กรุงเทพฯ--23 มิ.ย.--มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
ปิดฉากลงอย่างสวยงาม สำหรับการแข่งขัน ABU Robot Contest Thailand 2554 ซึ่งก็เป็นไปตามความคาดหมาย แชมป์สมัยที่ 3 ตกเป็นของทีมลูกเจ้าแม่คลองประปา เดอะลิมิเต็ด จากมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ซึ่งเอาชนะ ทีมซุ้มกอ จากวิทยาลัยเทคนิคกำแพงเพชรไปได้ 2 ต่อ3 เกมส์ ในรอบชิงแชมป์ประเทศไทย รับเงินรางวัล 100,000 บาทและถ้วยรางวัลไปครอง พร้อมเตรียมเป็นตัวแทนประเทศไทยในการแข่งขันหุ่นยนต์นานาชาติ ABU Asia-Pacific Robot Contest 2011, Bangkok ในวันที่ 28 สิงหาคมศกนี้ โดยประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการแข่งขัน
สำหรับการแข่งขัน ABU Robot Contest Thailand 2554 ภายในงานถนนเทคโนโลยี ซึ่งจัดโดยบริษัทอสมท จำกัด(มหาชน) ณ อิมแพคเมืองทองธานีที่ผ่านมา มีนักศึกษาทั้งระดับอุดมศึกษา และอาชีวศึกษา ผ่านเข้าร่วมการแข่งขันทั้งสิ้น 32 ทีมแบ่งออกเป็นระดับอุดมศึกษา 16 ทีม และ อาชีวะศึกษา 16 ทีม การคัดเลือกรอบแรกจาก 32 ทีมให้เหลือ 16 ทีม รอบที่สองเหลือ 8 ทีม จากนั้นคัดเลือกในรอบรองชนะเลิศ 4 ทีม และรอบตัดสิน 2ทีมสุดท้าย
โดยจะให้หุ่นยนต์ซึ่งแต่ละทีมสร้างหุ่นยนต์ทั้งหมดไม่เกิน 3 ตัว ประกอบด้วย หุ่นยนต์บังคับด้วยมือ และ หุ่นยนต์อัตโนมัติ 1 หรือ 2 ตัว ทั้งหุ่นยนต์แบบบังคับมือ และหุ่นยนต์อัตโนมัติ ประกอบกระทง ตั้งแต่ฐานกระทง กลีบกระทง ดอกไม้ ธูป และเทียน ซึ่งการประกอบอุปกรณ์แต่ละส่วนจะมีคะแนนให้ หุ่นยนต์ทีมใดสามารถประกอบกระทงได้ครบถ้วนและลอยกระทงได้ก่อนภายในเวลา 3 นาที จะถือว่าชนะ แต่หากไม่มีทีมใดชนะแบบลอยกระทงได้ภายในเวลาที่กำหนด ทีมที่ได้คะแนนสูงสุดจะเป็นผู้ชนะ
ดร.ณรงค์เดช กีรติพรานนท์ หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจที่ทีมหุ่นยนต์สามารถรักษามาตรฐาน และพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องการจะได้รางวัลชนะเลิศต้องผ่านสิ่งท้าทาย และบททดสอบ อย่างมากแต่พวกเราสามารถทำได้ ซึ่งการเตรียมตัวหลังจากนี้เพื่อลงสนามระดับนานาชาติ เนื่องจากเราเคยเป็นตัวแทนประเทศไปแข่งขันระดับนานาชาติมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แต่มาแข่งในประเทศไทยจึงจะต้องมีการเตรียมตัวให้มากขึ้น ทั้งเรื่องของ เตรียมหุ่นยนต์ให้พร้อมสำหรับการแข่งขัน การเตรียมทีมงาน ให้มีความพร้อมทั้งด้านความรู้และทักษะในการทำหุ่นยนต์ รวมทั้งด้านภาษาเพื่อให้สามารถสื่อสารกับเพื่อนๆจากต่างประเทศได้ รวมถึงการเตรียมเป็นเจ้าภาพที่ดี เพราะการแข่งขันหุ่นยนต์นี้ เป้าหมายหลักไม่เพียงแค่แข่งขันเท่านั้นแต่ยังมีการแบ่งปัน และเรียนรู้ร่วมกันของเยาวชน เราจึงต้องเป็นทั้งตัวแทนและเป็นเจ้าภาพที่ดีด้วย
“ในฐานะที่ไทยเป็นเจ้าภาพ คิดว่าเรามีข้อได้เปรียบมาก อย่างน้อยก็ในสนามแข่งขัน เพราะเคยผ่านการใช้สนามลักษณะนี้มาแล้ว ทำให้เข้าใจคุณสมบัติของอุปกรณ์และสนาม รวมทั้งมีความคุ้นเคยภาษาและกติกาการแข่งขัน ทุกปี ภาษาที่ใช้จะขึ้นกับประเทศเจ้าภาพ ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษ ทำให้อาจจะเกิดความไม่เข้าใจในการแข่งขัน ซึ่งปีนี้น่าจะมีความคุ้นเคยมากกว่า ไม่ว่าจะใช้ภาษาไทยหรืออังกฤษ นอกจากนี้ กรณีที่หุ่นยนต์ขัดข้องหรือต้องการอะไหล่จะสามารถหาได้ง่าย เพราะรู้แหล่งการจัดซื้ออยู่แล้วอาหาร และวัฒนธรรม ที่คุ้นเคย ทำให้ไม่ต้องเรียนรู้และปรับตัว ที่สำคัญ แรงเชียร์จากคนไทย ที่จะเป็นกำลังใจและให้การสนับสนุนทีมตัวแทนประเทศไทยได้เป็นอย่างดี” ดร.ณรงค์เดช กล่าว
สำหรับ ทีมลูกเจ้าแม่คลองประปา มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ที่ผ่านมาได้ลงสนามแข่งขันในระดับนานาชาติมาแล้ว 2 สนาม คือ พ.ศ 2552 ที่ประเทศญี่ปุ่น ชื่อการแข่งขัน “ร่วมตะลุย ลั่นกลองชัย” พ.ศ 2553 ที่ประเทศอียิปต์ ชื่อการแข่งขัน “บุกอารยธรรมอียิปต์ พิชิตมหาพีระมิดแห่งกิซ่า” และปีล่าสุด ที่กำลังจะเกิดขึ้นโดยประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพอีกครั้ง ภายใต้ชื่อการแข่งขัน“ลอยกระทง จุดประกายความสุขด้วยมิตรภาพ” มีการออกแบบเกมการแข่งขัน เพื่อให้ทีมผู้เข้าร่วมแข่งขัน มีความเพลิดเพลินร่วมไปกับการแข่งขัน ซึ่งจะมีการร่วมมือกันระหว่างหุ่นยนต์ทั้งสองฝ่าย ในขณะแข่งขัน นำเรื่องราวจากวัฒนธรรมประเพณีของไทย มาประยุกต์เข้ากับกติกาการแข่งขัน
ทั้งนี้ การแข่งขันหุ่นยนต์นานาชาติ ABU Asia-Pacific Robot Contest (ABU Robocon)นั้น เริ่มต้นในปี พ.ศ. 2545 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และประเทศสมาชิกผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเป็นประจำทุกปี โดยปี พ.ศ. 2546 ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพครั้งแรก ต่อด้วยประเทศเกาหลี จีน มาเลเซีย เวียดนาม อินเดีย ญี่ปุ่น และอียิปต์ ตามลำดับกระทั่งปีล่าสุด คือ 2554 เป็นปีที่ครบรอบทศวรรษของการแข่งขัน ประเทศไทยได้รับเกียรติ ให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันอีกครั้ง
อย่างไรก็ดี ทีมลูกเจ้าแม่คลองประปา เดอะลิมิเต็ด จากมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์และทีมซุ้มกอจากวิทยาลัยเทคนิคกำแพงเพชร จะร่วมแข่งขันหุ่นยนต์นานาชาติ เอบียู เอเชีย-แปซิฟิก โรบอท คอนเทสต์ 2011 เนื่องจากตามกติกาประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ได้รับสิทธิ์ส่งทีมลงแข่งขันได้ 2 ทีม สามารถส่งแรงเชียร์และเป็นกำลังใจให้สำหรับตัวแทนเยาวชนไทยได้ ในการแข่งขันชิงแชมป์ระดับนานาชาติ ไปแข่งขันกับทีมจากประเทศต่าง ๆ 19 ประเทศทั่วโลก วันที่ 28 ส.ค.นี้ ณ อิมแพค เมืองทองธานี