กรุงเทพฯ--29 ส.ค.--เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์
เครดิตบูโร ปรับลดค่าธรรมเนียมตรวจเช็คข้อมูลเครดิตเหลือ 100 บาท ลุ้นคลังไฟเขียวให้ผู้บริโภคตรวจเช็คเครดิตฟรีปีละครั้ง พร้อมดันเห็นชอบจัดทำเครดิตสกอริ่ง
เครดิตบูโรเอาใจผู้บริโภค ปรับลดค่าธรรมเนียมตรวจเช็คข้อมูลเครดิต บุคคลธรรมดาลงเหลือ 100 บาทจากเดิม 200 บาทต่อคนต่อครั้ง หวังกระตุ้นคนไทยใส่ใจเครดิต หมั่นตรวจเช็คข้อมูลเครดิต ปูทางเข้าถึงสินเชื่อจากแหล่งการเงินในระบบให้กับผู้บริโภค ระหว่างรอกระทรวงคลังไฟเขียว ให้สิทธิประชาชนหรือเจ้าของข้อมูลตรวจสอบข้อมูลเครดิตของตนได้ปีละครั้งโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทดแทนการแจ้งลูกค้าของสถาบันการเงิน พร้อมขออนุมัติให้เครดิตบูโรสามารถจัดทำเครดิตสกอริ่งได้ หลังยื่นหนังสือถึงรมว.คลังเมื่อกลางเดือนส.ค. ที่ผ่านมา คาดได้ข้อสรุปเร็วๆนี้ เดินหน้าจัดโรดโชว์ให้ความรู้ผู้บริโภคทั่วไทยดีเดย์เริ่มที่ เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน 1-2 กันยายนนี้
นายนิวัฒน์ กาญจนภูมินทร์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับลดอัตราค่าธรรมเนียมตรวจเช็คข้อมูลเครดิต กรณีบุคคลธรรมดาลงจาก 200 บาทต่อคนต่อครั้งเป็น 100 บาทต่อคนต่อครั้ง ตั้งแต่วันที่1 ตุลาคม 2550 เป็นต้นไป เพื่อลดภาระของเจ้าของข้อมูลเครดิตในการตรวจเช็คข้อมูลเครดิต ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้บริโภคเข้าถึงข้อมูลประวัติสินเชื่อของตนเองได้มากขึ้นสำหรับการตรวจสอบความถูกต้องก่อนการสมัครขอสินเชื่อจากแหล่งการเงินในระบบ
เนื่องจากรายงานข้อมูลเครดิตเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคโดยตรง จากการรวบรวมประวัติเครดิตของตนเองไว้ทุกประเภทสินเชื่อสะดวกต่อการตรวจสอบความถูกต้อง ทำให้มีโอกาสในการได้รับการพิจารณาสินเชื่อ รวมถึงการพิจารณาสินเชื่อแต่ละครั้งที่เป็นไปอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นหากเจ้าขอประวัติ มีการรักษาวินัยทางการเงินที่ดี ณ ปัจจุบันมีจำนวนประชาชนเข้ามาตรวจสอบข้อมูลตนเองเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประมาณ 4,500 รายต่อเดือน นอกจากนี้ยังมีประชาชนจำนวนมากที่ได้ติดต่อมาที่บริษัทเพื่อขอคำปรึกษาในการขอสินเชื่อและวิธีที่จะทำให้มีประวัติข้อมูลเครดิตดีขึ้น
บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติคาดว่าการปรับลดค่าธรรมเนียมตรวจเช็คข้อมูลเครดิตดังกล่าวจะช่วยจูงใจและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของคนไทยอีกจำนวนมากที่ยังไม่เคยตรวจเช็คข้อมูลเครดิตหันมาให้ความสำคัญกับข้อมูลเครดิต เพื่อประโยชน์ทางธุรกรรมการเงินของตนเองในอนาคต ซึ่งปกติบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ แนะนำให้เจ้าของเครดิตตรวจสอบข้อมูลเครดิตของตนเองอย่างน้อยปีละครั้ง ขณะที่การตรวจสอบข้อมูลเครดิตในส่วนของนิติบุคคลยังคงอัตรา 200 บาทต่อครั้งไว้เช่นเดิม
การส่งเสริมพฤติกรรมการ “รักษาเครดิต เพื่อสิทธิกู้ยืม” นับเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญในปี 2550 ของบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ ที่บริษัทต้องการผลักดันให้ประชาชนเห็นความสำคัญกับการประเมินศักยภาพทางการเงินของตนเองอย่างถี่ถ้วน เพิ่มความระมัดระวังในการขอสินเชื่อ มีวินัยในการชำระสินเชื่อที่มีอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน
ล่าสุด บริษัทเตรียมจัดรณรงค์ให้ผู้ใช้สินเชื่อมีวินัยในการรักษาเครดิตส่วนบุคคลเพื่อประโยชน์ใน การขอสินเชื่อของตนเอง ณ บริเวณซิตี้วอล์คชั้น 6 ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์งามวงศ์วาน ระหว่าง วันเสาร์-อาทิตย์ที่ 1-2 กันยายน 2550 และ งาน Money Expo ที่ จ.เชียงใหม่ ในวันที่ 19- 21 ตุลาคม 2550 นอกจากยังมีแผนที่จะร่วมงานมหกรรมต่างๆ ในช่วง 4 เดือนหลัง เพื่อกระจายความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับข้อมูลเครดิตให้แก่ประชาชนผู้สนใจ ตามนโยบายรณรงค์ให้ผู้ใช้สินเชื่อสร้างวินัยในการรักษาเครดิต เพื่อสิทธิกู้ยืม เพื่อเป็นวัคซีนทางการเงินพฤติกรรมการใช้จ่ายและการดำรงชีวิต ของผู้บริโภคตลอดจนความมั่นใจในเสถียรภาพทางการเงิน
การเดินสายรณรงค์เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยกระจายความรู้เกี่ยวกับข้อมูลเครดิตให้แก่ผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี ควบคู่ไปกับนโยบายปรับปรุงคุณภาพของการจัดเก็บข้อมูลให้มีความรวดเร็วและถูกต้องมากขึ้นเพื่อให้ผู้บริโภคมีความรู้ความเข้าใจและใช้ประโยชน์จากการจัดเก็บข้อมูลของเครดิตบูโรได้อย่างถูกต้อง
สำหรับความคืบหน้าของการผลักดันให้มีการแก้กฎหมายข้อมูลเครดิต เพื่อเปิดทางให้เครดิตบูโรสามารถจัดระดับเครดิตในลักษณะสกอริ่งได้นั้นอยู่ระหว่างการเสนอขอแก้ไขพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต พ.ศ.2545 ไปยังกระทรวงการคลังแล้วเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2550 ซึ่งหากมีการแก้กฎหมายขึ้นได้จริง จะส่งผลดีต่อผู้บริโภคในวงกว้าง ทำให้สถาบันการเงินมีการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อตามประวัติการชำระเงินของลูกค้าได้ และเป็นการสร้างมาตรฐานในการวิเคราะห์สินเชื่อ ซึ่งมั่นใจว่าเครดิตสกอริ่งจะช่วยเพิ่มให้ลูกค้าที่มีศักยภาพอยู่ในปัจจุบันที่ยังไม่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อในขณะนี้ และจะส่งผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยจากภาคการบรีโภค
นอกจากนี้ ยังให้สิทธิประชาชนหรือเจ้าของข้อมูลตรวจสอบข้อมูลเครดิตของตนได้ปีละ 1 ครั้ง โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพราะจะทำให้เจ้าของข้อมูลมองเห็นภาพรวมข้อมูลเครดิตของตน ซึ่งเป็นข้อมูลเดียวกับที่สถาบันการเงินใช้ในการวิเคราะห์สินเชื่อ นอกจากนี้ผู้บริโภคแต่ละคนมีความต้องการที่จะตรวจสอบข้อมูลของตนในเวลาที่แตกต่างกัน ดังนั้นการให้สิทธิในการกำหนดเวลาในการตรวจสอบเองย่อมเกิดประโยชน์แก่ประชาชนมากกว่า
นายนิวัฒน์ กล่าวว่า เครดิตสกอริ่งจะทำให้เกณฑ์การวิเคราะห์สินเชื่อมีความแม่นยำและรวดเร็วขึ้น เพราะเครดิตสกอริ่งจะช่วยลดปัญหา จากประวัติการค้างชำระที่เกิดขึ้นโดยไม่มีนัยสำคัญได้ อีกทั้งยังสร้างความเท่าเทียมในโอกาสของการได้รับพิจารณาสินเชื่อ แก่ผู้บริโภคในทุกระดับรายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีรายได้น้อย และผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมจะได้รับโอกาสมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ทั้งผู้ขอสินเชื่อและผู้ให้สินเชื่อยังสามารถกำหนดอัตราค่าบริการและดอกเบี้ยที่จะขึ้นกับความเสี่ยงได้อีกด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด:
คุณอัจฉรา พันธุ์โสภา ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ โทร.0-2612-5850
คุณพิมลรัตน์ ทิศาภาคย์ เลขานุการผู้จัดการใหญ่ โทร 0-2612-5899
เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์: คุณศริญญา แสนมีมา,คุณจารุรัตน์ มั่นเจริญศิริ โทร.0-2204-8218, 0-2204-8552