กรุงเทพฯ--29 ส.ค.--โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์
เดอะ เวเนเชี่ยน มาเก๊า รีสอร์ทสมบูรณ์แบบขนาดยักษ์สไตล์ลาสเวกัสแห่งแรกในเอเชีย เปิดประตูสู่สายตาชาวโลก สิ่งก่อสร้างอันยิ่งใหญ่สำคัญที่จะกำหนดมาตรฐานใหม่แห่งความหรูหราและตื่นตาตื่นใจในมาเก๊า
ด้วยแขกผู้มีเกียรตินับหมื่น, แขกวีไอพี, และสื่อมวลชนกว่า 1,200 คนจากทั่วทั้งภูมิภาคและทั่วโลกที่ต่างมาเป็นประจักษ์พยานและร่วมเปิดประสบการณ์ใหม่ เดอะ เวเนเชี่ยน? มาเก๊า รีสอร์ท โฮเต็ล เปิดแล้ววันนี้และนำหน้าประวัติศาสตร์บทใหม่มาสู่มาเก๊า
“ณ วันนี้ ยุคนี้ เป็นเรื่องธรรมดาที่จะกล่าววลี เช่น ...เป็นประวัติการณ์, สั่นสะเทือนวงการ..., และปฏิวัติ...” เชลดัน จี. อาเดลสัน กล่าวในฐานะประธานและประธานกรรมการบริหารของ บริษัท ลาส เวกัส แซนด์ส คอร์ป (NYSE:LVS) อันเป็นบริษัทแม่ของ เดอะ เวเนเชี่ยน มาเก๊า “แต่มันไม่เป็นการกล่าวเกินจริงที่ว่าการเปิดเดอะ เวเนเชี่ยน มาเก๊า เป็นการขยับแนวความคิดครั้งยิ่งใหญ่ของมาเก๊าและเป็นการแสดงถึงทิศทางของอนาคตการพัฒนาการท่องเที่ยวในทวีปเอเชีย”
เมื่อเปิดตัวเสร็จสมบูรณ์ เวเนเชี่ยน มาเก๊า อันมีมูลค่า 2.4 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯได้กลายเป็นโรงแรมโครงสร้างเดี่ยวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชียและเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของโลก เช่นเดียวกับอสังหาริมทรัพย์ที่ออกแบบด้วยลักษณะเดียวกันในลาส เวกัส เดอะ เวเนเชี่ยน มาเก๊าตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมแบบเรเนซ้องส์ เวนิส อันโดดเด่นด้วยการจำลองสถานที่อันโด่งดังในเวนิส อาทิ จัตุรัส เซนต์มาร์ก, พระราชวังดอร์ช, หอคอยแคมพาไนล์ และคลองในร่มสามแห่ง พร้อมทั้งเรือกอนโดล่าและคนพายเรือที่คอยร้องเพลงขับกล่อม ในส่วนของโรงแรมนั้น เป็นห้องสวีทล้วนจำนวน 3,000 ห้อง พร้อมพื้นที่ช้อปปิ้งและค้าปลีกขนาดหนึ่งล้านตารางฟุต ซึ่งมากกว่าขนาดในช้อปปิ้งมอลใดๆบนเกาะฮ่องกง ทำให้เดอะ เวเนเชี่ยน มาเก๊า กลายเป็นจุดหมายหลักของนักช็อปปิ้งทั่วทั้งภูมิภาค พื้นที่ในส่วนคาสิโนขนาด 550,000 ตารางฟุต ถือเป็นขนาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีโต๊ะเสี่ยงโชคมากถึง 870 โต๊ะ พร้อมทั้งเครื่องสล็อต แมชชีนกว่า 3,400 เครื่อง
นอกจากนั้นยังมีเวเนเชี่ยน อารีน่า ขนาด 15,000 ที่นั่ง ซึ่งจะเปิดตัวโดยการใช้เป็นสถานที่จัดงานแกรนด์ โอเพนนิ่งในช่วงเย็นของวันนี้ ในช่วงสัปดาห์ต่อไป เดอะ เวเนเชี่ยน อารีน่าจะเป็นสถานที่จัดการแข่งขันบาสเก็ตบอล เอ็นบีเอจำนวนสองนัดรวมทั้งการแข่งขันเทนนิสนัดประวัติศาสตร์ระหว่าง โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ และพีท แซมปราส ด้วยความสามารถในการรองรับผู้ชมและอุปกรณ์ที่ล้ำสมัยของอารีน่าแห่งนี้ ทำให้เวเนเชี่ยน อารีน่า กลายเป็นสถานที่แห่งสุดยอดความบันเทิงในภูมิภาค
เดอะ เวเนเชี่ยน มาเก๊ายังมีพื้นที่สำหรับการประชุม สัมมนา และงานแสดงนิทรรศการขนาด 1.2 ล้านตารางฟุต ซึ่งมากกว่าสองเท่าของฮ่องกง คอนเวนชั่น แอนด์ เอ็กซิบิชั่น เซ็นเตอร์ โดยพื้นที่ดังกล่าวมีห้องบอลรูมที่ออกแบบด้วยเทคนิคปราศจากเสาค้ำขนาดใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชียและมีส่วนจัดเลี้ยงที่สามารถจัดงานเลี้ยงแบบห้าคอร์สสำหรับแขก 15,000 คน ในช่วงต้นปีหน้า เวเนเชี่ยน เธียเตอร์ ขนาด 1,800 ที่นั่งจะเปิดตัวด้วยการแสดงจากคณะละครสัตว์ระดับโลก เซิร์ค ดู โซเลยล์
“ทุกความมหัศจรรย์ที่เดอะ เวเนเชี่ยนนำเสนอทำให้มันไม่ใช่เป็นเพียงรีสอร์ทสมบูรณ์แบบแห่งแรกในมาเก๊า แต่หมายถึงสิ่งก่อสร้างที่ไม่เคยมีมาก่อนในทวีปเอเชียอีกด้วย” วิลเลี่ยม พี. ไวด์เนอร์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ลาส เวกัส แซนด์ส คอร์ป กล่าว “เดอะ เวเนเชี่ยน มาเก๊าเป็นจุดหมายที่มีความสมบูรณ์แบบในตัวเองอย่างแท้จริงและการปรากฏตัวของสิ่งนี้จะช่วยให้มาเก๊าตระหนักถึงอนาคตตนเองในฐานะจุดหมายปลายทางแห่งการพักผ่อนและธุรกิจแบบหลายวันสำหรับผู้คนนับล้านทั่วทั้งภูมิภาค”
มร.ไวด์เนอร์ กล่าวเสริมว่า เดอะ เวเนเชี่ยน มาเก๊า คือการรวบรวมทุกองค์ประกอบอันสุดยอดไว้ในสถานที่เพียงแห่งเดียว ไม่ว่าจะเป็น อาหารชั้นยอด, ร้านค้าและความบันเทิงระดับสูง, ห้องพักแบบสวีททุกห้อง, ห้องประชุมสัมมนา, สิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการสันทนาการที่ครบครัน ซึ่งครั้งหนึ่งทำให้ลาส เวกัสกลายเป็นหนึ่งในจุดหมายแห่งการพักผ่อนและธุรกิจชั้นยอดของโลก
“ต้องใช้เวลาถึง 76 ปีและการปรับเปลี่ยนแปรสภาพหลายรุ่นเพื่อทำให้ลาส เวกัสกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ในปัจจุบันประสบความสำเร็จในการดึงดูดผู้คนกว่า 40 ล้านคนทุกปี” มร.ไวด์เนอร์ กล่าวเสริม “ส่วนใหญ่ของความสำเร็จดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา อันเป็นช่วงเวลาที่จุดหมายปลายทางแบบรีสอร์ทได้พบกับนวัตกรรมการพัฒนาใหม่ๆมากที่สุด เดอะ เวเนเชี่ยน มาเก๊าคือการแสดงถึงสิ่งที่เป็นสุดยอดในบรรดานวัตกรรมชั้นเลิศเหล่านั้น ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่สิ่งนี้ถูกประยุกต์เข้ากับทวีปเอเชียเพื่อสร้างการเป็นจุดหมายปลายทางแห่งการพักผ่อนแบบหลายวันแก่มาเก๊า”
นอกเหนือจากสภาพแวดล้อมอันน่าตื่นตาตื่นใจของเดอะ เวเนเชี่ยน มาเก๊าแล้ว งานฉลองครั้งนี้ยังถือเป็นการเปิดตัวโคไต สตริป ของลาส เวกัส แซนด์ส อีกด้วย โดยโคไต สตริปคือกลุ่มโรงแรมซึ่งบริหารโดยบรรดาผู้ประกอบการที่มีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมการโรงแรม ไม่ว่าจะเป็น โฟร์ซีซั่นส์, เชอราตัน, เซนต์ รีจิส, แชงกรีล่า, เทรเดอร์ส, ฮิลตัน, คอนราด, แฟร์มอนต์, และรัฟเฟิลส์ โดยลาส เวกัส แซนด์ส คอร์ปจะเป็นเจ้าของและก่อสร้างโรงแรมแต่ละแห่งรวมทั้งบริหารคาสิโนและแหล่งบันเทิงในแต่ละโรงแรม เมื่อแล้วเสร็จโรงแรมบนโคไต สตริปจะรวมจำนวนห้องพักได้ถึง 20,000 ห้อง เนื้อที่ร้านค้าปลีกกว่า 3 ล้านตารางฟุต และกว่า 30,000 ที่นั่งแห่งความบันเทิง
ข้อความในข่าวประชาสัมพันธ์นี้ มิใช่ข้อเท็จจริงตามประวัติศาสตร์ แต่เป็นข้อความที่มองถึงอนาคตข้างหน้า ซึ่งอยู่ภายใต้ Safe Harbor Provisions of the Private Securities Litigation Reform Act of 1995 ข้อความที่มองถึงอนาคตข้างหน้านี้เกี่ยวข้องถึง ปัจจัยความเสี่ยง ความไม่แน่นอน หรือปัจจัยอื่นๆที่ไม่ทางบริษัทไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งอาจส่งผลต่อส่วนประกอบเนื้อหาที่แตกต่างออกไปจากผลลัพธ์จริง การกระทำ หรือสิ่งที่คาดการณ์ไว้ ปัจจัยต่างๆนี้รวมถึง แต่ไม่ได้จำกัดแค่เพียง สภาพเศรษฐกิจโดยรวม, สภาวะการแข่งขันทางธุรกิจ, การเข้ามาของผู้ประกอบการใหม่, กฎระเบียบของทางรัฐบาล, การออกกฎหมายเกี่ยวกับการเสี่ยงโชค, อัตราดอกเบี้ย, การก่อการร้ายในอนาคต, การประกันภัย หรือ ปัจจัยอื่นๆโดยลงรายละเอียดไว้ในรายงาน ของบริษัท ลาส เวกัส แซนด์ส คอร์ป ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
เผยแพร่โดย
บริษัท โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์ (ประเทศไทย) จำกัด
บิว ชาติวิวัฒน์พรชัย โทรศัพท์ 0 2260 5820 ต่อ 119
โทรสาร 0 2260 5847-8 อีเมล: tqprthai@tqpr.com
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net