กรุงเทพฯ--16 ม.ค.--มาสเตอร์มายด์
กระเบื้องหลังคาตราเพชร จับมือเพาเวอร์ไลน์ ขยายตลาดโครงการ ลุยบ้านเอื้ออาทร การันตีคุณภาพสินค้าได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ เล็งขยายตลาดตะวันออกกลาง ขณะที่บทวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก ระบุว่า หุ้นDRT ปันผลโดดเด่นกว่า 10% ชี้ราคาเหมาะสม 12 บาท
นายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการ สายการขายและการตลาด บริษัทกระเบื้องหลังคาตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายกระเบื้องหลังคาตราเพชร อดามัส และเจียระไน เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ร่วมลงนามเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ กับบริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (PLE) ในการก่อสร้างโครงการบ้านเอื้ออาทรรังสิต คลอง 10/1-3 ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการของการเคหะแห่งชาติ (กคช.) โดยบริษัทฯ เป็นตัวแทนจัดส่งสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์ผนังเจียระไน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ผลิตด้วย Green Technology เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม คิดเป็นมูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้นประมาณ 120 ล้านบาท
“บริษัทฯ ได้ร่วมกันกับทาง PLE พัฒนาผลิตภัณฑ์กลุ่มเจียระไนมาตั้งแต่ปีที่แล้ว และเริ่มมาใช้ในโครงการบ้านเอื้ออาทรรังสิตครั้งนี้เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดของบริษัทฯ โดยที่ตลาดนี้ยังมีโอกาสในการขยายตัวอีกมาก และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ออกมาได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี เนื่องจากหาซื้อได้ง่าย ติดตั้งสะดวก และมีรูปแบบเฉพาะตัว ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของผลิตภัณฑ์” นายสาธิตกล่าว
ทั้งนี้ สินค้าของบริษัท แบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก คือ กระเบื้องไฟเบอร์ซีเมนต์ (Fiber Cement Tile) ,กระเบื้องคอนกรีต (Concrete Tile) ,ไม้ฝา หรือไม้สังเคราะห์ (Siding Board) และผลิตภัณฑ์สินค้าเจียระไน (Jearanai Product) โดยสินค้าในกลุ่ม “เจียระไน” เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดของบริษัทฯ เป็นสินค้าที่ผลิตจากปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ เยื่อกระดาษ ใยธรรมชาติ และส่วนผสมอื่นประเภทเดียวกับกระเบื้องไฟเบอร์ซีเมนต์ มีข้อพิเศษคือ กรรมวิธีการผลิต “Green Technology” ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยสินค้าหลักในกลุ่มนี้ประกอบด้วยกระเบื้องหลังคาเจียระไน (Jearanai Tile) แผ่นผนังสำเร็จรูปเจียระไน (Jearanai Board) และไม้สังเคราะห์ประเภทต่างๆ
รองกรรมการผู้จัดการ สายการขายและการตลาด DRT กล่าวอีกว่า การที่บริษัทฯ ได้มีส่วนในการผลักดันสินค้าสำหรับโครงการดังกล่าวนี้ นับเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีต่อผลิตภัณฑ์ และยังเป็นการยืนยันกับผู้บริโภคว่า สินค้าของบริษัทฯ มีมาตรฐานและคุณภาพที่ดี ซึ่งโครงการดังกล่าวถือเป็นโครงการใหญ่ และมีความต่อเนื่อง นอกจากนี้ การร่วมมือกับเพาเวอร์ไลน์ ทำให้เห็นว่ามีผู้รับเหมารายใหญ่มาใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ซึ่งเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคในผลิตภัณฑ์ของ DRT ได้อีกด้วย
สำหรับภาพรวมยอดขายที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งการที่บริษัทฯ ได้มีโอกาสมาร่วมงานกับทาง บมจ.เพาเวอร์ไลน์ คาดว่า น่าจะมาจากตราสินค้า เนื่องจากแบรนด์ รวมทั้งผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ เป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ ทำให้ในส่วนของการส่งออกยังคงเติบโตได้ดี รวมถึงจะยังคงเดินหน้างานภาคโครงการ โดยเฉพาะโครงการสาธารณูปโภค และงานภาคเอกชนที่ขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ตลอดจนยังเน้นการจัดกิจกรรมการตลาดรูปแบบต่างๆ ร่วมกับร้านค้าผู้แทนจำหน่าย เพื่อให้เกิดความรู้สึกที่ดี รวมทั้งการอบรมให้ความรู้ด้านผลิตภัณฑ์และพัฒนาทักษะด้านงานขายซึ่งจุดนี้เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้สามารถรักษาระดับยอดขายทั้งในและต่างประเทศไว้ได้อย่างต่อเนื่อง
“นอกเหนือจากปริมาณความต้องการที่เพิ่มขึ้นในประเทศเพื่อนบ้าน DRT ยังได้เริ่มทำการสำรวจตลาดใหม่ในแถบตะวันออกกลางร่วมกับ PLE โดยการส่งออกจะช่วยทำให้บริษัทฯ สามารถรักษาอัตรากำลังการผลิตแบบเต็มกำลัง ซึ่งจะทำให้มีการบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ” รองกรรมการผู้จัดการ สายการขายและการตลาด กล่าว
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โกลเบล็ก จำกัด ได้จัดทำและเผยแพร่บทวิเคราะห์หุ้น DRT โดยระบุว่า DRT มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในปี 2550 จากโครงการขยายกำลังการผลิตและเพิ่มสายการผลิตใหม่ ได้แก่ กำลังการผลิตกระเบื้องคอนกรีต โดยมีส่วนเพิ่ม 45,000 ตัน และโครงการผลิตไม้ฝาที่ไม่มีส่วนผสมของใยหิน 42,000 ตัน ซึ่งเริ่มดำเนินการผลิตแล้ว และในช่วงไตรมาส 4 ปี 49 โดยคาดว่าจะรับรู้รายได้จากกำลังการผลิตส่วนเพิ่มนี้อย่างเต็มที่
ทั้งนี้ บล.โกลเบล็ก ได้ประเมินยอดขายรวมในปี 2550 ว่าจะอยู่ที่ 2,574 ล้านบาท และจากงบการเงินล่าสุด ทำให้คาดการณ์ว่า DRT จะปันผลจ่าย ที่ 0.90 บาท/หุ้น ซึ่งคิดเป็นอัตราผลตอบแทนสูงถึง 10.7% โดยให้มูลค่าที่เหมาะสมโดยใช้ประมาณการราคาต่อกำไรต่อหุ้น (PE) ของอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างในปีนี้ที่ 8 เท่า ได้ราคาเป้าหมายปี 2550 ที่ 12 บาท จึงแนะนำให้ “ซื้อลงทุน”
รายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ: คุณวารุณี คำไชย (แนน)
โทร: 0-2643-1191-2 หรือ 08-1496-6762 e-mail : c_mastermind@yahoo.com