กรุงเทพฯ--21 มิ.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1538 เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาท 30.52 บาท/ดอลลาร์ กับ 30.55 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่22200 บาท กับ 22300 บาท GFM11 เปิดที่ 22380 บาท และ GFQ11 เปิดที่ 22490 บาท และ GF10M11 เปิดที่ 22380 บาท และGF10Q11 เปิดที่ 22490 บาท SVM11 เปิดที่ 1099 บาท SVQ11 เปิดที่ 1114 บาท SPDR ถือครอง 1209.14 ตัน (ถือครองเท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 25 เซ็นต์ ปิดที่ 93.26 ดอลลาร์/บาเรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 76.02 จุด หรือ 0.63% ปิดที่ 12,080.38 จุด
ราคาทองคำในประเทศไทยทำจุดสูงสุดใหม่ แต่ตลาดโลกราคาทองคำยังไปไม่ถึงจุดสูงสุดเดิม ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ระดับ 30.54 เหรียญ ในช่วงตลาดเอเชียมีปริมาณการซื้อขายหนาแน่นปานกลาง โดยที่ราคาทองคำเคลื่อนไหวในระดับ 1534-1538 เหรียญ และเมื่อคืนนี้เป็นการขยายเวลาการซื้อขายของ Gold & Silver Futures วันแรก เปิดตลาดในช่วงต้นราคามีการขยับขึ้นไปที่ระดับ 1545 เหรียญ และมีแรงเทขายทำกำไร ทำให้ในช่วงเวลา 3 ทุ่ม ราคาปรับลงมาที่ระดับ 1534 เหรียญอีกครั้งหนึ่ง โดยที่ราคาทองคำขยับขึ้นไปในช่วงแรกและปรับตัวลดลงมาที่ระดับ 1541 เหรียญได้ในช่วงปลายตลาดของตลาด Comex ได้
สำหรับSilver Futures เมื่อเช้าเคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 35.70-36.00 เหรียญ โดยที่ปริมาณการซื้อขายของSilverอยู่ที่ 555 คู่สัญญา โดยที่กว่า 95% เป็นปริมาณการซื้อขายใน Series Q ซึ่งถึงว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้องเพราะว่า Series M กำลังจะหมดอายุภายใน 8 วันเท่านั้น ในช่วงกลางคืนราคาของ Silver Futures ขยับตัวเคลื่อนไหวตามราคาSilver Physical และปรับตัวตามราคาทองคำในช่วงต้นตลาดและกลับมาปิดตลาดที่ระดับ 35.85 เหรียญ โดยที่เช้านี้ราคาทองคำดีดกลับมาที่ระดับ 1542 เหรียญ และSilverอยู่ที่ระดับ 35.84 เหรียญ และค่าเงินบาทอยู่ที่ 30.57 บาท/ดอลลาร์
สำหรับตัวเลขทางเศรษฐกิจเมื่อวานนี้ไม่มีตัวเลขที่สำคัญใดๆออกมา โดยตลาดยังให้ความสำคัญกับเรื่องหนี้สินของกรีซเนื่องจาก ECB จะให้ความช่วยเหลือจำนวน 12พันล้านเหรียญดอลลาร์ ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม โดยพยายามบีบให้กรีซตัดสินใจเองในการปรับลดงบประมาณลงมาให้ได้ ด้วยข่าวนี้จึงทำให้ค่าเงินยูโรปรับตัวอ่อนค่าลงมา และมีการให้ภาคเอกชนเข้ามาช่วยปรับลดหนี้สินให้มากขึ้น ด้วยเหตุนี้ในอนาคตค่าเงินยูโรอาจจะกลับมาแข็งค่าขึ้นได้ และตลาดก็ให้ความสำคัญกับข่าวของสหรัฐอเมริกาที่จะแก้ไขปัญหาหนี้สินของตนเองด้วย รวมทั้งการที่ QE2 กำลังจะหมดลง เย็นนี้จะมีตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาที่จะออกมา คือ Existing Home Sales ที่คาดการณ์ว่าจะลดลงจาก 5.05 ล้านหลัง เหลือ 4.82 ล้านหลัง
ปริมาณการซื้อขาย Gold Future 50 บาท อยู่ที่ 5080 คู่สัญญา และ 10 บาท อยู่ที่ 13814 คู่สัญญา OI แบบ 50 บาท ลดลง 13%และ 10 บาท ลดลง 18%
Ratio Gold / Silver เท่ากับ 42.7 ต่อ 1
วิเคราะห์ทางเทคนิค
ราคาทองคำขึ้นมาทดสอบที่ระดับ 1540 เหรียญ อีกครั้งหนึ่ง และมีแรงเทขายทำกำไร ทิศทางราคาทองคำในระยะสั้นเริ่มเป็นขาขึ้นชัดเจนขึ้น Oscillator หลายๆตัวเริ่มปรับขึ้นหมดแล้ว รอเพียง MACD รายวันปรับตัวตาม โดยเชื่อว่าราคาน่าจะสามารถขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ระดับ 1550 เหรียญ ได้ภายในวันสองวัน โดยที่ราคาทองคำมีแนวรับด้านล่างที่ระดับ 1530 เหรียญ สรุปได้ว่าราคาทองคำน่าจะยังคงเป็นขาขึ้น
สำหรับSilverเองในระยะสั้นเริ่มเป็นสัญญาณบวกบ้าง โดยมีแนวต้านสำคัญที่ระดับ 36.50 เหรียญ และมีแนวรับที่ระดับ 34.95 เหรียญ ทิศทางในระยะสั้นรายวัน ยังคิดว่าเป็นขาขึ้น แต่ว่าในระยะกลางๆ จะมีแนวต้านสำคัญที่ต้องฝ่าให้ได้ที่ระดับ 38.5 เหรียญ
ราคาทองคำแท่งของไทย ปิดตลาดที่ระดับ 22150 บาท และ 22250 บาท Spot ปิดตลาดที่ระดับ 1538 เหรียญ
ราคาทองคำแท่งของไทย จะมีแนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 22150 บาท และมีแนวต้านสำคัญอยู่ที่ระดับ 22400 บาท
Gold Futures M11 จะมีแนวรับที่ระดับ 22400 บาท และแนวต้านที่ระดับ 22550 บาท
Gold Futures Q11 จะมีแนวรับที่ระดับ 22500 บาท และแนวต้านที่ระดับ 22650 บาท
Silver Futures Q11 จะมีแนวรับที่ระดับ 1120 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1200 บาท
ขอให้ทยอยปิด Series M และเปิด Series Q แทน
Series M กำลังจะหมดอายุภายใน 10 วัน นักลงทุนที่กำลังจะเปิดสถานะใหม่ควรที่จะเปิดใน Series Q โดยที่ Series M ปริมาณการซื้อขายอยู่ที่ 32% และ Series Q ปริมาณการซื้อขายอยู่ที่ 52%
คำแนะนำ
สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade)
เก็งกำไรในภาวการณ์การแกว่งตัวขาขึ้น ทั้งทองคำและซิลเวอร์ คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนตัวที่ระดับ 1535 — 1546 เหรียญ ส่วนราคาซิลเวอร์คาดว่าน่าจะเคลื่อนตัวที่ระดับ 35.50-36.50 เหรียญ
นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade)
ให้เก็งกำไรในภาวการณ์แกว่งตัวขาขึ้น ถือครองพอร์ทที่ 55% ขายเมื่อชนแนวต้านด้านบน และซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว
นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง
ให้เก็งกำไรในภาวการณ์แกว่งตัวขาขึ้น เพิ่มพอร์ทเป็น 55% ขายเมื่อชนแนวต้านด้านบน และซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว
มองว่าราคาทองคำและซิลเวอร์ยังเป็นทิศทางขาขึ้นและขายทำกำไร10-15%
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้น และโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยง โปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง