กรุงเทพฯ--21 มิ.ย.--ซีพีเอฟ
นายรณชัย โตอนันต์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ในฐานะประธานคณะทำงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) กลุ่มธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมอาหารสัตว์น้ำ เปิดเผยว่า บริษัทได้ดำเนินโครงการ “ซีพีเอฟ ชวนคนไทย...ปลูกป่าชายเลน” อย่างต่อเนื่อง โดยมีจุดประสงค์เพื่อมอบความอุดมสมบูรณ์กลับคืนสู่ผืนป่า พร้อมปลูกฝังจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อมให้แก่เยาวชน ล่าสุด ได้ร่วมกับนักศึกษาสาขาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ดำเนินการปลูกป่าชายเลน ในพื้นที่ปากคลองหนองบัว หมู่ที่ 5 ตำบลบางสระเก้า อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี ซึ่งเป็นผืนป่าที่มีการปลูกอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 สามารถเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลนได้แล้วรวม 100 ไร่
“การปลูกป่าชายเลนเป็นหนึ่งในกิจกรรมตอบแทนคุณแผ่นดินที่ซีพีเอฟดำเนินการร่วมกับชุมชน องค์กรภาครัฐ-เอกชน สถาบันการศึกษา ฯลฯ มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2536 จากเดิมที่เคยปลูกในหลายพื้นที่ ต่อมามีการกำหนดหลักเกณฑ์การให้การสนับสนุนการปลูกป่าชายเลนใหม่ โดยเน้นการปลูกป่าที่เป็นโครงการต่อเนื่องในป่าพื้นที่เดียวกัน ภายใต้ระยะเวลา 5-10 ปี เพื่อให้เกิดผืนป่าชายเลนที่มีความอุดมสมบูรณ์ รวมถึงการสร้างศักยภาพความเข้มแข็งให้กับชุมชน เพื่อยังประโยชน์ในการอนุรักษ์ผืนป่าให้อยู่รอดอย่างยั่งยืน” นายรณขัยกล่าว
สำหรับกิจกรรมปลูกป่าชายเลน ร่วมกับนักศึกษาภาควิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยรามคำแหงในครั้งนี้ มีผู้บริหารและพนักงานซีพีเอฟ และในเครือซีพี ชุมชน นักเรียน นักศึกษา และประชาชนผู้มีจิตอาสารักษ์สิ่งแวดล้อมเข้าร่วมปลูกป่าเป็นจำนวนกว่า 500 คน โดยความร่วมมือระหว่างซีพีเอฟกับ ม.รามคำแหงในโครงการล่าสุดนี้ เป็นโครงการต่อเนื่อง 4 ปีๆละ 25 ไร่ เริ่มตั้งแต่ปี 2551 -2554 รวมพื้นที่ป่า 100 ไร่ ขณะเดียวกันยังทำการปลูกป่าซ่อมแซมต้นไม้ส่วนที่ตายหรือเสียหายด้วย
ด้าน ผศ.ดร. จารุทัศน์ สันติสิริสมบูรณ์ หัวหน้าภาควิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม อาจารย์ที่ปรึกษานักศึกษาสาขาวิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวว่า ภาควิชาฯได้ดำเนินโครงการปลูกป่าทั้งป่าบกและป่าชายเลนมากว่า 10 ปีแล้ว โดยมีเป้าหมายต้องการปลูกจิตสำนึกด้านอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้กับนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ที่เพิ่งเข้ามาใหม่ แม้การปลูกป่าชายเลนในช่วงปีแรกๆ จะประสบปัญหามากเพราะไม่มีประสบการณ์ ทั้งเรื่องวิธีปลูก เรื่องพื้นที่ที่จะปลูก ฯลฯ แต่นักศึกษาก็มีความพยายาม ศึกษาเรียนรู้ ถ่ายทอดกันจากรุ่นสู่รุ่น ทำให้ทุกวันนี้เกิดประสิทธิภาพในการปลูกป่าให้รอดให้เติบโตได้ดีขึ้นมาก ขณะเดียวกัน ก็นับเป็นเรื่องน่ายินดีที่มีภาคเอกชนอย่างซีพีเอฟเห็นความสำคัญของการปลูกป่าอย่างจริงจัง และเข้ามาสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง
ส่วน นายสมนึก สุขสมัย นายก อบต.บางสระเก้า เปิดเผยว่า ชาวชุมชนบางสระเก้าสัมผัสได้ถึงความเอาจริงเอาจังและตั้งใจในการอนุรักษ์ป่าชายเลนของทุกภาคส่วนอย่างจริงจัง ทำให้ทุกคนที่นี่เกิดความรู้สึกมีส่วนร่วมและพร้อมจะปกป้องผืนป่าให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป ในฐานะคนในพื้นที่จึงถือเป็นหน้าที่หลักที่จะต้องดูแลรักษาและซ่อมแซมป่าเมื่อมีโอกาส ให้สมกับความปรารถนาดีของทุกภาคส่วนที่มาปลูกป่าในชุมชนแห่งนี้เพื่อช่วยลดภาวะโลกร้อนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ด้านสื่อสารองค์กรและประชาสัมพันธ์ โทร. 02-6257343-45, 02-6310641