กรุงเทพฯ--21 มิ.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ข้อมูลทองคำวันนี้
- ราคาสมาคม เปิดที่ 22,200 - 22,300
- ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,541.30
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 30.55 — 30.59
- GFM11 Hi- Low 22,400 — 22,300 ปิดที่ 22,390
Gold & Silver Insight
สัญญาทองคำ และ โลหะเงินตลาด COMEX
ส่งมอบเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้น 2.90 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 1,542.00 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,533.60-1,548.20 ดอลลาร์ ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 32.3 เซนต์ ปิดที่ 36.071 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรและปัญหาเงินเฟ้อในหลายประเทศ ยังคงเป็นแรงกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อประกันความเสี่ยง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดบวก 76.02 จุด หรือ 0.63% แตะที่ 12,080.38 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 6.86 จุด หรือ 0.54% แตะที่ 1,278.36 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 13.18 จุด หรือ 0.50% แตะที่ 2,629.66 จุด โดยดัชนีดาวโจนส์และดัชนี S&P 500 ปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรในหุ้นที่ร่วงลงอย่างหนักเมื่อหลายวันก่อน อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซาเนื่องจากตลาดขาดปัจจัยชี้นำด้านข้อมูลเศรษฐกิจในวันจันทร์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ของกรีซ หลังจากที่ประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนได้เลื่อนการเบิกจ่ายเงินงวดใหม่ของกรีซออกไปเป็นช่วงกลางเดือนก.ค.จนกว่ารัฐบาลกรีซจะใช้มาตรการคุมเข้มด้านการคลังและแปรรูปรัฐวิสาหกิจ
สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนก.ค.ขยับขึ้น 25 เซนต์ ปิดที่ 93.26 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 91.14-93.49 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดยังคงซบเซา เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกัวลว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกและปัญหาหนี้ยุโรป อาจทำให้ความต้องการพลังงานลดน้อยลงด้วย ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ ซึ่งสำนักงานสารนิเทศด้านพลังงานของสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้
กองทุน SPDR Gold Trust กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. วันที่ 21 มิถุนายน ไม่เปลี่ยนแปลงการถือครอง ถือครองเท่าเดิมที่ระดับ 1209.14ตัน
USD/EU ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20 มิ.ย.) หลังจากที่ประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนตัดสินใจเลื่อนการเบิกจ่ายเงินงวดใหม่ของกรีซออกไปเป็นช่วงกลางเดือนก.ค.จนกว่ารัฐบาลกรีซจะใช้มาตรการคุมเข้มด้านการคลังและแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูผลการประชุมกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธ ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลง 0.05% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.4301 ดอลล่าร์ต่อยูโร จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.4308 ดอลล่าร์ต่อยูโร โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 1.4325 ดอลล่าร์ต่อยูโร
USD/JPY ค่าเงินเยนร่วงลง 0.29% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 80.27 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 80.04 เยนต่อดอลลาร์ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 80.14 เยนต่อดอลลาร์
USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดวานนี้ อยู่ที่ระดับ 30.56-30.59 บาทต่อดอล ซึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักระหว่างวัน โดยค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 30.55-30.59 บาทต่อดอลล่าร์
ข่าวเศรษฐกิจโลก
- นายโยชิฮิโกะ โนดะ รมว.คลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า เราเชื่อว่าญี่ปุ่นมีความสามารถมากพอที่จะช่วยสร้างเสถียรภาพทางการเงินในยุโรปได้ ด้วยการซื้อพันธบัตรของกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) เพิ่มเติม เพื่อสนับสนุนกรีซ ไอร์แลนด์ และโปรตุเกส ทั้งนี้ กองทุน EFSF ก่อตั้งโดยกลุ่มยูโรโซนและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เพื่อป้องกันไม่ให้วิกฤตหนี้กรีซลุกลามไปทั่วยุโรป
- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ออกรายงานเตือนยุโรปว่า ผลกระทบจากวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรปจะลุกลามไปทั่วโลก หากประเทศกลุ่มยูโรโซนไม่สามารถใช้มาตรการที่เด็ดขาดในการรับมือกับวิกฤตหนี้ในกลุ่มยูโรโซน ไอเอ็มเอฟเตือนว่า ประเทศในกลุ่มยูโรโซน รวมถึงกรีซ สเปน และประเทศอื่นๆที่มีหนี้สาธารณะสูงมากขึ้นนั้น กำลังเผชิญกับอุปสรรคที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง เนื่องจากปัญหาทั้งในด้านการเงินและการคลังภายในยูโรโซนเอง รวมทั้งความล้มเหลวในการบังคับใช้มาตรการที่เด็ดขาด ซึ่งปัญหาเหล่านี้อาจจะสร้างความตึงเครียดให้กับประเทศที่เป็นเสาหลักของยูโรโซน และจะผลกระทบของปัญหานี้จะลุกลามอย่างหนักไปทั่วโลก
- รัฐบาลญี่ปุ่นยกระดับการประเมินเศรษฐกิจประจำเดือนมิ.ย. ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของการผลิตภาคอุตสาหกรรมและการส่งออก หลังจากที่เหตุแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิทำให้การผลิตภาคอุตสาหกรรมและการส่งออกอ่อนตัวลง รายงานระบุว่า เศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นมีการปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยการฟื้นฟูห่วงโซ่อุปทานนั้น มีความคืบหน้ามากขึ้น ขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับการบริโภคที่อ่อนแอก็ลดลง
- เครดิต สวิส ได้ปรับลดการคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนในปี 2555 ลงสู่ระดับ 8.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี จากระดับ 8.9% เนื่องจากมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่เศรษฐกิจจะเผชิญกับภาวะฮาร์ดแลนดิ้งหรือทรุดลงอย่างรุนแรง รายงานระบุว่า แรงกดดันด้านเงินเฟ้อ การขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง และนโยบายที่เข้มงวดมากขึ้น อาจจะคงอยู่ไปจนถึงปีหน้า
- ประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนได้ตัดสินใจเลื่อนการเบิกจ่ายเงินงวดใหม่มูลค่า 1.2 หมื่นล้านยูโร (1.69 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ของกรีซออกไปเป็นช่วงกลางเดือนก.ค.จนกว่ารัฐบาลกรีซจะใช้มาตรการคุมเข้มด้านการคลังและแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ซึ่งเดิมทีนั้น การเบิกจ่ายเงินกู้ดังกล่าวได้ถูกกำหนดว่าจะส่งมอบให้กรีซในเดือนมิ.ย. แต่การเบิกจ่ายได้ถูกเลื่อนออกไป เนื่องจากกรีซยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการใช้มาตรการรัดเข็มขัด
- ประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในคืนวันพุธตามเวลาประเทศไทย โดยมีการคาดการณ์ว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed fund rate) ไว้ที่ระดับ 0-0.25% และคาดว่าเฟดจะยืนยันให้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง (QE2) หมดอายุลงในสิ้นเดือนนี้
- หนังสือพิมพ์ไชน่า ซิเคียวริตีส์ เจอร์นัล รายงานว่า ธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนของจีนจะจำเป็นต้องออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิ์มูลค่าประมาณ 2.40 แสนล้านหยวนในทางทฤษฎี เพื่อเพิ่มเงินทุนให้สอดคล้องกับข้อกำหนดด้านการกำกับดูแล ธนาคารพาณิชย์เหล่านี้จะออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิ์โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ในขณะที่จะยังมีการใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินต่อไป โดยอัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าจับตา
อาทิตย์ที่ ข้อมูลที่น่าจับตา ตัวเลขเดิม ตัวเลข คาดการณ์ ตัวเลขจริง
20 — 21มิถุนายน2554
วัน ? -
จันทร์
วัน ? Existing Home Sales 5.05M 4.82M
อังคาร