กรุงเทพฯ--28 มิ.ย.--คปภ.
นางจันทรา บูรณฤกษ์ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า สำนักงาน คปภ. ร่วมกับสมาคมประกันวินาศภัย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กรมส่งเสริมการเกษตร และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ลงนามบันทึกความเข้าใจโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2554 เพื่อจัดทำกรมธรรม์ประกันภัยข้าวนาปีคุ้มครองเกษตรกรผู้ปลูกข้าว กรณีได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติต่างๆ ได้แก่ อุทกภัย ฝนทิ้งช่วง ลมพายุ อากาศหนาว ลูกเห็บ และอัคคีภัย (ไม่รวมภัยจากโรคระบาดและศัตรูพืช) ซึ่งความคุ้มครองแบ่งเป็น 2 ระยะคือ 60 วันแรกของการเพาะปลูกจะได้รับค่าสินไหมทดแทน ในอัตรา 606 บาท ต่อไร่ และตั้งแต่วันที่ 61 เป็นต้นไป ของการเพาะปลูก จะได้รับค่าสินไหมทดแทน 1,400 บาท ต่อไร่ โดยคิดเบี้ยประกันภัย 129 บาทต่อไร่ ซึ่งรัฐบาลจะช่วยสมทบเงินค่าเบี้ยประกันภัย 69 บาท ต่อไร่ ทั้งนี้ เกษตรกรที่ไม่ได้เป็นลูกค้าสินเชื่อ ธ.ก.ส. จ่าย 60 บาทต่อไร่ แต่หากเป็นเกษตรกร ที่เป็นลูกค้าสินเชื่อ ธ.ก.ส. จะจ่ายเบี้ยประกันภัยเอง 50 บาทต่อไร่ และ ธ.ก.ส. ช่วย สมทบ 10 บาทต่อไร่ โดยจะเริ่มขายผ่าน ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2554 เป็นต้นไป
สำหรับการทำประกันภัยนั้น เกษตรกรจะต้องนำเอกสารสิทธิแสดงที่ตั้งแปลงเพาะปลูกเป็นหลักฐาน พร้อมแจ้งจำนวนพื้นที่เพาะปลูกทั้งหมด เมื่อเกิดความเสียหายขึ้นที่แปลงเพาะปลูกข้าว บริษัทประกันภัยจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามเกณฑ์การประเมินของรัฐบาลที่ใช้ในโครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยธรรมชาติ
เลขาธิการ คปภ. กล่าวต่อว่า ปัจจุบันการเกิดภัยธรรมชาติมีแนวโน้มที่บ่อยครั้งขึ้น และรุนแรงโดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคการเกษตร การประกันภัยข้าวนาปีดังกล่าว จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนทางการเงิน และเป็นการสร้างความมั่นใจแก่เกษตรกรว่าจะได้รับการคุ้มครองผลผลิตข้าวนาปี หากได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ นอกจากนี้ จะทำให้เกษตรกรได้เรียนรู้ในการจัดการความเสี่ยงของตนเองด้วยการนำการประกันภัยเข้าไปรองรับ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่สายด่วนประกันภัย 1186