กรุงเทพฯ--18 ก.ค.--บีโอไอ
บีโอไอเปิดให้การส่งเสริมการลงทุนแก่กิจการผลิตแคลเซียมออกไซด์ และแคลเซียมคาร์บอเนต อีกครั้ง เพราะมีความต้องการใช้เพิ่มในหลายอุตสาหกรรม อาทิ เหล็ก กระดาษ น้ำตาล เคมี ก่อสร้างและเกษตร คาดการณ์ปี 2553 มีความต้องการใช้ถึง 9.6 แสนตัน
นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ว่า เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ผลิตแคลเซียมออกไซด์ และแคลเซียมคาร์บอเนตชนิดตกผลึกในประเทศค่อนข้างน้อย ประกอบกับมีความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ในอุตสาหกรรมต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ที่ประชุมจึงเห็นชอบให้บีโอไอเปิดให้การส่งเสริมผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 ประเภทอีกครั้ง โดยให้ได้รับสิทธิประโยชน์ตามเกณฑ์ปกติ หลังจากที่บีโอไอได้ปิดการให้ส่งเสริมไปเมื่อปี 2543 เนื่องจากขณะนั้นมีการผลิตเกินความต้องการ
ปัจจุบันมีผู้ผลิตแคลเซียมออกไซด์รายใหญ่ในประเทศ 4 ราย มีกำลังการผลิตรวมประมาณ 615,000 ตันต่อปี ในขณะที่ความต้องการใช้แคลเซียมออกไซด์มีอัตราการขยายตัวปีละประมาณ 8-10% ตามการขยายตัวของอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมเหล็ก เยื่อและกระดาษ น้ำตาล เคมี การก่อสร้าง การเกษตร และสิ่งแวดล้อม ซึ่งคาดว่าในปี 2553 จะมีความต้องการใช้ถึง 960,600 ตัน
ส่วนแคลเซียมคาร์บอเนตชนิดตกผลึก มีผู้ผลิตเพียงรายเดียว มีปริมาณการผลิตประมาณ 60,000 ตันต่อปี และคาดว่าจะมีความต้องการใช้ถึง 330,000 ตันในปี 2553 โดยแคลเซียมคาร์บอเนตชนิดตกผลึกจะนำไปใช้ในอุตสาหกรรมกระดาษ เพื่อลดปริมาณการใช้เยื่อกระดาษ