กรุงเทพฯ--22 ม.ค.--สนพ.
กระทรวงพลังงาน ชวนประชาชนร่วมชื่นชมพระอัจฉริยภาพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้านพลังงาน ส่งเสริมประชาชนเรียนรู้เรื่องประหยัดพลังงานและนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันอย่างพอเพียง
ดร.ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เฉลิมพระชนมพรรษา 75 พรรษา ในปีมหามงคล 2550 นี้กระทรวงพลังงาน ได้มีส่วนร่วมแสดงความจงรักภักดีถวายแด่พระองค์ท่าน ด้วยการจัดกิจกรรมสร้างความรู้ ความเข้าใจแก่ประชาชนถึงวิธีประหยัดพลังงานในชีวิตประจำวันและส่งเสริมการใช้พลังงานพอเพียงตามแนวพระราชดำริ ในกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ ถวายพระพร และพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยคณะคู่สมรสคณะรัฐมนตรี ณ บริเวณท้องสนามหลวง วันเสาร์ที่ 20 มกราคม 2550
โดยกระทรวงพลังงาน จัดนิทรรศการแสดงพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบิดาแห่งการพัฒนาพลังงานไทย ที่ทรงนำไทยให้พัฒนา การใช้พลังงานทั้งด้านไฟฟ้า ก๊าซธรรมชาติ การนำพืชผลทางการเกษตรมาผลิตเป็นพลังงานทดแทน เพื่อให้คนไทยพึ่งตนเองได้ในด้านพลังงาน การพัฒนาพลังงานทดแทนทั้งน้ำมันแก๊สโซฮอล์และไบโอดีเซล รวมทั้งพลังงานแสงอาทิตย์ ก๊าซชีวภาพ เป็นต้น ตามแนวพระราชดำริในโครงการส่วนพระองค์ และเชิญชวนประชาชนร่วมกันดำเนินรอยตามพระราชจริยวัตรของพระองค์ท่านที่ทรงใช้ไฟฟ้าและน้ำมันเชื้อเพลิงเท่าที่จำเป็น
นอกจากนี้ ยังได้จัดสร้าง “บ้านพลังงานพอเพียง” ซึ่งเป็นการจำลองบ้านทรงไทย โดยวิธีการปลูกจะดูทิศทางลม แสง และต้นไม้ เป็นหลัก เพื่อให้บ้านเย็นสบายตลอดเวลาตามวิถีชีวิตคนไทย และยังได้นำอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ตู้เย็น พัดลม โทรทัศน์ มาแสดงพร้อมคำแนะนำวิธีการใช้อย่างประหยัด นอกจากนี้ยังมีการแสดงระบบการจัดก๊าซชีวภาพจากมูลสัตว์และขยะ ที่นำมาใช้ทดแทนก๊าซ LPG และหลังจากจบงานกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติในวันเสาร์ที่ 20 มกราคม 2550 แล้ว กระทรวงพลังงานก็จะดัดแปลง “บ้านพลังงานพอเพียง” ซึ่งเป็นบ้านน็อคดาวน์ สามารถถอดแยกชิ้นส่วน แล้วนำกลับไปประกอบใช้ได้อีก มาเป็นนิทรรศการพลังงานเคลื่อนที่ เพื่อนำไปเผยแพร่และจัดแสดงให้ประชาชนในส่วนภูมิภาคได้ชมต่อไป
“พระอัจฉริยภาพและแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้านพลังงาน ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาด้านพลังงานในประเทศอย่างกว้างขวาง ซึ่งกระทรวงพลังงานได้สนองต่อพระราชปณิธานของพระองค์ท่านด้วยการดำเนินแนวนโยบายซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะสั้น เป็นนโยบายเร่งด่วนเพื่อแก้ปัญหาพลังงานของประเทศ เช่น การผลักดันให้เกิดการใช้ไบโอดีเซลสำหรับรถยนต์ และ ระยะยาว อันเป็นนโยบายเพื่อการวางพื้นฐาน การพัฒนาพลังงานของประเทศให้มีความมั่นคงและยั่งยืน สอดคล้องกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สมดังพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงอยากเห็นคนไทยสามารถพึ่งพาตนเองได้ ลดการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศให้มากที่สุด” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานกล่าว