กรุงเทพฯ--24 ม.ค.--สตาร์ พีอาร์
ไม่ว่าจะด้วยฝูงบิน, การเปิดตัว 16 เส้นทางบินใหม่, การปฏิรูปโปรแกรมสะสมไมล์ในรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร รวมถึงการได้รับรางวัลผู้นำสายการบินใหม่ติดต่อกันเป็นปีที่สาม สิ่งเหล่านี้ล้วนถือเป็นการยืนยันความสำเร็จของสายการบินเอทิฮัดในปี 2549 ที่ผ่านมา
สายการบินเอทิฮัด สายการบินแห่งชาติของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในการดำเนินธุรกิจและมีอัตราเติบโตต่อเนื่องต่อไปในปี 2550
มร. เจมส์ โฮเกน ซีอีโอของสายการบินเอทิฮัดกล่าวว่า “ในช่วงเวลา 12 เดือนที่ผ่านมาเอทิฮัดได้ก้าวผ่านการปฏิรูปธุรกิจในหลากหลายแง่มุม ซึ่งทำให้เราสามารถขึ้นไปยืนอยู่ในแถวหน้าของอุตสาหกรรมการบินได้อย่างเต็มภาคภูมิ”
มร. เจมส์ โฮเกน กล่าวเสริมว่า “จากรางวัลแห่งความสำเร็จของที่นั่งโดยสารในชั้นเพิร์ลโซน (ชั้นธุรกิจ) ไปจนถึงการขยายจุดหมายปลายทางท่องเที่ยว รวมถึงการเพิ่มจำนวนเส้นทางบินต่างๆ เอทิฮัดได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการให้บริการด้านการบิน ซึ่งได้กลายเป็นแนวทางให้กับธุรกิจการบินอื่นๆ ตลอดปี 2549 และเรามั่นใจว่า จะเดินหน้าตามที่ได้ตั้งใจไว้อย่างต่อเนื่องในปี 2550 และต่อๆไป”
ในเดือนสิงหาคม ทางสายการบินฯได้คิดค้นโปรแกรมสำหรับอาคันตุกะผู้ทรงเกียรติที่ใช้บริการของสายการบินเอทิฮัดอย่างต่อเนื่องด้วยการเปิดตัวโปรแกรม “เอทิฮัด เกสท์” ซึ่งได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแก่ลูกค้าสายการบินที่นับวันจะให้ความสำคัญในการใช้บริการมากขึ้นเรื่อยๆ โดยสมาชิกจะได้รับความสะดวกและสิทฺธิพิเศษต่างๆ รวมถึงทางเลือกในการชำระเงิน ทำให้โปรแกรมนี้ได้รับคำชมเชยจากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมการบิน และยังได้รับการตอบรับในการเป็นสมาชิกจากอาคันตุกะผู้ทรงเกียรติมากถึง 70,000 ราย จาก 136 ประเทศทั่วโลก
สายการบินเอทิฮัดตอกย้ำความสำเร็จอีกครั้งกับการคว้ารางวัลจากงาน World Travel Awards (WTA) ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยสายการบินเอทิฮัดไม่เพียงแต่ได้รับรางวัลในสาขาผู้นำในกลุ่มสายการบินใหม่ของโลก (The World’s Leading New Airline) ติดต่อกันเป็นปีที่ 3 เท่านั้น แต่ยังได้รับรางวัลผู้นำสำหรับที่นั่งโดยสารชนิดปรับนอนราบที่ดีที่สุดของโลก (The World’s Leading Flat-bed Seat) อีกด้วย
ในปี 2549 สายการบินเอทิฮัดเปิดตัวจุดหมายปลายทางใหม่ทั่วโลกทั้งหมด 16 แห่ง ประกอบด้วยคาซาบลังกา จาการ์ตา คาร์ทูม นิวยอร์ก ปารีส ดักกา โดฮา อิสลามาบัด เจดดาห์ คูเวต ลาฮอร์ แมนเชสเตอร์ มะนิลา มัสกัต เพชาวา และเตหะรานได้อีกด้วย
ในปี 2550 นี้ สายการบินเอทิฮัดได้ตั้งเป้าว่าจะมีจำนวนอาคันตุกะผู้ทรงเกียรติมาใช้บริการทั้งสิ้น 4 ล้านคน ภายหลังจากที่มีการเปิดให้บริการใน 37 เส้นทางการบินใหม่ ซึ่งได้เปิดให้บริการแล้วในช่วงระยะเวลา 37 เดือนที่ผ่านมา รวมถึงการเริ่มเปิดให้บริการในเส้นทางสู่นิวยอร์กเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และสำหรับเส้นทางที่จะให้บริการเป็นเส้นทางต่อไปคือ กัวลาลัมเปอร์ ซึ่งจะเริ่มต้นให้บริการในวันที่ 16 มกราคม 2550 นี้
ปัจจุบัน 80% ของสัดส่วนเครื่องบินในฝูงบินของสายการบินเอทิฮัดล้วนเป็นเครื่องบินลำใหม่ ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่พบเห็นได้ไม่บ่อยนักในวงการธุรกิจการบิน จึงถือได้ว่า เป็นหนึ่งในฝูงบินที่ใหม่ที่สุดในโลก โดยเครื่องบินลำที่ 23 ของฝูงบิน ซึ่งเป็นเครื่องบินแอร์บัสรุ่น A340-500 ภายในประกอบด้วยที่นั่ง 3 โซน ก็เพิ่งเดินทางมาถึงอาบูดาบีในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
เครื่องบินแอร์บัสรุ่น A340-500 เป็นเครื่องบินรุ่นที่สายการบินได้สั่งซื้อเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 8 พันล้านเหรียญ โดยได้เริ่มการผลิตในปี 2547 จำนวน 29 ลำ ในรูปแบบของเครื่องบินแอร์บัสและโบอิ้ง ก่อนที่เครื่องบินลำล่าสุดจะเดินทางมาสมทบกับฝูงบินแอร์บัส A330-220 จำนวน 9 ลำ และโบอิ้ง 777-300 ERs อีกจำนวน 5 ลำ
จากการเติบโตอย่างน่าประทับใจในช่วงระยะเวลา 12 เดือนที่ผ่านมา ทำให้ขณะนี้สายการบินเอทิฮัดมีจำนวนพนักงานมากกว่า 3,400 คนจากกว่า 90 เชื้อชาติทั่วทุกมุมโลก
อีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญในปี 2549 ที่ผ่านมาของสายการบิน คือ การที่ที่นั่งโดยสารชั้นเพิร์ลโซน (ชั้นธุรกิจ) ซึ่งให้บริการในฝูงบินใหม่ของสายการบินเอทิฮัดทั้งในเครื่องบินแอร์บัสและโบอิ้ง ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการในอุตสาหกรรมการบิน
ด้วยความสามารถในการปรับเอนได้สูงสุดถึง 180 องศาจนแบนราบ กลายเป็นเตียงนอนที่มีขนาดยาว 6 ฟุต 1 นิ้ว พร้อมระบบนวดในตัวให้กับผู้โดยสารเพื่อความผ่อนคลายระหว่างการเดินทาง ทำให้ที่นั่งโดยสารในชั้นเพิร์ลโซน (ชั้นธุรกิจ) ของสายการบินเอทิฮัดสามารถคว้ารางวัลที่นั่งโดยสารชนิดปรับนอนราบที่ดีที่สุดของโลก (The World’s Leading Flat-bed Seat) จากงาน World Travel Awards มาครองได้
การพัฒนาที่นั่งโดยสารในชั้นไดมอนด์โซน (ชั้นหนึ่ง) ของสายการบินก็ได้รับการเปิดตัวเช่นเดียวกัน ด้วยที่นั่งที่สามารถปรับเอนได้สูงสุด 180 องศา จนกลายเป็นเตียงนอนแบนราบ และยังสามารถหมุนรอบตัวได้ถึง 180 องศา ทำให้ผู้โดยสารสามารถหันหน้าเข้าหากันเพื่อประชุมพูดคุย รับประทานอาหารร่วมกัน และสนทนาโต้ตอบกันได้อย่างสะดวกสบาย
ในส่วนแผนกขนส่งสินค้าของสายการบินเอทิฮัด หรือที่เรียกว่า “เอทิฮัด คริสตัล คาร์โก้” ก็มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในระดับที่เกินความคาดหมาย ด้วยปริมาณการขนส่งที่เพิ่มขึ้นถึง 100,000 ตัน ภายในสิ้นปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นจากปี 2548 ที่มีปริมาณการขนส่งเพียง 20,000 ตัน ทำให้ทางสายการบินเอทิฮัดคาดการณ์ว่า ยอดขนส่งสินค้าในปี 2550 นี้ จะมีมากจนทะลุ 200,000 ตันได้อย่างแน่นอน
ในช่วงต้นปี 2550 ผู้โดยสารสามารถใช้บริการโปรแกรมท่องเที่ยวของเอทิฮัด ฮอลิเดย์ โดยสามารถเลือกเดินทางไปยัง 80 จุดหมายปลายทางที่ต่างกัน ด้วยโปรแกรมท่องเที่ยวที่มีให้เลือกมากถึงกว่า 300 โปรแกรมด้วยกัน
เอทิฮัด ฮอลิเดย์ ขยายตัวอย่างรวดเร็วในปี 2549 ที่ผ่านมา โดยได้เสนอทางเลือกพิเศษเพื่อการพักผ่อนในโรงแรมที่พักระดับคุณภาพในเมืองท่องเที่ยวสำคัญทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัวแผ่นพับโฆษณาใหม่โปรโมทการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวยังประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และสถานที่พักตากอากาศสำหรับการเล่นสกีในฤดูหนาวอีกด้วย
มร. โฮเกน กล่าวสรุปว่า “ปีที่ผ่านมาเป็นปีที่สำคัญและน่าจดจำยิ่งของสายการบินเอทิฮัด ไม่ว่าจะเป็นการที่อุตสาหกรรมการบินให้การยอมรับในความก้าวหน้าของเราในการประกาศรางวัล World Travel Awards เอทิฮัดมุ่งมั่นที่จะยังรักษาความเป็นผู้นำในเรื่องของจรรยาบรรณและความเติบโตในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องไปจนตลอดปี 2550”
การประสบความสำเร็จของสายการบินเอทิฮัดในปี 2549
- รางวัลจาก World Travel Awards (WTA) — รางวัลผู้นำในกลุ่มสายการบินใหม่ของโลก(The world’s leading new airline)ติดต่อกัน 3 ปีซ้อน และรางวัลการเป็นผู้นำสำหรับที่นั่งโดยสารชนิดปรับนอนราบที่ดีที่สุดของโลก (The world’s leading flat-bed seat) ประจำปี 2549
- การเปิดตัวโปรแกรมเอทิฮัด เกสท์ ซึ่งมีสมาชิกแล้วกว่า 70,000 รายจาก 136 ประเทศทั่วโลก
- การเปิดตัว 16 จุดเส้นทางการบินใหม่ รวมถึงกรุงนิวยอร์ก และกรุงปารีส
- 80%ของเครื่องบินทั้งหมดเป็นเครื่องบินใหม่
- สายการบินเอทิฮัดให้บริการผู้โดยสารได้มากถึง 1 ล้านคน ภายในระยะเวลา 3 เดือน (กรกฎาคม — กันยายน)
- สายการบินเอทิฮัดมีพนักงานมากกว่า 3,400 คนจากทั่วทุกมุมโลก ประกอบไปด้วยผู้คนจาก 94 เชื้อชาติ
- สายการบินเอทิฮัดได้ประเมินว่าการขนส่งพัสดุภัณฑ์ทางอากาศของสายการบินจะเพิ่มสูงขึ้นอีก 5 เท่าเป็น 1แสนตัน
- จุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวมากกว่า 80 แห่ง ที่มีให้เลือกกว่า 300 แห่ง
บรรยายใต้ภาพ
1. เครื่องบินแอร์บัสรุ่น A340-500 ของสายการบินเอทิฮัด
2. ที่นั่งโดยสารชั้นเพิร์ลโซน ของสายการบินเอทิฮัด
เกี่ยวกับสายการบินเอทิฮัด
สายการบินเอทิฮัด เป็นสายการบินแห่งชาติของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และเป็นหนึ่งในสายการบินที่เจริญเติบโตรวดเร็วสายการบินหนึ่ง ปัจจุบัน เอทิฮัดให้บริการเที่ยวบินสำหรับอาคันตุกะผู้ทรงเกียรติ 37 จุดหมายปลายทาง ครอบคลุมตะวันออกกลาง ยุโรป อเมริกาเหนือ แอฟริกา และเอเชีย
เอทิฮัด คริสตัล คาร์โก้ - www.crystalcargo.com — ให้บริการขนส่งพัสดุภัณฑ์ ผ่านเส้นทางบินของสายการบินเอทิฮัด ไป 47 จุดหมายปลายทางต่างๆ โดยเครื่องบินอันทันสมัยของเอทิฮัดเพื่อการขนส่งทั่วโลก
เอทิฮัด ฮอลิเดย์ - www.etihadholidays.com — เสนอทางเลือกเพื่อการเดินทางท่องเที่ยวถึง 82 จุดหมายปลายทาง ด้วยแพ็กเกจต่างๆ รวมถึงสกี, ฟลาย-ไดรฟ์ (fly-drive), ล่องเรือสำราญ, ทัวร์ต่างๆ, การหยุดพักผ่อนระหว่างการบิน, โปรแกรมสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศ, และการท่องเที่ยวภายในเมืองต่างๆ
สายการบินเอทิฮัดได้รับรางวัลผู้นำในกลุ่มสายการบินใหม่ของโลก (The world’s leading new airline) ในปี 2547 2548 และ 2549 ติดต่อกัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เอทิฮัดยังได้รางวัลผู้นำสำหรับที่นั่งโดยสารชนิดปรับนอนราบที่ดีที่สุดของโลก (The world’s leading flat-bed seat) ประจำปี 2549 จากงานส่งเสริมการท่องเที่ยวนานาชาติ หรือ World Travel Awards (WTA)
สายการบินเอทิฮัด มุ่งมั่นที่จะนำท่านไปสู่นวัตกรรมใหม่ของการเดินทาง ท่านสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสายการบินเอทิฮัดได้ที่ www.etihadairways.com
สายการบินเอทิฮัด สำนักงานกรุงเทพฯ
ชั้น 18 อาคาร เอ็ม ไทย ทาวเวอร์
ออล ซีซั่นส์ เพลส
87 ถนนวิทยุ ปทุมวัน
กรุงเทพฯ 10330
โทร 02 253 0099
แฟกซ์ 02 252 2100
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
เกษมา ไตรรัตนานุสรณ์
สตาร์ พีอาร์ จำกัด
โทร 02 653 5055
แฟกซ์ 02 653 5117
อีเมลล์ kesama@starpublicrelations.com
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net