กรุงเทพฯ--23 มิ.ย.--กองประชาสัมพันธ์ กทม.
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นำทีมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ตรวจเยี่ยมการทดสอบเดินรถเสมือนจริง (Trail Run) โครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร ส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท ช่วง อ่อนนุช — แบริ่ง โดยเริ่มต้นทดสอบระบบการเดินรถ จากสถานีอ่อนนุช (E9) สู่ สถานีบางจาก (E10) - สถานีปุณณวิถี (E11) - สถานีอุดมสุข (E12) -สถานีบางนา (E13) และไปสิ้นสุดที่สถานีแบริ่ง (E14) รวมเป็นระยะทาง 5.25 กิโลเมตร โดยมี นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายวินัย ลิ่มสกุล ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง พร้อมด้วย คณะผู้บริหารบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด และสื่อมวลชน ร่วมทดสอบความพร้อมในด้านต่างๆ ของโครงการ ก่อนเปิดให้บริการประชาชนในวันที่ 12 ส.ค.54 เป็นต้นไป
ผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยว่า กทม.ได้เดินหน้าโครงการรถไฟฟ้าบีทีเอส ส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท ช่วง อ่อนนุช-แบริ่ง ตั้งแต่ปี 2549 รวมความยาว 5.25 กิโลเมตร ต่อเนื่องจากสถานีอ่อนนุช (E 9) อีกจำนวน 5 สถานี ประกอบด้วย สถานีบางจาก (E10) สถานีปุณณวิถี (E11) สถานีอุดมสุข (E12) สถานีบางนา (E13) และไปสิ้นสุดที่สถานีแบริ่ง (E14) ใช้งบประมาณของกรุงเทพมหานครในการลงทุนทั้งหมด 100 เปอร์เซ็นต์ เป็นมูลค่ากว่า 50,000 ล้านบาท โดยเริ่มทำการทดสอบระบบอาณัติสัญญาณของโครงการ เมื่อวันที่ 4 พ.ค.54 ที่ผ่านมา รวมถึงการแก้ไขปัญหาในสถานการณ์ต่างๆ เช่น การเดินรถในสถานการณ์ปกติ โดยเฉพาะการให้บริการในชั่วโมงเร่งด่วน การทดสอบกรณีเกิดเหตุขัดข้อง เช่น ระบบไฟฟ้าเสีย และการทดสอบกรณีเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน เช่น ไฟไหม้ และระบบไฟฟ้าขัดข้องเป็นเวลานาน เพื่อให้ระบบการเดินรถมีความสมบูรณ์สูงสุด และเทียบเท่ามาตรฐานสากล ทั้งนี้ กทม.พร้อมที่จะเปิดให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสช่วง อ่อนนุช-แบริ่ง ตั้งแต่วันที่ 12 ส.ค.54 เป็นต้นไป โดยไม่เก็บค่าโดยสารจนถึงวันที่ 1 ม.ค.55 คาดว่าจะมีผู้โดยสารใช้เส้นทางนี้มากถึง 120,000 คนต่อเที่ยวต่อวัน
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท ช่วง อ่อนนุช-แบริ่ง ระยะทาง 5.25 กิโลเมตร จะทำให้ประชาชนที่พักอาศัยในพื้นที่เขตพระโขนง และเขตบางนา รวมกว่า 500,000 คน อีกทั้งประชาชนในจังหวัดสมุทรปราการ และพื้นที่ใกล้เคียง เดินทางได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น จากเดิมในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนช่วงสี่แยกพระโขนง — สี่แยกบางนา จะใช้เวลาเดินทางเที่ยวละไม่ต่ำกว่า 40 นาที แต่หากใช้บริการรถไฟฟ้าจะใช้เวลาเดินทางเพียง 10 นาที ซึ่งประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง บรรเทาปัญหาจราจรติดขัด ลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล ลดการสิ้นเปลืองพลังงาน อีกทั้งยังส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก และมีปัจจัยรองรับทางด้านการค้าและการลงทุน อาทิ โรงงานอุตสาหกรรม ศูนย์แสดงนิทรรศการ การเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ และที่อยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก โดยปัจจุบันย่านพระโขนงและบาง รวมมีบ้านพักอาศัย 78,700 หลังคาเรือน อาคารชุดพักอาศัย 40 อาคาร โรงแรม 17 แห่ง ห้างสรรพสินค้า 4 แห่ง สถาบันอุดมศึกษา 4 แห่ง โรงเรียน 46 แห่ง และศูนย์แสดงสินค้าไบเทคบางนา เดินหน้าต่อช่วง ตากสิน - เพชรเกษม
ทั้งนี้ ภายหลังการตรวจเยี่ยมรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายช่วงอ่อนนุช-แบริ่งในวันนี้แล้ว ผู้ว่าราชการพร้อมด้วยคณะผู้บริหาร จะลงพื้นที่ตรวจสอบความคืบหน้างานก่อสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายช่วง ตากสิน — เพชรเกษม ในวันที่ 28 มิ.ย.54 เพื่อเร่งรัดและผลักดันให้สามารถเปิดบริการได้ภายในวันที่ 5 ธ.ค.55 ซึ่งเป็นไปตามพันธสัญญาที่กรุงเทพมหานครได้ให้ไว้กับประชาชน ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพโครงข่ายระบบขนส่งมวลชนของรถไฟฟ้า ให้เข้าถึงคนกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะนำมาซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดีมากยิ่งขึ้น