กรุงเทพฯ--8 มี.ค.--สาลี่อุตสาหกรรม
"สาทิส"ปลื้มผลประกอบการปี 2549 ทั้งยอดขายและกำไรขยายตัว สวนกระแสเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ส่วนปีนี้มั่นใจผลประกอบการจะเติบโตต่อเนื่อง ตามอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ยังมีการเติบโตที่ดี โดยในปี 2550 จะรับรู้รายได้จาก"เอสซี วาโด"เข้ามาเต็มปี
นายสาทิส ตัตวธร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สาลี่อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) (SALEE)เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยประจำปี 2549 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2549 ซึ่งบริษัทมีกำไรสุทธิ 36.93 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นประมาณ 27% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2548 ที่มีกำไรสุทธิ 29.12 ล้านบาท มีสาเหตุเนื่องมาจากยอดขายของบริษัทได้เพิ่มขึ้นจาก 380 ล้านบาท ในปี 2548 เป็น 631 ล้านบาท ในปี 2549 หรือคิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นประมาณ 66% เนื่องจากอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ยังมีการเติบโตที่ดี
สำหรับทิศทางธุรกิจในปี 2550 บริษัทมั่นใจว่าจะขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง จากกลุ่มลูกค้าของบริษัทอยู่ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ที่ยังมีแนวโน้มเติบโตที่ดี และที่ผ่านมาได้ขยายฐานไปยังกลุ่มลูกค้าที่เป็นบริษัทข้ามชาติเพิ่มขึ้นด้วย ขณะเดียวกันในปีนี้ จะมีการรับรู้รายได้จากบริษัท เอสซี วาโด จำกัด เข้ามาเต็มปีอีกด้วย
"คาดว่าในปี 2550 บริษัทจะสามารถสร้างรายได้ให้เติบโตได้ประมาณ 30% หรือคิดเป็นยอดขายรวมไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมา ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นเมื่อเทียบกับปีก่อนน่าจะมีโอกาสปรับตัวดีขึ้น เนื่องด้วยการพยายามลดต้นทุนด้านต่าง ๆ รวมทั้งการขยายไปทำธุรกิจต้นน้ำในปีที่แล้ว"
เขากล่าวต่อในช่วงท้ายถึงทิศทางของราคาน้ำมันที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงและประเด็นของอัตราแลกเปลี่ยน จากเงินบาทที่ยังคงแข็งค่า ว่าไม่มีผลกระทบกับบริษัทมากนัก โดยสามารถบริหารจัดการได้เป็นอย่างดี และแม้ว่าในอนาคตต้นทุนในการผลิตสินค้าจะปรับเพิ่มขึ้น แต่บริษัทก็สามารถปรับราคาเพิ่มขึ้นตามราคาวัตถุดิบที่เปลี่ยนแปลงไปได้
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการ บมจ.สาลี่อุตสาหกรรม ครั้งที่ 1/2550 ได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานประจำปี 2549 ในอัตราหุ้นละ 0.06 บาท (หกสตางค์) โดยกำหนดปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลดังกล่าว ในวันที่ 17 เมษายน 2550 เวลา 12.00 น. ทั้งนี้ กำหนดจ่ายเงินปันผลดังกล่าวในวันที่ 27 เมษายน 2550
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม : จุฬารัตน์ เจริญภักดี 089-488-8337