กรุงเทพฯ--23 มิ.ย.--เวเบอร์ แชนวิค
- รูปลักษณ์ใหม่ทั้งภายนอกและภายในห้องโดยสาร สะท้อนเอกลักษณ์เฉพาะของเชฟโรเลต
- ขุมพลังเฟล็กซ์ฟิวรองรับเชื้อเพลิง E85 เหนือชั้นด้วยด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด
- เหนือกว่าคู่แข่งด้วยระบบเบรกมือไฟฟ้า และระบบช่วยการขับขี่ขณะขึ้น-ลง
- ทางชัน
- ราคาเริ่มต้นที่ 1,198,000 ถึง 1,580,000 บาท
- เปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ครั้งแรกของเชฟโรเลต “มอส-เกม” ตัวแทนของครอบครัวคนรุ่นใหม่
เชฟโรเลต เปิดตัว แคปติวา รถอเนกประสงค์เอสยูวีใหม่ล่าสุด มาพร้อมดีไซน์ทรงพลังที่สะท้อนเอกลักษณ์เฉพาะของเชฟโรเลตทั้งภายนอกและภายในห้องโดยสาร ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเบนซินพ่วงระบบวาล์วแปรผันคู่ต่อเนื่อง ประหยัดเหนือกว่าด้วยการรองรับเชื้อเพลิง E85 เต็มที่ด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครันยิ่งกว่าเดิม พร้อมเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คู่แรกของเชฟโรเลต คุณมอส-ปฏิภาณ ปฐวีกานต์ และ คุณเกม-ดวงพร ลือกิตินันท์ ตัวแทนครอบครัวคนรุ่นใหม่ ร่วมถ่ายทอดความเหนือกว่าของทุกสไตล์การใช้ชีวิต
มร.อันโตนิโอ ซาร่า รองประธานฝ่ายการขาย การตลาด และบริการหลังการขาย ประจำประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ ได้รับการพัฒนารูปลักษณ์ สมรรถนะ และเทคโนโลยีต่างๆ ให้ก้าวล้ำไปอีกระดับ เพื่อให้เป็นที่สุดแห่งรถอเนกประสงค์สำหรับการตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์การขับขี่
“ที่ผ่านมา เชฟโรเลต แคปติวา ประสบความสำเร็จอย่างสูงในตลาดรถอเนกประสงค์เอสยูวีในประเทศไทย เพราะเพียบพร้อมด้วยความอเนกประสงค์ ความหรูหรา และรูปลักษณ์ที่สวยงาม เราจึงเชื่อมั่นว่า การเปิดตัว เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ นี้จะยังคงคุณสมบัติอันยอดเยี่ยมไว้เช่นเดิม แต่เพิ่มพละกำลัง เติมความดุดัน และเสริมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเข้าไป จะสร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น” มร.ซาร่า กล่าว
นอกจากนี้ เชฟโรเลตได้เปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คู่รัก ครอบครัวคนรุ่นใหม่ “มอส-ปฏิภาณ ปฐวีกานต์ และ คุณเกม-ดวงพร ลือกิตินันท์” เพื่อเป็นตัวแทนในการนำเสนอ บอกเล่าเรื่องราวของสมรรถนะ อุปกรณ์ที่มีเทคโนโลยีก้าวล้ำ และความสะดวกสบายอันครบครันของ เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ ให้กลุ่มเป้าหมายได้สัมผัสถึงความเหนือกว่าของการใช้ชีวิตได้อย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น
เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ มาพร้อมรูปลักษณ์ที่ล้ำสมัยและสะดุดตายิ่งขึ้น กระจังหน้าสองชั้น (ดูอัลพอร์ท) เอกลักษณ์เฉพาะของเชฟโรเลต พร้อมแผงกันชนหน้า และฝากระโปรงหน้าดีไซน์ใหม่ เพิ่มภาพลักษณ์ดุดันด้วยโคมไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์เปิด-ปิดอัตโนมัติ ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ และล้ออัลลอยขนาดใหญ่ที่มีให้เลือกทั้งขนาด 17 18 และ 19 นิ้ว สำหรับห้องโดยสารได้รับการออกแบบใหม่เช่นกัน ตกแต่งด้วยเมทัลลิก และการใช้วัสดุสีโทนสว่างเพื่อเพิ่มความโปร่งโล่งและทันสมัย เบาะที่นั่งหุ้มหนังตัดเย็บอย่างประณีตรองรับผู้โดยสาร 5 หรือ 7 ที่นั่งพร้อมระบบปรับอากาศบริเวณที่นั่งแถวที่ 3 โดยเมื่อพับเบาะแถวที่ 3 ราบลงจะมีปริมาตรในการขนสัมภาระอยู่ที่ 465 ลิตร เมื่อปรับเบาะแถวที่ 2 ลงทั้งหมดจะเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระได้อย่างอเนกประสงค์ถึง 930 ลิตร รองรับทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต
เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ ได้รับการติดตั้งระบบเบรกมือไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรถระดับนี้ซึ่งไม่เพียงเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน ยังเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระบริเวณคอนโซลกลางด้วย พร้อมติดตั้งหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้วและระบบนำทางเนวิเกเตอร์ มาตรวัดเรืองแสงดีไซน์ใหม่ ระบบเครื่องเสียงแบบสามมิติ (3 Dimensional Sound Staging) พวงมาลัย 4 ก้านแบบมัลติฟังก์ชั่นที่ผู้ขับขี่สามารถควบคุมความเร็ว เครื่องเสียง และระบบปรับอากาศได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส ครั้งแรกในรถระดับนี้
สำหรับเครื่องยนต์ของ เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ ทรงพลังยิ่งขึ้นกับขุมพลังเบนซิน 4 สูบ ความจุ 2.4 ลิตร DOHC พร้อมระบบ Double CVC หรือแคมชาฟท์แปรผันคู่ต่อเนื่อง ให้พละกำลังสูงสุด 168 แรงม้าที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 229 นิวตัน-เมตรที่ 4,600 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Driver Shift Control (DSC) ให้ผู้ขับขี่ปรับเปลี่ยนเกียร์ได้เองแบบเกียร์ธรรมดา พร้อมมีสวิทช์ปรับสู่โหมดการขับขี่แบบประหยัด (ECO) ช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ตอบสนองต่อการใช้งานทั้งในเมือง และทางไกล รวมถึงการท่องเที่ยวในเชิงออฟโรดได้อย่างเต็มที่ขุมพลังของเชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ ยืดหยุ่นด้วยการรองรับเชื้อเพลิงเฟล็กซ์ฟิว E85 ผู้ขับขี่สามารถเลือกใช้น้ำมันได้หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเบนซินทั่วไป หรือ น้ำมันเบนซินผสมเอทานอล อาทิ E10 ไปจนถึง E20 และ E85 ซึ่งมีเอทานอลผสมอยู่ถึง 85% และใช้น้ำมันเบนซินเพียงแค่ 15% เท่านั้น ถือเป็นรถอเนกประสงค์รุ่นแรกที่ใช้เชื้อเพลิงเฟล็กซ์ฟิว E85 โดยปัจจุบันน้ำมันเชื้อเพลิง E85 มีราคาถูกกว่าน้ำมันเบนซินทั่วไปราว 15 บาท (ณ วันที่ 22 มิถุนายน) ซึ่งนอกจากจะช่วยลดค่าใช้จ่ายแล้ว ยังลดการพึ่งพาน้ำมันเบนซิน และลดปริมาณมลพิษออกสู่สิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย
“เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ เป็นรถอเนกประสงค์ที่ได้รับการพัฒนามาเพื่อตอบสนองต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันของครอบครัวคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง พร้อมกับรองรับกิจกรรมแบบแอดเวนเจอร์ และอีกหลากหลายกิจกรรมในทุกไลฟ์สไตล์ในช่วงสุดสัปดาห์ ขณะเดียวกันยังให้ความหรูหราสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายในทุกการเดินทางอีกด้วย เรามั่นใจว่าด้วยคุณสมบัติอันเพียบพร้อมนี้ เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ จะประสบความสำเร็จเพิ่มมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม” มร.ซาร่า กล่าว
ระบบกันสะเทือนของ เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ เป็นแบบอิสระ แม็คเฟอร์สันสตรัทที่ด้านหน้า และใช้ระบบช่วงล่างอิสระยึด 4 จุด มัลติ-ลิงค์ที่ด้านหลัง ซึ่งได้รับการพัฒนาเพื่อเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ โดยมีระบบขับเคลื่อนให้เลือก คือ 2 ล้อ และ 4 ล้อ (All Wheel Drive) ควบคุมด้วยอิเลกทรอนิคส์ซึ่งจะกระจายแรงขับเคลื่อนสู่ล้อทั้งสี่อย่างสมดุล
ระบบความปลอดภัยเต็มพิกัด ถุงลมนิรภัยคู่หน้าเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมเพิ่มม่านถุงลมนิรภัยบริเวณด้านข้างของห้องโดยสารป้องกันศีรษะของผู้ขับขี่ และผู้โดยสารในกรณีเกิดการชนด้านข้าง ระบบดิสก์เบรก 4 ล้อแบบมีครีบระบายความร้อนที่เบรกคู่หน้า พร้อมระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบเสริมแรงเบรกแบบไฮโดรลิก (HBA) และระบบกระจายแรงเบรกอัตโนมัติ (EBD) นอกจากนี้ ยังมีระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control) ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESP) รวมถึงระบบป้องกันการพลิกคว่ำ (ARP) ระบบช่วงล่างยกตัวอัตโนมัติ (Self-Levelizer) ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control) และอ็อปชั่นพิเศษสำหรับ เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ คือ ระบบควบคุมป้องกันการไหลของรถเมื่อขึ้นทางลาดชัน (Hill Start Assist) ช่วยป้องกันรถไหลลงทางลาดชันในขณะออกตัว
สีสันตัวถังภายนอกมีให้เลือก 5 สีคือ สีขาว Alpine White สีดำ Black Sapphire สีเทา Royal Gray และสีเงิน Sterling Silver พร้อมกับมีสีสุดพิเศษสำหรับแคปติวาใหม่โดยเฉพาะ คือสีน้ำตาล Auburn Brown ในราคาเริ่มต้นที่ 1,198,000 บาท จนถึง 1,580,000 บาท
เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ จะเปิดตัวสู่สาธารณชนที่ลานพาร์ค พารากอน ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 29 — 31 กรกฎาคมนี้