กรุงเทพฯ--28 มิ.ย.--ทริสเรทติ้ง
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ที่ระดับ “AA” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงบริการเดินอากาศที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ต่อประเทศ รวมถึงสถานะของบริษัทในการเป็นผู้ให้บริการเดินอากาศเพียงรายเดียวในประเทศไทย สถิติด้านความปลอดภัยที่ดี และคณะผู้บริหารที่มีความสามารถและประสบการณ์ นอกจากนี้ การได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลยังเป็นปัจจัยสำคัญที่เพิ่มสถานะเครดิตให้แก่บริษัทด้วย อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากภาระหนี้จำนวนมากของบริษัทและความเสี่ยงของอุตสาหกรรมการบินที่เกิดจากปัจจัยภายนอกหลายประการที่ไม่สามารถควบคุมได้
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนสถานะของบริษัทในการเป็นผู้ให้บริการจราจรทางอากาศเพียงรายเดียวของประเทศ ตลอดจนการสนับสนุนจากรัฐบาลไทย และผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม ทั้งอันดับเครดิตและแนวโน้มอาจมีการเปลี่ยนแปลงหากบริษัทไม่สามารถสร้างความสมดุลระหว่างรายรับและรายจ่าย ตลอดจนรักษาสถานะสภาพคล่องให้เพียงพอในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าได้
ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทยเป็นรัฐวิสาหกิจที่มีรัฐบาลไทยถือหุ้น 91% และที่เหลืออีก 9% ถือหุ้นโดยบริษัทสายการบินต่าง ๆ รัฐบาลไทยในฐานะรัฐภาคีขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization -- ICAO) ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบให้ความปลอดภัยในบริการขนส่งทางอากาศเหนือน่านฟ้าประเทศไทยได้มอบหมายให้บริษัทเป็นผู้ให้บริการจราจรทางอากาศ ซึ่งรวมถึงระบบและเทคโนโลยีสำหรับการเดินอากาศของประเทศซึ่งถือเป็นบริการหลักในการให้ความปลอดภัยแก่การขนส่งทางอากาศ ในปัจจุบันบริษัทเป็นผู้ให้บริการดังกล่าวเพียงรายเดียวของประเทศ โดยมีพื้นที่รับผิดชอบครอบคลุมเขตแถลงข่าวการบินกรุงเทพฯ (Bangkok Flight Information Region -- BKK FIR) พร้อมขอบเขตการให้บริการทั้งในส่วนของการจราจรทางอากาศ ข่าวสารการเดินอากาศ และเทคโนโลยีการเดินอากาศตามมาตรฐานและระเบียบวิธีขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า การดำเนินงานของบริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทยขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลเป็นสำคัญ โดยงบประมาณการลงทุนต้องได้รับการเห็นชอบจากกระทรวงคมนาคมและคณะรัฐมนตรี ส่วนงบประมาณดำเนินการต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการของบริษัทซึ่งส่วนใหญ่ประกอบด้วยผู้แทนจากกระทรวงการคลังและกระทรวงคมนาคม โดยคณะกรรมการของบริษัทจำนวน 9 คนจาก 11 คนได้รับการแต่งตั้งโดยรัฐบาล ส่วนอีก 2 คนเป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นที่เป็นบริษัทสายการบินสมาชิก ในขณะที่โครงสร้าง/อัตราค่าบริการควบคุมจราจรทางอากาศต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการการบินพลเรือน
รายได้ของบริษัทมากกว่า 90% มาจากการให้บริการจราจรทางอากาศ รูปแบบการคิดค่าบริการเป็นลักษณะที่ต้องชดเชยต้นทุนที่เกิดขึ้นเนื่องจากบริษัทเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร โดยค่าบริการเรียกเก็บจากบริษัทสายการบินที่ได้ต่ำกว่าต้นทุนในบางปีจะได้รับการชดเชยจากค่าบริการเรียกเก็บที่มากกว่าต้นทุนในปีถัดไป ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา บริษัทมีค่าบริการรอเรียกเก็บสะสมจากบริษัทสายการบินสมาชิกเพิ่มขึ้นจำนวนมากเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยและความวุ่นวายทางการเมืองในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาซึ่งส่งผลทำให้ปริมาณเที่ยวบินลดลงต่ำกว่าประมาณการ อย่างไรก็ตาม ค่าบริการรอเรียกเก็บจากบริษัทสายการบินสมาชิกลดลงมาอยู่ที่ระดับ 181 ล้านบาทในปีงบประมาณ 2553 เทียบกับ 531 ล้านบาทในปีงบประมาณที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการที่บริษัทมีรายได้รวมเพิ่มสูงขึ้น 7% สู่ระดับ 5,219 ล้านบาทในปีงบประมาณ 2553 เนื่องจากปริมาณเที่ยวบินเพิ่มขึ้น 9.1% ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตาม การที่บริษัทยังมีค่าบริการรอเรียกเก็บจากบริษัทสายการบินสมาชิกอยู่นั้นเนื่องจากบริษัทมีค่าใช้จ่ายคงที่อยู่ในระดับสูงและไม่สามารถเพิ่มค่าธรรมเนียมให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทุกประเภทได้ เงินทุนจากการดำเนินงานของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 181 ล้านบาทในปีงบประมาณ 2552 เป็น 518 ล้านบาทในปีงบประมาณ 2553 ส่งผลให้อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมเพิ่มขึ้นจาก 3.3% ในปีงบประมาณ 2552 เป็น 9.7% ในปีงบประมาณ 2553 ทั้งนี้ คาดว่าบริษัทจะมีค่าบริการเรียกเก็บเกินจากบริษัทสายการบินสมาชิกเพิ่มขึ้นในปีงบประมาณ 2554 เนื่องจากปริมาณเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2554 จากการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจโลกและสถานการณ์ทางการเมืองที่สงบลงในครึ่งหลังของปีงบประมาณ 2554 ซึ่งต่างจากปีที่ผ่านมา เมื่อพิจารณาจากพื้นฐานการคาดการณ์ที่เศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวและการปรับเพิ่มค่าธรรมเนียมแล้วคาดว่าบริษัทจะสามารถลดจำนวนค่าบริการที่รอเรียกเก็บสะสมจากบริษัทสายการบินสมาชิกได้หมดภายใน 5 ปี
อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทอยู่ที่ระดับประมาณ 88% ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนดังกล่าวจะเพิ่มสูงขึ้นใน 2-3 ปีข้างหน้าเนื่องจากบริษัทมีแผนการลงทุนในโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบบริการการเดินอากาศมูลค่า 4,460.31 ล้านบาท โดยจะใช้เงินกู้ยืมมาใช้ในการลงทุน โครงการดังกล่าวประกอบด้วย การจัดตั้งศูนย์บริหารการจราจรทางอากาศ การเพิ่มขีดความสามารถของระบบเทคโนโลยีจราจรทางอากาศ การพัฒนาระบบเชื่อมต่อโครงข่ายการบริการจราจรทางอากาศทั่วประเทศ และการจัดซื้ออากาศยานบินทดสอบจำนวน 2 ลำ การลงทุนดังกล่าวจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการเป็นผู้ให้บริการการเดินอากาศในระดับภูมิภาค แม้ว่าฐานะการเงินของบริษัทจะอ่อนตัวลง แต่สถานะทางธุรกิจยังคงแข็งแกร่งจากการมีสถานภาพเป็นผู้ให้บริการจราจรทางอากาศเพียงรายเดียวและได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างเต็มที่ ทริสเรทติ้งกล่าว
บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (AEROTHAI)
อันดับเครดิตองค์กร: คงเดิมที่ AA
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable (คงที่)