กรุงเทพฯ--29 มิ.ย.--จีเอ็มเอ็ม ทีวี
ประสบความสำเร็จ สร้างชื่อเสียง จนเป็นที่รู้จักทั่ววงการบันเทิง ในฐานะผู้อยู่เบื้องหลัง หนังดัง และละครฮิตมากมาย ที่อยู่ในใจแฟนๆ ทั้งประเทศ สำหรับ “ราเชนทร์ ลิ้มตระกูล” ที่ปัจจุบันอยู่ในตำแหน่ง “ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตอาวุโส” ของ “บริษัท จีเอ็มเอ็ม ทีวี จำกัด” ดูแลการผลิตละคร อาทิ ช็อกโกแลต 5 ฤดู ฯลฯ ล่าสุด “โลมา กล้าท้าฝัน” ละครสปอร์ตดราม่าโรแมนติก ออกอากาศ ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.40-21.30 น. ทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี รวมนักแสดงวัยรุ่นชั้นนำ ได้แก่ โทนี่ รากแก่น,เม้าส์ ณัชชา,หนูนา หนึ่งธิดา,เดี่ยว สุริยนต์,เจมส์ กิจเกษม,เวฟ ฯลฯ โดยเฉพาะหนุ่มๆ ที่ต้องฟิตหุ่นสุดเฟิร์ม เพื่อรับบทนักกีฬาว่ายน้ำ ซึ่งเพิ่งลาจอไปหมาดๆ เรียกว่าสร้างความฮือฮาสุดๆ ตั้งแต่ละครยังไม่ออกอากาศ และแรงขึ้นเรื่อยๆ จนเรตติ้งพุ่งกระฉูด ขนาดละครจบ แต่แฟนเพจของ “โลมาฯ” กลับแรงไม่ตก มีจำนวนแฟนที่เข้ามาคลิ๊ก Like ทะลุ 50,000 (ห้าหมื่น) แล้ว พร้อมร้องหา “โลมา กล้าท้าฝัน ภาค 2” อีกด้วย ถือเป็นผู้ผลิตละครวัยรุ่นที่น่าจับตามองมากเป็นพิเศษเลยทีเดียว
“ราเชนทร์” กล่าวว่า “ผมทำงานอยู่ “จีเอ็มเอ็ม ทีวี” มาประมาณ 2 ปี เป็นการกลับมานั่งทำงานประจำอีกครั้ง งานที่ดูแลคือการผลิตละคร มีกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มวัยรุ่น ก่อนทำผมต้องทำการบ้านเยอะ เพราะแต่ละยุคพฤติกรรมของวัยรุ่นก็เปลี่ยนไป วัยรุ่นสมัยนี้อยู่หน้าจอทีวีน้อยกว่าหน้าจอคอมพิวเตอร์ เพียงแต่เรื่องที่คุยไม่ต่างจากทุกยุคทุกสมัย คือเรื่องราวความรัก เป้าหมายในชีวิต อนาคตข้างหน้า ผมจึงนำมาประมวลว่าสิ่งที่เราทำต้องสนุก และสร้างสรรค์ และบวกข้อที่สำคัญมากๆ คือแตกต่าง และเป็นตัวของตัวเองครับ
สำหรับละคร “โลมา กล้าท้าฝัน” ตอนที่ทำไม่คิดว่าจะแรงขนาดนี้ ซึ่งผมคงพูดเองไม่ได้ว่าประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน แต่ดูจากสภาพแวดล้อมรอบข้าง อย่าง มีผู้อำนวยการศูนย์กีฬาฯ แห่งหนึ่ง ท่านดูละครแล้วชอบมาก เลยเสนอจะให้ยืมสถานที่ถ่ายทำละคร ซึ่งเป็นศูนย์กีฬาเปิดใหม่เพิ่งสร้างเสร็จ และยังไม่เคยมีใครเข้าไปใช้ถ่ายทำเลย แต่ตอนนั้นละครเราจะปิดกล้องแล้ว ท่านผู้อำนวยการเลยบอกมาว่า ถ้ามี “โลมาฯ” ภาค 2 ให้มาถ่ายทำที่นี่ได้เลย เพราะอยากสนับสนุนละครที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเยาวชนกับกีฬา ซึ่งไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายเราที่เป็นวัยรุ่นเลยด้วยซ้ำ ที่สำคัญคือยอดคลิ๊ก like จากแฟนๆ วัยรุ่น ในแฟนเพจ “โลมาฯ” ถล่มทลายทะลุ 5 หมื่นไปแล้ว ทำให้เห็นชัดมาก ขนาดละครจบไปแล้ว แต่ยอดในแฟนเพจ ยังเพิ่มขึ้นทุกวัน รวมถึงถามหาภาค 2 กันเข้ามาเยอะมากด้วย ก็รู้สึกเป็นปลื้ม ที่ละครได้รับเสียงตอบรับขนาดนี้ ช่วยทำให้ผมและทีมงานทุกๆ คนมีกำลังใจในการทำงาน โดยเฉพาะการผลิตละครวัยรุ่นดีๆ ที่มีครบทุกอารมณ์ และสร้างสรรค์สังคมต่อไปครับ”