กรุงเทพฯ--29 มิ.ย.--ปตท.
ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่เกิดเหตุท่อส่งก๊าซธรรมชาติรั่ว ซึ่งเป็นท่อฯ ต่อเชื่อมระหว่างท่อฯประธานในทะเลขนาด 34 นิ้ว (ท่อเส้นที่ 1) กับท่อกิ่ง (24 นิ้ว) ที่ส่งก๊าซฯ มาจากแหล่งปลาทอง เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดยที่ ปตท. ได้ส่งอุปกรณ์สำรวจใต้น้ำ ROV (Remotely Operated Vehicle) ลงไปตรวจสอบ เพื่อจะนำข้อมูลมาประเมินและเร่งดำเนินการแก้ไขซ่อมแซมแล้ว นั้น
ทั้งนี้ จากผลการสำรวจในเบื้องต้นพบว่า ท่อฯประธานเส้นที่ 1 ขนาด 34 นิ้ว และอุปกรณ์วาล์วควบคุมการจ่ายก๊าซฯ ที่เกี่ยวข้องไม่มีความเสียหาย และหากพบว่าไม่มีน้ำทะเลไหลเข้าสู่ระบบฯ การจัดส่งก๊าซฯ ก็จะสามารถกลับมาดำเนินการได้ในระยะเวลาอันสั้น แต่หากพบว่ามีน้ำทะเลอยู่ในท่อฯ ก็ต้องใช้เวลาดำเนินการเพื่อกำจัดน้ำออกจากระบบฯ ก่อนที่จะกลับมาส่งก๊าซฯได้อีกครั้ง สำหรับท่อกิ่งขนาด 24 นิ้ว ซึ่งเกิดการแตกและฉีกขาด ปตท. อยู่ระหว่างการจัดเตรียมอุปกรณ์เพื่อส่งนักประดาน้ำลงไปปิดวาล์ว เพื่อตัดแยกระบบฯ ซึ่งคาดว่าจะสามารถปิดวาล์วได้ภายในเย็นวันเสาร์ที่ 2 กรกฎาคมนี้ หลังจากนั้นจะดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อเตรียมการซ่อมแซมต่อไป
ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน ปตท. สามารถควบคุมสถานการณ์ได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตกระแสไฟฟ้าของประเทศ และ ปตท. จะบริหารการผลิตของโรงแยกก๊าซธรรมชาติให้สอดคล้องกับความต้องการ โดยไม่มีการหยุดเดินเครื่อง ในขณะเดียวกัน ปตท. จะจัดหาเชื้อเพลิงทดแทน โดยเบื้องต้นได้จัดหาน้ำมันเตาในปริมาณ 10 ล้านลิตรต่อวัน และจัดหาก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) เพิ่มขึ้นอีกจำนวน 70,000 ตัน ซึ่งคาดว่าจะมีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการ