวิต
ด้าน ผศ.ดร.ไพโรจน์ ด้วงวิเศษ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา กล่าวถึงที่มาของการจัดทำหลักสูตรบ่มเพาะคนดี ซึ่งนำมาใช้ประกอบการอบรมในครั้งนี้ว่า เมื่อครั้งที่ ฯพณฯพลเอกเปรม มาปาฐกถาที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา ทุกครั้งท่านได้เน้นย้ำถึงเรื่องของการทำความดี เพราะสภาพปัจจุบันเราขาดแคลนคนดี และที่สำคัญผู้ใหญ่ก็ไม่ได้เป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่เด็ก ตนจึงอยากจะสร้างต้นแบบในการทำความดี โดยยึด ฯพณฯพลเอกเปรม เป็นแบบอย่าง ซึ่งได้บอกถึงนิยามของคนดี แล้วเราก็เอานิยามนั้นมาจัดทำเป็นหลักสูตร เรียกว่าหลักสูตรบ่มเพาะคนดี ว่าด้วยเรื่องของความซื่อสัตย์สุจริต ความรับผิดชอบ ความมีจิตอาสา ความกตัญญูกตเวที เป็นต้น
“การอบรมแบ่งออกเป็น 4 ระดับ ได้แก่ ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น มัธยมศึกษาตอนปลาย และ ระดับ ปวช. ปวส. อุดมศึกษา ระยะเวลาในการอบรมตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน-19 สิงหาคม 2554 ซึ่งในระยะแรกนี้จะจัดอบรมให้กับนักเรียนนักศึกษาในมูลนิธิพลเอกเปรมก่อน หลังจากนั้นจะขยายไปยังเด็กและเยาวชนกลุ่มอื่นๆ ภายหลังเสร็จสิ้นการอบรมก็จะมีการติดตามผลว่า ผู้เข้าร่วมอบรมนำความรู้ความเข้าใจไปใช้มากน้อยเพียงใด” อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา กล่าว